Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 703 ปู่บุญธรรม
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 703 ปู่บุญธรรม
“ไอ้เด็กนี่ เธอข่มขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?”
กู่ชางหลงตบหัวเย่เซิ่งเทียนไปหนึ่งที “อายุยังน้อย แต่ใจกล้าไม่เบานี่ ชายแก่อย่างฉันเล่าเรื่องตระกูลโบราณที่ลึกลับให้เธอฟัง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ็ดตระกูลเก่าแก่ล่ะ?”
เย่เซิ่งเทียนตอบอย่างเคืองๆว่า “ตาแก่ พอได้แล้วล่ะ อย่าคิดว่าคุณอายุมากแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรคุณนะ รีบๆคิดหน่อย จะร่วมมือกันไหม? ถ้าจะร่วมมือกันก็เล่าเรื่องพวกนั้นมา ไม่ร่วมมือกันก็ไม่ต้อง”
จู่ๆเย่เซิ่งเทียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ยังไงก็มีตระกูลกู่ร่วมมืออยู่แล้วนี่ ถ้าฉันชนะ ตระกูลกู่จะเจริญไปด้วย ถ้าฉันตาย ตระกูลกู่ก็ซวยตาม ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะไม่ทุกข์ร้อน”
กู่ชางหลงจ้องมองที่เย่เซิ่งเทียนเป็นเวลานาน แล้วลูบหัวเย่เซิ่งเทียน ถามอย่างสังสัยว่า “เธอไม่ใช่ลูกสุดที่รักของเย่หลงเหรอ? ทำไมเธอกับเขาช่างเหมือนกันไร้ยางอาย?”
“ตาแก่ คุณพอได้แล้ว!”
เย่เซิ่งเทียนยกมือขึ้นปัดมือของกู่ชางหลงออก แต่ว่ากลับถูกกู่ชางหลงตบหัวไปอีกหนึ่งทีจนร่างกายแข็งทื่อไม่ไหวติง
กู่ชางหลงพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ก็แค่แดนเหนือโลกีย์ก็แค่นั้น แข็งแกร่งมากงั้นเหรอ? ขนาดชายแก่ผู้นี้ที่แข็งแกร่งในแดนลอยเมฆยังไม่จองหองเท่าเธอ!”
เย่เซิ่งเทียน:”……”
ตาแก่แข็งแกร่งมาก เอาชนะไม่ได้!
ตาแก่ รออีกเดี๋ยวเถอะ!
แค้นนี้ ฉันจะจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ!
เดี๋ยวนะ ตาแก่คนนี้ไม่จริงใจเลย!
เมื่อกี้เขาพึ่งพูดว่าทันทีที่เขาเข้ามาในแดนเหนือโลกีย์แล้ว พลังก็มาถึงขีดสุดไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าไร้หนทางแล้วไม่ใช่เหรอ?”
แล้วผู้แข็งแกร่งแดนลอยเมฆนี่มันคืออะไรกัน?
หลังจากแดนเหนือโลกีย์แล้วก็ยังมีแดนลอยเมฆอีกงั้นเหรอ?
“ตาแก่ คุณไม่ได้บอกว่าไร้หนทางแล้วไม่ใช่เหรอ?”
กู่ชางหลงหน้าแดงขึ้นนิดหน่อย พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “เรียกฉันว่าคุณปู่ก่อนแล้วจะบอก”
“คุณปู่บุญธรรม บอกผมหน่อยได้มั้ย? ตอนนี้ผมติดอยู่ในแดนเหนือโลกีย์แล้ว ทำยังไงก็หนีออกไปไม่ได้”
เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยท่าที่ยิ้มแย้ม
ฝากไว้ก่อนเถอะ!
ตอนนี้ข้ายังเอาชนะแกไม่ได้
อีกหน่อย ข้าจะทำให้แกต้องเสียใจ!
“???”
กู่ชางหลงมองไปที่เย่เซิ่งเทียนด้วยความประหลาดใจ ไอ้เด็กคนนี้มันเป็นเย่หลงกลับชาติมาเกิดรึไง? ท่าทางหน้าไม่อายแบบนี้มันช่างเหมือนเย่หลงซะจริง!
ตอนแรกเขาคิดว่ายังไงเย่เซิ่งเทียนก็ไม่มีทางยอมแน่ คิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กคนนี้จะยอมกัดฟันรับเขาเป็นปู่บุญธรรมจริงๆ!
“เธอไม่ใช่ลูกของเย่หลงจริงๆน่ะเหรอ? ไอ้ท่าทางหน้าไม่อายนี่มันเหมือนราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลย”
ร่างของเย่เซิ่งเทียนที่ถูกฝังอยู่ในดินครึ่งหนึ่ง กู่ชางหลงลูบหัวเย่เซิ่งเทียนอย่างประหลาดใจ ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับตอนลูบหัวเย่หลงเลย
กู่ชางหลงพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ไม่เอาเรื่องตระกูลกู่มาขู่ฉันแล้วเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนดันตัวเองออกมาจากพื้น แล้วพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “คุณปู่ จะกล้าทำอย่างั้นได้อย่างไร พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ อีกหน่อยผมกับกู่เหอก็เป็นพี่น้องกันแล้วล่ะ ผมก็ต้องเป็นพวกเดียวกับตระกูลกู่แน่นอน ไอ้มังกรร้ายของตระกูลกู่ตัวนั้นให้ผมจัดการเถอะ”
กู่ชางหลงพูดด้วยท่าทีสบายๆว่า “นับว่าหลานคนนี้รู้ความนัก”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มมืดมน “คุณปู่บุญธรรม ได้ที่ไหนกันล่ะ นี่มันไม่ต้องมาเกรงอกเกรงใจอะไรกันแล้ว คุณมีสมบัติล้ำค่าอะไรก็บอกผมได้ตามสบายจะหนึ่งหรืองสองตัน ผมว่าก็ไม่น้อยไปนะ หลังจากนั้นจะมีการฝึกฝนอะไรยังไงก็บอกผมมาได้เลย”
กู่ชางหลงพูดด้วยสีหน้าเข้มว่า “ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนตัดสินใจเองเหรอ? เธอเป็นถึงลื่อของฉัน หลานคนนี้ฉันไม่เอา”
เย่เซิ่งเทียนกระแอมแล้วพูดว่า “คุณปู่บุญธรรม คุณคงไม่ได้ยากจนถึงขั้นที่ของขวัญซักชิ้นยังไม่มีให้หรอกใช่ไหม? แต่คุณอยู่มาสองร้อยกว่าปีแล้วนะ ยาวนานขนาดนี้ รับหลานบุญธรรมซักคน แม้แต่ของขวัญซักชิ้นยังไม่มี ช่างเถอะ ผมรู้ว่าคุณแกล้งตายมานานขนาดนี้ก็คงไม่ง่ายสินะ หลังจากคุณกลับไปใช้ชีวิตค่อยว่ากันแล้วกัน”
กู่ชางหลงหน้าเปลี่ยนสี ไอ้เด็กนี่มันกล้าดูถูกใครกันน่ะ ตั้งใจหมายถึงเขาแน่ๆ
ใครยากจนกัน!
ข้าคนนี้มีแต่ของเก่าแก่หายากอายุสองร้อยปีนะ!
ไอ้เด็กไม่รู้ความ