Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 733 ห้องลองเสื้อ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 733 ห้องลองเสื้อ
เย่เซิ่งเทียนหลับตาลง ขี้เกียจสนใจเธอ
เมื่อก่อนเขารู้แค่ว่า เหย้ซูหลิงบ้านมีฐานะ แต่เขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอ
คิดว่าเธอเป็นคนลูกคุณหนูคนหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่แบบนั้น
เหย้ซูหลิงไม่เพียงแต่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา ยังรู้เรื่องของฟางหยวนอีกด้วย ดูท่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
เมื่อเห็นเย่เซิ่งเทียนไม่สนใจตัวเองอีก เหย้เซิ่งเทียนก็เหยียบคันเร่งอย่างประชดประชัน พุ่งตรงไปตามตามถนน
อย่างไรก็ตามทักษะการขับรถของเธอดีมาก ทำให้คนขับรถคนอื่นๆตกใจกันเป็นแถว พากันก่นด่าไม่หยุด
“ไปกันเถอะ ไปซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนฉันก่อน อืม และซื้อเสื้อผ้าให้นายด้วย ผู้ชายของฉัน จะใส่เสื้อผ้าโกโลโกโสได้ยังไง”
เหย้ซูหลิงจ้องมองเย่เซิ่งเทียนพลางหัวเราะ แต่ในใจก่นด่าสาปแช่ง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน เย็นชาไร้ความรู้สึก
ฉันตาบอดไปจริงๆ ที่มอบครั้งแรกให้นาย
ไอ้อู๋พูดถูก ฉันเสียเปรียบจริงๆ
หึ ถึงนายจะเป็นซุนหงอคง คืนนี้ก็อย่าหวังจะรอดจากเงื้อมมือฉันไปได้เลย
ฉันจะคอยดูว่า นายจะเผชิญหน้ากับหวางซียังไง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเหย้ซูหลิงก็เผยให้เห็นความชั่วร้าย เธอแสร้งทำเป็นพูดขึ้นว่า“เพื่อน นายแต่งงานรึยัง?”
เย่เซิ่งเทียนยังคงไม่สนใจ
เหย้ซูหลิงพูดเองเออเองว่า“ผู้ชายซื่อบื้อที่ไม่เข้าใจผู้หญิงอย่างนาย ต้องยังโสดอยู่ใช้ไหม?ไม่งั้นนายเป็นแฟนกับฉันเถอะ นายถึงเทพเจ้า ไม่มีผู้หญิงสักคนเคียงข้างเลยหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนยืดบิดขี้เกียจ ราวกับไม่ได้ยิน
เหย้ซูหลิงแอบก่นด่าผู้ชายคนนี้ แล้วเหยียบคันเร่งอย่างแรง เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า“ถึงแล้ว ลงรถได้แล้ว!”
เย่เซิ่งเทียนกลอกตาใส่เธอ แล้วเดินลงจากรถ
เหย้ซูหลิงควงแขน ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของเย่เซิ่งเทียน ราวกับคู่รักที่กำลังกะหนุงกะหนิงกันอยู่
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้ว อยากจะชักแขนกลับมา แต่เหย้ซูหลิงกับกอดเอาไว้แน่น พลางกระซิบข้างๆหูของเขาว่า“วันนี้นายเป็นคนของฉันนะ ทำไมกัน ผู้หญิงสวยๆอย่างฉันควงนายเชียวนะ นายไม่พอใจงั้นหรอ?ฉันจะบอกอะไรให้นะ นี่คือเงื่อนไขของฉัน ถ้านายไม่พอใจ ฉันก็จะรีบปล่อยตัวนาย แต่นายอย่าคิดจะล่วงรู้อะไรไปจากฉันเลย”
“อย่าได้คืบจะเอาศอกนะ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างรังเกียจ
แต่เขาทำได้แค่อดทน เพื่อที่จะรู้เรื่องของฟางหยวน
เขาคาดการณ์นิสัยของเหย้ซูหลิงไม่ได้จริงๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นตำนานของโรงเรียนมัธยมหนิง เป็นยัยแม่มดคนหนึ่ง
เหย้ซูหลิงไม่สนใจความรู้สึกของเย่เซิ่งเทียน เธอพาเย่เซิ่งเทียนเข้าไปเลือกชุดสำหรับงานเลี้ยงช่วงค่ำ
พนักงานแนะนำสินค้าพูดประจบ“คุณผู้ชาย โชคดีจริงๆเลยนะคะ แฟนของคุณสวยขนาดนี้ ซื้อชุดสีม่วงชุดนี้เถอะค่ะ เหมาะกับแฟนของคุณมากเลยนะคะ”
“เธอไม่ใช่แฟนของผม”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างรำคาญ
พนักงานแนะนำสินค้าถึงกับเขินไปเลย ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงต่อไป
เหย้ซูหลิงพูดอย่างยิ้มๆ“เขากำลังทะเลาะกับฉันอยู่น่ะค่ะ เราเลือกเองเถอะ คุณไม่ต้องตามเราหรอก”
พูดจบ เหย้ซูหลิงก็หยิบชุดสีม่วงราตรีเข้าไปในห้องลองเสื้อ หลังจากผ่านไปไม่นานเธอก็ถามออกมาว่า“ที่รัก ช่วยฉันดูหน่อยสิคะว่าเป็นยังไง?ฉันสวยไหมคะ?”
สีม่วงสีแบบนี้ ไม่ใช่ว่าใครจะใส่ก็ได้
ความแพงบนตัวของเหย้ซูหลิง ทำให้เธอสามารถดึงความสวยงามของสีม่วงออกมาได้
เย่เซิ่งเทียนกลับไม่มีกะจิตกะใจต่อล้อต่อเถียงกับเธอ จึงไม่ได้สนใจ
เหย้ซูหลิงแอบกัดฟันกรอด เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้เพื่อที่เขาจะลอบวางแผนเย่เซิ่งเทียน เธอแสร้งปลอมตัวเป็นหลี่เย็นหรานเพื่อมีความสัมพันธ์กับเย่เซิ่งเทียน จึงอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้
เสียเปรียบให้ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่เข้าให้แล้ว ที่มอบครั้งแรกของตัวเองให้เขา แต่เขากลับไม่อยากพูดอะไรกับเธอแม้แต่คำเดียว
หึ นายรอก่อนเถอะ ดูสิว่าคืนนี้ฉันจะจัดการนายยังไง
เมื่อคิดถึงว่าคืนนี้หวางซีจะปรากฏตัว เหย้ซูหลิงก็อยากรู้มากๆว่า ถ้าเธอกับเย่เซิ่งเทียนปรากฏตัวต่อหน้าของหวางซีอย่างสนิทสนม หวางซีจะรู้สึกอย่างไร?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหย้ซูหลิงก็แอบทำเสียงหึ แล้วหยิบเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งเข้าห้องลองเสื้อ
ทันใดนั้น เหย้ซูหลิงก็กรีดร้องออกมา เหมือนกับจะหกล้ม พลางพูดว่า“เย่เซิ่งเทียน รีบเข้ามาช่วยฉันเร็วเข้า ฉันหกล้ม ลุกไม่ขึ้น”
“รีบออกมาซะ ฉันไม่มีเวลาเล่นกับเธอนะ”
เห็นได้ชัดว่าเย่เซิ่งเทียนไม่เชื่อ ใครจะไปรู้ว่าเหย้ซูหลิงวางแผนอะไรอยู่
เหย้ซูหลิงพูดอย่างสะอึกสะอื้น“ฉันไม่ได้โกหกนายนะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน ล้มคราวนี้มันรุนแรงมาก ถ้านายไม่เข้ามาช่วยฉัน ฉันก็จะไม่บอกนายเด็ดขาด อีกอย่าง ฉันรู้ว่ามันมากกว่าที่นายคิดมาก แต่นายอย่าเสียใจทีหลังล่ะ ฉันยังรู้อีกว่าไอ้อู๋เป็นใคร”