Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 706 ขี่หลังเสือ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 706 ขี่หลังเสือ
เมื่อมองรอยยิ้มของเย่เซิ่งเทียน กู่เหอมีความรู้สึกแปลก ๆ และรู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนมีความคิดไม่ดี
เขาเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเย่เซิ่งเทียนมาก เพราะเมื่อเขายิ้มแบบนี้ นั่นหมายความว่าเขาต้องการจะหลอกอีกฝ่าย
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเย่เซิ่งเทียนถึงได้หลอกตนเอง สรุปก็คือรอยยิ้มนี้มีความหวังร้าย
“ไอ้กู่ นายคิดว่าการลงมือจัดการหกตระกูลเก่าแก่นั้น ควรเริ่มลงมือจัดการตระกูลไหนก่อน?”
เย่เซิ่งเทียนถามด้วยรอยยิ้ม
กู่เหอขนลุกไปทั่วร่างกาย เขาคุ้นเคยกับรอยยิ้มแบบนี้มาก เพื่อจัดการกู่เต้าหมิงและกู่ชวนสองพ่อลูกแล้ว ตนเองก็ใช้รอยยิ้มแบบนี้หลอกลวงพวกเขามานานหลายสิบปี เพราะรอยยิ้มแบบนี้ทำให้พวกเขาคลายความระแวดระวังกับตนเอง สุดท้ายพวกเขาถูกฆ่าตาย
ตอนนี้รอยยิ้มแบบนี้ของเย่เซิ่งเทียน ทำให้เขารู้สึกระแวงเล็กน้อย
“แค๊ก ๆ คุณเย่……”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวจังหวะ “เรียกชื่อผมก็พอ ต่อไปพวกเราจะกลายเป็นพี่น้องบุญธรรม”
กู่เหอยิ่งรู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนกำลังมีแผนร้าย “ตระกูลเซียวแข็งแกร่งที่สุดในหกตระกูลเก่าแก่ สามารถถือได้ว่าเป็นผู้นำ ถ้ากำจัดตระกูลเซียวก่อน ก็จะสามารถสยบอีกห้าตระกูลได้อย่างแน่นอน”
“ตระกูลฉินและตระกูลเซียวมีความเกี่ยวดองเป็นญาติกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเป็นพันธมิตรกันมานานกว่าร้อยปี แบ่งปันความสุขและความทุกข์ไปด้วยกัน ดังนั้นขณะที่จัดการตระกูลเซียว ต้องระวังตระกูลฉินด้วย”
“ตระกูลหานเป็นนกสองหัว ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง พวกเขาตามตระกูลฉินเสมอมา ขอเพียงแค่ข่มขู่จนพวกเขากลัว ก็จะสามารถถึงมาเป็นพวกได้ ตระกูลซุนและตระกูลฉินมีความแค้นต่อกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นพันธมิตร แต่ความแค้นยังคงอยู่ ขอเพียงวางแผนดี ๆ ก็จะสามารถทำให้พวกเขาแตกความสามัคคีกันได้”
“ตระกูลเจี่ยงต้องการแทนที่ตระกูลฉินมาตลอด เพียงแต่ตระกูลเจี่ยงเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่เคยแบ่งปันผลประโยชน์ให้คนอื่นแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงถูกตระกูลฉินปราบมาตลอด ตระกูลเว่ยกับตระกูลเจี่ยงมีความแค้นต่อกัน แต่พลังอำนาจของตระกูลเว่ยสู้ตระกูลเจี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงอาศัยตระกูลฉินปราบตระกูลเจี่ยง”
“ตระกูลฉิน ตระกูลเซียวและตระกูลเจี่ยง ล้วนมีผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกับคุณท่าน ผมเดาว่าไม่น่าจะต่ำกว่าสองคน ส่วนตระกูลหาน ตระกูลซุนและตระกูลเว่ยนั้นพูดยาก ถ้าพวกเขามี มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้น”
“ความขัดแย้งระหว่างตระกูลเก่าแก่นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่ระหว่างตระกูลเก่าแก่มีข้อตกลงกัน ความขัดแย้งเหล่านี้จำกัดไว้เพียงแค่ระหว่างตระกูลเก่าแก่เท่านั้น ห้ามแพร่งพรายให้คนภายนอกรู้เด็ดขาด เพื่อเป็นการประกันผลประโยชน์ของเจ็ดตระกูลเก่าแก่”
เย่เซิ่งเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ที่แท้เป็นเช่นนั้นเอง ผมว่าแล้วเจ็ดตระกูลเก่าแก่จะสามารถรักษาความเป็นพันธมิตรตลอดได้อย่างไร ขอเพียงแค่มีความแตกแยกเพียงเล็กน้อย ก็จะแตกความสามัคคีกัน”
กู่เหอยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าเจ็ดตระกูลเก่าแก่จะมีความขัดแย้งกัน แต่เมื่อมีแรงกดดันจากภายนอก พวกเขาจะร่วมมือกันทันที ผมคิดว่าขุนหลวงคงรู้ความขัดแย้งระหว่างเจ็ดตระกูลเก่าแก่มานานแล้ว การที่เขายังไม่ลงมือเคลื่อนไหว นั่นเป็นเพราะเจ็ดตระกูลเก่าแก่สามารถรวมตัวกันจัดการคนภายนอกได้อย่างรวดเร็ว”
เย่เซิ่งเทียนตบไหล่กู่เหอเบา ๆ หัวเราะและกล่าวว่า “ไอ้กู่ ตอนนี้ผมมีนายอยู่ พวกเราเป็นพี่น้องบุญธรรมไม่ใช่เหรอ? ปู่บุญธรรมบอกให้นายช่วยผมแก้ปัญหานี้ มิฉะนั้นเขาจะไม่ยอมรับหลานชายอย่างนาย”
กู่เหอรู้ว่าถ้าเจ้าหนูคนนี้ยิ้ม จะต้องมีเรื่องไม่ดีแน่นอน ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถไปถามคุณท่านว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่? เพราะเย่เซิ่งเทียนจะไม่ให้โอกาสนี้แก่เขา
“ผมบอกได้แค่ว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ผมไม่สามารถรับประกันว่าจะสำเร็จหรือไม่?”
กู่เหอกล่าวด้วยความจำใจ เขารู้ว่าตนเองอยู่บนหลังเสือแล้ว ไม่สามารถโทษใครได้ เพราะถ้าไม่อาศัยความช่วยเหลือของเย่เซิ่งเทียนแล้ว เขาก็จะไม่สามารถยึดอำนาจได้ เมื่ออาศัยความช่วยเหลือจากเขาแล้ว ก็จะไม่สามารถสลัดเขาทิ้งไปได้
โชคดีที่เขาเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว
“ถ้าเช่นนั้นพวกเรามาสาบานกันเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวเพิ่มเติม เขาไม่ให้โอกาสกู่เหอกลับคำ ขอเพียงแค่เขาสามารถดึงตระกูลกู่เข้ามาเป็นพวก เขาไม่เชื่อว่าถ้าเวลาวิกฤต ชายชราอย่างกู่ชางหลงจะนั่งดูดาย
แปะ ๆ ๆ!
กู่เหอแตะมือกับเย่เซิ่งเทียนเป็นการสาบานด้วยความจำใจ หลังจากนั้นเย่เซิ่งเทียนก็กล่าวด้วยความพึงพอใจว่า “ตอนนี้พวกเราไปจัดการมังกรร้ายตัวนั้นกันเถอะ เดือนหน้าเป็นวันเกิดของลูกสาวผม คุณในฐานะลุง ผมต้องเชิญคุณมางานวันเกิดอย่างแน่นอน แต่คุณไม่ต้องเตรียมของขวัญน่ะ เมื่อสักครู่คุณท่านได้มอบจี้ล็อคอายุยืนระดับดำเป็นของขวัญแล้ว เขาบอกว่ามันเป็นของขวัญพบหน้ากัน เฮ้อ! จริงสิ แต่เด็กต้องการของขวัญนี่?”
กู่เหอ “……”
นายยังสามารถชัดเจนกว่านี้ไหม?
ไร้ยางอายจริง ๆ
คุณท่านมอบจี้ล็อคอายุยืนระดับดำให้เป็นของขวัญแล้ว ถ้าของขวัญของตนเองด้อยกว่า แล้วจะควรค่าแก่การนำออกไปได้อย่างไร?
กู่เหอกล่าวด้วยท่าทางแข็งกระด้างว่า “เด็กไม่ชอบของขวัญได้อย่างร? ของขวัญพบหน้าต้องมีอยู่แล้ว ผมในฐานะลุง แล้วผมจะไปมือเปล่าได้อย่างไร เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่งแล้ว”
“ฮ่า ๆ ในเมื่อนายยืนกรานขนาดนี้ ก็แล้วแต่นายเถอะ ไปกันเถอะ ไปจัดการมังกรร้ายกันเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกอารมณ์ดีมาก
การเป็นหลานชายบุญธรรมมัน จะเป็นฟรีๆงั้นได้ยังไง