Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 667 ยากแก่การเข้าใจ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 667 ยากแก่การเข้าใจ
“ผมเป็นใคร คุณไม่มีสิทธิ์รู้หรอกนะ”
เย่เซิ่งเทียนใช้นิ้วซ้ายชี้ไปที่ซ่งหยวนลี่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“เขา ผมจะฆ่า พวกคุณจะปกป้องงั้นหรอ ?”
ทันใดนั้นท่านหนิงก็ตกตะลึง ดวงตาสองข้างจ้องมองไปที่แหวนไม้โบราณที่อยู่ในมือของเย่เซิ่งเทียน
“ท่านหนิง เป็นอะไรไป?”
จู่ๆท่านจางก็ตระหนักได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
“ไสหัวไปซะ!”
ทันใดนั้น ท่านหนิงก็ตบไปที่หัวของท่านจาง โดยที่ท่านจางไม่ทันได้รู้สึกตัว จู่ๆสมองของเขาก็แยกออกจากกันราวกับแตงโมที่ถูกแบ่งเป็นสองซีก
ฉากระทึกที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้คนของตระกูลซ่งพากันตกใจ!
ท่านหนิงเป็นเทพบู๊ที่ตระกูลกู่ส่งมาช่วยตระกูลซ่งของพวกเขา!
ทำไมตอนนี้ถึงได้ลงมือกับท่านจางล่ะ ทำไมถึงได้กินเนื้อพวกเดียวกัน!
ซ่งจื่อหลินตกใจ จนตัวสั่นเทา มองไปที่ท่านหนิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ“ท่านหนิง คะ คุณทำอะไรน่ะ!”
อย่าว่าแต่คนของตระกูลซ่งเลย แม้แต่เย่ว์อิ่นหลงก็งงงวย
นี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย ?หรือว่าชื่อเสียงของกูจะดังมาก จนทำให้อีกฝ่ายถึงขั้นต้องทำความเคารพ?
ทำไมตนถึงไม่รู้?
เย่ว์อิ่นหลงมีชื่อเสียงใหญ่โตขนาดนี้เสียเมื่อไร?
เย่ว์อิ่นหลงสีหน้ามึนงง เขาได้เตรียมจะลงมือแล้ว แต่สุดท้ายอีกฝ่ายเริ่มฆ่าคนของตัวเองอย่างเลือดเย็น!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“พี่เทียน นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ”
เย่ว์อิ่นหลงเหลือบมองไปทางเย่เซิ่งเทียนด้วยความงุนงง
“ซ่งจื่อหลิน ความผิดของลูกชายแกถึงตายก็ไม่สาสมกับความผิดหรือบาปกรรมที่ทำลงไป ตระกูลซ่งก่อกรรมทำชั่ว ยากที่หนีพ้นโทษเดนตาย แกคิดว่าใครๆก็อยากเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของแกรึไง?ฉันหนิงเจ๋อฮ่าวจะมีเม็ดทรายในตาไม่ได้ ถึงแม้ฉันจะเคารพตระกูลกู่ แต่กลับเกลียดชังหมาหัวเน่าอย่างพวกแก ตระกูลกู่ที่สูงส่ง ต้องถูกหมาหัวเน่าอย่างพวกแกทำให้อยู่ในสภาพแบบนี้!”
เทพบู๊เคารพบูชาตระกูลกู่ เดิมทีซ่งจื่อหลินได้เชิญกำลังเสริมมาช่วย ตอนนี้จู่ๆกลับย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ทำให้ทุกคนคลำไม่เจอสมองไม่รู้จะทำอย่างไรดี
คนของตระกูลซ่งมองไปที่หนิงเจ๋อฮ่าวด้วยความหวาดกลัว เขาเป็นถึงเทพบู๊ผู้แข็งแกร่งเชียวนะ ตอนนี้เขาจะลงมือกับตระกูลซ่งอย่างงั้นหรอ?
“หนิงเจ๋อฮ่าว บังอาจ!”
ซ่งจื่อหลินทั้งตกใจและทั้งโกรธ ใครจะไปคิดว่าหนิงเจ๋อฮ่าวจะมาทรยศหักหลังในเวลานี้?เขากล่าวอย่างดุดัน“หนิงเจ๋อฮ่าว แกมันก็แค่หมาที่ตระกูลกู่ของเราเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง แกคิดจะก่อกบฏอย่างงั้นหรอ?แกกำลังรนหาที่ตาย!ตระกูลกู่ของฉันสามารถเลี้ยงแกได้ ก็สามารถฆ่าแกได้เหมือนกัน!วันนี้แกกล้าลงมือกับฉัน ตระกูลกู่จะทำให้แกตายอย่างไร้ที่ฝัง!”
“วุ่นวาย!”
หนิงเจ๋อฮ่าวฟาดฝ่ามือตบกลางอากาศไปหนึ่งครั้ง ภาพหลอนของฝ่ามือควบแน่นในความว่างเปล่า ตบลงบนร่างของซ่งจื่อหลิน
ซ่งจื่อหลินไม่ทันรู้สึกตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกตบจนกลายเป็นเนื้อเหลว
“ทุกคนในตระกูลซ่ง ออกไปมอบตัวเดี๋ยวนี้ ใครกล้าหนี นี่จะเป็นจุดจบ!”
เสียงของหนิงเจ๋อฮ่าว ทำให้คนของตระกูลซ่งตกตะลึง หวาดกลัว
เทพบู๊คนหนึ่ง อยากฆ่าพวกเขา ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ!
“อย่าฆ่าพวกเรานะ อย่าฆ่าพวกเรา เราจะออกไปมอบตัวเดี๋ยวนี้”
คนในตระกูลซ่งจะกล้าต่อต้านได้อย่างไร หกล้มคลุกคลานวิ่งออกไป
ฉากนี้ ทำให้เย่ว์อิ่นหลงตกตะลึงงัน มองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างงุนงง“พี่เทียน ตาแก่นี่จะทำอะไรกันแน่?หรือเขาจะพ่ายแพ้ต่อความเผด็จการ อยากจะประจบพี่อย่างงั้นหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนเหลือบมองไปที่เขาแวบหนึ่ง เย่ว์อิ่นหลงรีบปิดปากของตัวเอง แล้วถลึงตาใส่ หนิงเจ๋อฮ่าว
ตาแก่คนนี้หมายความว่าไง?
ตอนนี้เหลือแค่พวกเขาสามคนแล้ว หนิงเจ๋อฮ่าวถึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“คุณเย่ครับ ผมสามารถดูแหวนไม้วงนั้นในมือของคุณหน่อยได้ไหมครับ?”
เย่เซิ่งเทียนเหลือบมองเขา แล้วหันหลังแล้วเดินออกไป เขาไม่มีเวลาพูดคุยกับหนิงเจ๋อฮ่าว และขี้เกียจคุยกับเขาด้วย
ตระกูลซ่งได้รับการจัดการแล้ว และปัญหาที่แท้จริงเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ตระกูลซ่งก็เป็นแค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น ตระกูลกู่ต่างหากที่ต้องจัดการจริงๆ!
“คุณเย่?”
หนิงเจ๋อฮ่าวสีน่าอึดอัดใจ ยืนอยู่กับที่อย่างทำตัวไม่ถูก
เย่ว์อิ่นหลงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“นี่ตาแก่ แกคิดว่ามาประจบสอพลอพี่เทียนของฉันมันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?ยังคิดอยากจะตีสนิทกับพี่เทียนของฉันอีก?แกคิดว่าแกเป็นใครห้ะ”
หนิงเจ๋อฮ่าวส่ายหัวไปมาอย่างขมขื่น“จอมมาร เข้าใจผิดแล้ว”
“ชิ คนที่อยากจะประจบพี่เทียนมีถมไป แกไม่ได้รับคิวนั้นหรอก รอคิวของแกต่อไปเถอะ”
หลังจากที่เย่ว์อิ่นหลงพูดประชดประชันเสร็จ ก็เดินตามออกไปทันที
หนิงเจ๋อฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วโทรศัพท์เบอร์ที่เขาแทบจะลืมมันไปแล้ว“ประมุขปรากฏตัวขึ้นที่เมืองโมตู รีบมายืนยันตัวเดี๋ยวนี้!”