Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 739 นางพญางู
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 739 นางพญางู
ซุนทงรู้สึกมึนงง โจวอีอีตายอยู่ในมือของเขา!
“ซะ ซุนทง นะ นายฆ่าโจวอีอี”
หญิงสาวอีกคนมีนามว่าโม่อวี่ เธอมองไปที่ซุนทงด้วยความตกใจกลัว
“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้หมอนี่เป็นคนฆ่าต่างหาก มันเกี่ยวอะไรกับฉัน!”
ซุนทงทิ้งกริชที่อยู่ในมือ แล้วจ้องมองเย่เซิ่งเทียนด้วยความโกรธแค้น แต่สายตากลับเผยให้เห็นความหวาดกลัว เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า“กะ แกกล้าฆ่าโจวอีอี แกรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร?แกรู้ไหมว่าเราเป็นใคร?แกตายแน่ แกฆ่าเทพเจ้า แกจะต้องถูกล้างโคตร!”
เย่เซิ่งเทียนตบเขาลงพื้น แล้วพูดอย่างหงุดหงิดว่า“เสียงดัง”
“กะ แกกล้าฆ่าซุนทง กะ……”
โม่อวี่ตกใจกลัวก้าวถอยหลังไปหลายก้าว แต่กลับถูกกริชเสียบเข้าด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว
หลังจากนั้นโม่อวี่ก็มองไปที่ด้านหลังของเธอด้วยความแปลกใจ เหย้ซูหลิงพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“ตายตอนนี้ พวกเธอยังได้ไปเจอกันที่ปรโลกด้วยกัน”
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วมองไปที่เหย้ซูหลิง เขาไม่คิดจะฆ่าโม่อวี่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเหย้ซูหลิงจะฆ่าโม่อวี้ อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้
เหย้ซูหลิงพูดพลางหัวเราะคิกคัก“มองฉันทำไม?ถ้าฉันไม่ฆ่าปิดปาก นายคิดว่านายจะมีชีวิตรอดออกไปได้งั้นหรอ?ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่เทพเจ้าอะไร ถ้าตระกูลพวกนี้อยากฆ่านาย มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ฉันหวังดีกับนายนะ”
ระหว่างที่พูด บนนิ้วมือของเหย้ซูหลิงมีเปลวไฟสีฟ้าจางๆค่อยๆโผล่ขึ้นมา จากนั้นก็ทำการแผดเผาร่างไร้วิญญาณที่อยู่บนพื้นจนเป็นผุยผง
ในขณะที่ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ใบหน้าของเหย้ซูหลิงมีรอยยิ้มเล็กน้อย มองดูท่าทีของเย่เซิ่งเทียนที่รู้สึกขนลุกขนพอง
เหย้ซูหลิง เป็นนางพญางู!
คนของตระกูลลี้ลับแต่ละคนที่ออกมา ไม่มีคนปกติแม้แต่คนเดียว แต่มีจุดหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ไม่เห็นค่าชีวิตของคนอื่น!
“ที่นี่คือห้องวีไอพี ไม่มีคนเข้ามาหรอก”
เหย้ซูหลิงยิ้มแล้วควงแขนของเย่เซิ่งเทียน พลางกล่าวอย่างสนิทสนม“ที่ฉันทำแบบนี้เพื่อนายเลยนะ นายห้ามรังเกียจฉันนะ ไปกันเถอะ งานเลี้ยงของเรา กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว สิ่งที่ฉันรับปากนาย ฉันจะบอกนายให้หมด”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น เรื่องเมื่อกลางวัน เป็นสิ่งที่เหย้ซูหลิงตั้งใจ!
จากความเหี้ยมโหดของผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอต้องทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
มันมีประโยชน์อะไรกับเธอ?
หรือว่าเธอแค่อยากยืมมีดเพื่อฆ่าคน?
แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลนี่นา
เย่เซิ่งเทียนเก็บความคิดนี้ไว้ เหย้ซูหลิงผู้หญิงแบบนี้ อาจจะมีแผนการซับซ้อนไปอีกขั้น
เธออาจจะเป็นการค้นพบของตระกูลลี้ลับก็ได้
ด้านนอกมีคนเดินไปมามากมาย ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อครู่ในห้องวีไอพีเกิดอะไรขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น งานเลี้ยงวันนี้เดิมทีเป็นงานที่เหย้ซูหลิงแอบจัดขึ้น ดังนั้นอยากให้คนอื่นๆไม่รู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ
แน่นอนว่า คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครรู้ว่า เบื้องหลังของงานเลี้ยงในวันนี้จะเป็นเหย้ซูหลิง
คนที่มาเข้าร่วมในงานรู้จักเหย้ซูหลิงไม่เยอะ นอกจากคนเหล่านั้นที่เหย้ซูหลิงทักทายในตอนแรก ที่เหลือก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักเธอเลย
เหล่าบรรดาลูกหลานคนรวย มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับเหย้ซูหลิง
“เหย้เหย้ เธอก็มาหรอเนี่ย?แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ”
ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวสวมชุดจีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามา สิ่งที่น่าแปลกก็คือบนชุดจีนมีกุญแจมือห้อยอยู่บนนั้น การแต่งกายแปลกประหลาดแบบนี้กลับทำให้รู้สึกแปลกประหลาดมาก
เธอดึงมือของเหย้ซูหลิง แล้วพูดอย่างมีความสุข“คุณชายสวี่พวกเขาอยู่ตรงโน้น เราไปกันเถอะ”
เหย้ซูหลิงพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย“หลินเจียวเจียว นี่เย่เซิ่งเทียนเป็นแฟนฉันเองแหละ เรียกพี่เขยสิ”
“ห้ะ?เหย้เหย้มีแฟนแล้วหรอ?งั้นคุณชายสวี……”
หลินเจียวเจียวพูดจบก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ จึงพูดอย่างเขินๆว่า“พี่เซิ่งเทียนคะอย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันแค่ล้อเล่นเองค่ะ”
พูดจบ ก็แลบลิ้นอย่างทะเล้น
เย่เซิ่งเทียนยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าให้เธอ
หลินเจียวเจียวแอบกระซิบข้างๆหูของเหย้ซูหลิง“เหย้เหย้ แฟนของพี่หล่อมาก ไปหามาตอนไหนเนี่ย?เขามีพี่ชายหรือน้องชายไหมคะ?แนะนำให้ฉันหน่อยสิ ถ้าขี้เหร่ก็ช่วงเถอะ”
เหย้ซูหลิงพูดเล่น“ฉันยกเขาให้เธอดีไหม?”
หลินเจียวเจียวตาเป็นประกายทันที“พูดจริงหรอ?งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ”