Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 713 แกล้งเป็นแฟนของฉันเถอะ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 713 แกล้งเป็นแฟนของฉันเถอะ
“คุณเย่ คุณสามารถช่วยฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
กู่ฉิงฉิงมองเย่เซิ่งเทียนด้วยความคาดหวัง
“ช่วยเธอยกเลิกสัญญาแต่งงาน?”
เย่เซิ่งเทียนถามด้วยรอยยิ้ม เขาวางแผนเรื่องนี้กับกู่เหอเอาไว้แล้ว ถ้าสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ ก็จะสามารถทำให้ตระกูลเซียวเปิดปากพูดความลับออกมาได้
กู่ฉิงฉิงแสดงท่าทางเขินอายที่ยากจะได้เห็น และกล่าวด้วยความเก้อเขินว่า “ฉันอยากจะให้คุณแกล้งเป็นแฟนของฉัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เซียวจ้านไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน แล้วเขาจะเป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงานเอง…..”
สุดท้ายเสียงของกู่ฉิงฉิงเล็กลงเรื่อย ๆ เพราะถ้านับตามรุ่นแล้ว เย่เซิ่งเทียนเป็นอาบุญธรรมของเธอ
นี่เป็นโอกาสดี
ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนเป็นประกาย จ้องกู่ฉิงฉิงอย่างละเอียด นึกไม่ถึงว่ากู่ฉิงฉิงจะมีความคิดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
“นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คุณสามารถช่วยผมได้มาก”
เปาจี้จู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เทียน มีผมกับฉิงฉิง ยังมีอะไรที่พี่ทำไม่ได้อีก? พวกเราเป็นเหมือนจูเก่อเลี่ยงที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างกายพี่ ตอนนี้พี่มีพวกเราสองคน การที่พี่ไม่ได้เป็นราชานั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก”
สีหน้าของเย่เซิ่งเทียนเคร่งขรึม
หนิงเจ๋อฮ่าวระงับเสียงหัวเราะ มีคนที่ชอบคุยโวโอ้อวดสองคนนี้ เกรงว่าจะทำให้จินหลิงโกลาหลวุ่นวาย
เพียงแค่ไม่รู้ว่าผู้รับผิดชอบฟ้าสยบที่นั่นเป็นใคร และเขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลเซียวมากแค่ไหน
เขาส่งข่าวไปยังสำนักงานใหญ่สิบกว่าวันแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับจากสำนักงานใหญ่ ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่
หรือว่าพวกเขาไม่เชื่อใจเย่เซิ่งเทียน?
หนิงเจ๋อฮ่าวเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเช่นกัน
หากเย่เซิ่งเทียนเข้ารับตำแหน่งผู้นำของฟ้าสยบอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะอย่างไรหนิงเจ๋อฮ่าวก็จะถือเป็นผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายเย่เซิ่งเทียน จะทำให้เขาได้รับประโยชน์ไม่น้อย
และสถานะจะสูงขึ้นไปได้เรื่อย ๆ?
แต่ถ้าทางสำนักงานใหญ่มีความคิดอื่น แล้วเขาควรจะทำอย่างไร?
หนิงเจ๋อฮ่าวรู้สึกกังวลมากเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ที่เมืองโมตู
เหย้ซูหลิงได้รับโทรศัพท์และถามด้วยความประหลาดใจ “เย่เซิ่งเทียนจัดการตระกูลกู่ได้รวดเร็วขนาดนั้นเชียวเหรอ? ในที่สุดกู่ชางหลงก็ทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เขาออกมาแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ คุณหนู ดูเหมือนว่าเย่เซิ่งเทียนกับกู่ชางหลงจะคุยกันถูกคอ กู่ชางหลงกลายเป็นปู่บุญธรรมของเย่เซิ่งเทียนไปแล้ว ตอนนี้ตระกูลกู่กำลังมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ คุณหนูต้องการให้ฉันทำอะไร?”
เสียงโทรศัพท์อีกฝ่ายเบามาก เห็นได้ชัดว่ามีคนแอบซุ่มอยู่ในตระกูลกู่
เพราะกู่ชางหลงกับเย่เซิ่งเทียนได้ล้างความทรงของคนตระกูลกู่ทั้งหมดแล้ว ยกเว้นเพียงแค่กู่เหอกับพ่อบ้านจงฮั่นสองคนเท่านั้น
“ไม่ต้อง เธออยู่ที่นั่นต่อไปเถอะ กู่ชางหลงหลบซ่อนตัวมาหลายปีแล้ว เขาคิดว่าพวกเราไม่รู้ ถ้าพวกเราอยากจัดการเขาจริง ๆ แล้วจะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ได้อย่างไร? เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก อยู่ที่นั่นดี ๆ ก็พอแล้ว”
“ค่ะคุณหนู เย่เซิ่งเทียนออกเดินทางไปที่จินหลิงแล้ว และเขาแกล้งเป็นแฟนของกู่ฉิงฉิง”
“ฉันรู้แล้ว”
เหย้ซูหลิงวางสายและกล่าวกับตนเองว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตระกูลลี้ลับจากตระกูลกู่แล้ว และคิดจะเริ่มลงมือจากตระกูลเซียวก่อน”
ทันใดนั้น เหย้ซูหลิงก็กล่าวอีกว่า “ฮึ่ม เย่เซิ่งเทียน คุณคิดว่าฉันควรจะจัดการคุณหรือไม่? หรือว่าจะสร้างปัญหาให้กับคุณ? คุณเป็นคนที่ทำลายความบริสุทธิ์ของฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถปล่อยคุณไปแบบนี้ได้หรอก”
ทันใดนั้น เหย้ซูหลิงก็กล่าวด้วยความโมโหว่า “นึกไม่ถึงว่าคุณจะกล้าแกล้งเป็นแฟนของผู้หญิงคนอื่น บ้าเอ๊ย ผู้ชายสารเลว คอยดูกันว่าฉันจะจัดการคุณอย่างไร? ถ้าหวางซีพบเข้า มันต้องน่าสนุกอย่างแน่นอน?”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหย้ซูหลิงยิ้มด้วยความชั่วร้าย
เมื่อก่อนเพื่อสร้างเกมให้เย่เซิ่งเทียนแล้ว เธอได้เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนแกล้งเป็นแฟนของผู้หญิงคนอื่น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เธอมีความรู้สึกเหมือนถูกสามีนอกใจ
น่ารังเกียจ!
ถุย!
ผู้ชายสารเลว!
เหย้ซูหลิงแอบด่าอยู่ในใจ
แต่เธอลืมไปว่าเกมทั้งหมดนี้เธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งเย่เซิ่งเทียนถึงจะเป็นผู้ถูกกระทำ