Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 704 เธอเป็นพวกรอของฟรีรึไง
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 704 เธอเป็นพวกรอของฟรีรึไง
“หลานเอ้ย ได้ยินแล้วล่ะ ฉันเข้ามาในแดนลอยเมฆได้ เป็นการทะลุทางร่างกายเท่านั้น พลังงานภายในเป็นแดนเหนือโลกีย์เหมือนเดิม อีกทั้ง หนึ่งร้อยปีมานี้ฉันฝึกฝนแดนเหนือโลกีย์นับครั้งไม่ถ้วน เท่ากับการเอานักบู๊เข้ามายังแดนเหนือโลกีย์ตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ดังนั้นพลังของฉันก็เลยใกล้เคียงกับผู้ที่อยู่ในแดนลอยเมฆไงล่ะ เข้าใจหรือยัง?”
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึงครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้
“คุณหมายความว่า หลังจากไร้หนทางไปต่อ คุณก็ฝึกฝนร่างกายอยู่เสมอ ฝึกฝนมาหนึ่งร้อยปี? อย่าบอกนะว่า ถ้าตอนนี้ได้วิชาของแดนลอยเมฆมา ก็จะสามารถสะสมเพิ่มพูนได้ แล้วประสบความสำเร็จอันใหญ่หลวง?”
กู่ชางหลงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้องแล้ว ถ้าหากเปรียบแดนเหนือโลกีย์เป็นหญ้าต้นหนึ่ง งั้นในระดับที่พอๆกัน รากของคนอื่นอาจจะยาวแค่หนึ่งหรือสองเมตร แต่ของฉันน่ะยาวหลายสิบเมตรเลยล่ะ เธอว่า ถ้าหากทั้งสองเริ่มเติบโตในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ใครจะโตเร็วกว่ากันล่ะ? ใครจะได้ลำต้นที่ใหญ่กว่ากันล่ะ?”
ชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา!
แต่ว่าคำแนะนำที่ไม่เข้าหูนี้กลับได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด
ในใจของเย่เซิ่งเทียนกรีดร้อง เขาเข้าใจแล้ว
แม้ว่าจะเป็นแดนเหนือโลกีย์เหมือนกัน แต่ชายชราคนนี้ฝึกฝนมาถึงหนึ่งร้อยปี แต่เขาฝึกมาได้กี่ปีกันล่ะ?
ราวกับว่าต้นไผ่ชนิดหนึ่ง ห้าปียังไม่โตแต่ปักหลักลงดิน เมื่อถึงฤดูฝนในปีที่หกสิบ ใช้เวลาแค่หกอาทิตย์ก็ยาวห้าสิบเมตร!!
ชายชราคนนี้ถ้าจับจุดการฝึกฝนได้ เกรงว่าจะแข็งแกร่งขึ้นได้จนน่าตกใจภายใต้เวลา
อันสั้น!!
เดี๋ยวนะ นี่มันไม่ถูกสิ แล้วของขวัญที่จะให้ฉันล่ะ?
พูดแค่ไม่กี่ประโยคแค่นั้นน่ะเหรอ?
ตาเฒ่าร้ายกาจนี่เจ้าเล่ห์นัก
ไม่ได้ ยังไงก็ต้องได้อะไรจากตาเฒ่านี่บ้าง
ปู่บุญธรรมของฉันนี่มันหลอกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตอนที่ฉันเรียกคุณปู่นั่นมันฟรีๆงั้นเหรอ?
“คุณปู่ ท่านพูดถูกต้อง รับคำสั่งสอนแล้ว อ่า…ไม่ใช่ว่าท่านไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ใช่ไหม?”
กู่ชางหลง:”……”
ไอ้เด็กนี่ทำไมมันน่าเกลียดขนาดนี้เนี่ย!
“ก็ได้ๆ เธอมันพวกไม่มีรางวัลไม่ลงมือทำงานสินะ ฉันจะให้วิชาการฝึกฝนวิญญาณดวงที่สอง แล้วก็ประสบการณ์การฝึกฝนของฉันด้วย พอใจรึยัง?”
เย่เซิ่งเทียนที่จะได้ทั้งวิชาและประสบการณ์การฝึกฝน เกาหัวแล้วยิ้ม “คุณปู่ คือว่า อีกไม่กี่วันผมเพิ่งแต่งงาน……”
สีหน้าของกู่ชางหลงเปลี่ยนไป หยิบจี้หยกขึ้นมาแล้วพูดว่า “นี่คือยันต์ป้องกันตัวระดับดำนอกจากจะกำจัดภัยร้ายได้แล้วยังสามารถเป็นตัวตายแทนได้ห้าครั้ง ”
เย่เซิ่งเทียนรับมา เกาหัวอย่างรู้สึกเกรงใจเล็กน้อยจึงพูดว่า “คุณปู่บุญธรรม เมียของฉันยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักมาก เธอชื่อเย่เยว่ซือ มีชื่อเล่นว่าซือซือ……”
กู่ชางหลง:”!!!”
เกินไปแล้ว!!!
เขากัดฟันหยิบจี้ล็อคอายุยืนออกมา”จี้ล็อคอายุยืนนี้ก็เป็นยันต์ป้องกันตัวระดับดำ”
เย่เซิ่งเทียนรับไว้ คิดไปคิดมา เกาหัวพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “คุณปู่บุญธรรมแม่ยายของฉัน……”
“ไปให้พ้น!”
กู่ชางหลงตบเย่เซิ่งเทียนจนตัวลอย
จะให้คนทั้งตระกูลของเธอมาปล้นของของฉันไปง่ายๆได้ยังไง
เย่เซิ่งเทียนกระเด็นออกจากถ้ำบนภูเขา ทุบแผ่นหินด้านนอกทั้งหมดที่สลักคำว่าคำว่า “แดนต้องห้าม”
“ขี้งก อยู่มาตั้งสองร้อยกว่าปีแล้ว ทำไมยากจนขนาดนี้เนี่ย”
เย่เซิ่งเทียนปัดฝุ่นที่อยู่บนตัว ยื่นปากบ่นอย่างไม่พอใจ
ตาแก่ยากจนอายุสองร้อยปี!
แต่ว่าของที่ได้มาก็นับว่ามากโขอยู่
อีกหน่อยจะเอาซีเอ๋อร์กับซือซือมาด้วย ตาแก่จะใจดำไม่ให้ของขวัญแรกพบงั้นเหรอ?
ถึงตอนนั้นค่อยให้แม่ยายมามอบตัวเองเป็นลูกสาวบุญธรรม ตาแก่จะยังใจดำไม่ให้ของขวัญอีกงั้นเหรอ
เย่เซิ่งเทียนยิ้มเบาๆ กู่เหอก็โง่เขลา ทิ้งปู่ไว้คนเดียวไม่ทำอะไร แล้วให้ตัวเองทำงานหนักคนเดียว ตัวเองทำงานหนักขนาดนั้นแล้วจะสุขสบายได้ไงกัน?
“เทียนจวิน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ภายนอกแดนต้องห้าม หนิงเจ๋อฮ่าวรีบเดินเข้ามา เขาเห็นเย่เซิ่งเทียนถูกตบกระเดินออกมาจากถ้ำ ก็มีสีหน้ากังวลใจ
เย่เซิ่งเทียนถอนหายใจเบาๆหนึ่งที แล้วพูดว่า “ตาแก่ให้ของขวัญและวิชากับฉัน ฉันเป็นใครกันล่ะจะรับได้ยังไง เลยเกิดทะเลาะวิวาทซักหน่อย เขาก็รับบาดเจ็บมาบ้าง นี่ก็คงไม่กล้าออกมาพบเจอผู้คนแล้ว นายรู้ก็ดีแล้ว อย่าให้คนภายนอกรู้ คนแก่มักจะคิดถึงเรื่องหน้าตา”
หนิงเจ๋อฮ่าวรีบพยักหน้ารัวๆ
เย่เซิ่งเทียนพูดต่อว่า “เรื่องนี้สำคัญมาก จะให้คนนอกรู้ไม่ได้ ขนาดที่ว่าคนตระกูลกู่คนอื่นจะถูกลบความทรงจำต่างๆที่เกี่ยวข้อง”
หนิงเจ๋อฮ่าวไม่กล้าปฏิเสธ ไม่เห็นเหรอว่าขนาดเทียนจวินยังโดนตบกระเด็นออกมาเลย?