Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 751 ตาเฒ่าหลินจริงๆด้วย
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่751 ตาเฒ่าหลินจริงๆด้วย
“ฉันหลินเต้าจื่อตาย ณ ที่แห่งนี้”
คำ9คำนี้ ก็ทำให้เย่เซิ่งเทียนตกใจอย่างมาก เยือกเย็นไปทั้งตัว
หลินเต้าจื่อ เป็นชื่อของตาเฒ่าหลิน
ตอนที่ตาเฒ่าหลินตายเขาก็อยู่ข้างๆกาย และเขาก็เป็นคนฝังตาเฒ่าหลินเองกับมือ
ที่นี่เป็นเมืองพุทธ จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้ยังไงกัน?
“หรือว่าชื่อเดียวกันงั้นเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนทำจิตใจให้สงบนิ่ง เขาเป็นคนฝังศพตาเฒ่าหลินเองกับมือ ไม่มีปรากฏตัวขึ้นที่นี่แน่
เว้นแต่ว่าตอนนั้นตาเฒ่าหลินไม่ได้เสียชีวิต ตัวเองก็วิ่งเร่มาตายที่นี่อีกครั้งแล้ว
แต่ว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย
เย่เซิ่งเทียนตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง อย่างน้อยเวลาตายของโครงกระดูกนี้ก็เกิน20ปีแล้ว ไม่มีทางเป็นตาเฒ่าหลินได้ บางทีชื่ออาจจะเหมือนกันก็ได้
หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ เย่เซิ่งเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่เช่นนั้นนี่ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว
ในอ้อมแขนของโครงกระดูก มีกล่องไม้เล็กกล่องหนึ่ง เย่เซิ่งเทียนหยิบออกมาแล้ว
หลังจากที่เปิดออก ด้านในมีจดหมายฉบับหนึ่ง แต่ตัวอักษรที่เขียนอยู่บนนั้น ทำให้เย่เซิ่งเทียนตกใจเกือบตาย
เห็นแค่ว่าด้านบนเขียนว่า “เย่เซิ่งเทียน ลูกศิษย์ที่น่ารักของฉัน ครั้งนี้ฉันต้องตายแล้วจริงๆ โครงกระดูกที่อยู่ตรงหน้านายก็เป็นของฉันเอง อืม แม้ว่าตอนนี้ฉันยังไม่เจอนาย และยังไม่ได้รับนายเป็นลูกศิษย์ แต่ฉันรู้ว่าอีก20ปีนายจะต้องมาที่นี่แน่นอน”
“เป็นยังไง?ทักษะของการทำนายของฉันสุดยอดไหม?ไม่ต้องสงสัย ฉันก็คืออาจารย์ของนายหลินเต้าจื่อ ฉันก็แค่ตายก่อนที่จะรับนายเป็นศิษย์เท่านั้นเอง หอคอยแห่งนี้มีภูมิหลังที่ซับซ้อน เดิมทีฉันอยากที่จะสำรวจทางแทนนายก่อน คิดไม่ถึงเลยคิดไม่ถึง หอคอยแห่งนี้ไร้ซึ่งศีลธรรม ฉันประมาทเกินไปไม่ได้วาร์ปหลบ ก็เลยตายแล้ว อีกแปดชั้นที่เหลือนายก็ไม่ต้องขึ้นไปแล้ว ขึ้นไปตอนนี้ก็มีแต่ไปตาย แต่ว่า หอคอยแห่งนี้นำมาใช้ขุดฝังศัตรูทั้งเป็นได้”
“พอแล้ว ฉันก็ช่วยนายแค่นี้แหละ รอเมื่อไหร่ที่นายคิดเข้าใจเรื่องที่ฉันตายก่อนที่จะรับนายเป็นลูกศิษย์เรื่องนี้ได้แล้ว นายถึงจะมีสิทธิ์เปรียบเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ศพของฉันน่ะ นายก็อย่าขยับไปไหน ที่นี่ดีอยู่แล้ว”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เย่เซิ่งเทียนใกล้จะเป็นบ้าแล้ว
นี่ก็เป็นลายมือของตาเฒ่าหลิน
แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกกันแน่?
ตาเฒ่าหลินตายก่อนที่จะรับฉันเป็นศิษย์เหรอ?
งั้นคนที่รับเขาเป็นศิษย์คือใคร?
หรือว่าวิญญาณของตาเฒ่าหลินงั้นเหรอ?
ไม่ถูกสิ
ในจดหมาย ตาเฒ่าหลินบอกว่าเขาคาดการณ์ว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่เขาตายแล้ว……
เย่เซิ่งเทียนสับสนโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้เลยด้วยซ้ำ และก็ไม่มีตรรกะใดๆเลย
แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ก่อนที่ตาเฒ่าหลินจะตายได้คาดการณ์ไว้ว่าตัวเองจะกลายเป็นศิษย์ของเขา หลังจากที่เขาตายแล้ว ก็รับตัวเองมาเป็นศิษย์อีก!
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ก็เขียนแค่สามสี่ประโยคเช่นนี้ไว้บนจดหมาย ข้อมูลที่มีประโยชน์ก็ไม่มีสักนิดเลย
“นี่คงไม่ใช่กลอุบายของตาเฒ่าหลินหรอกนะ?แต่หลังจากที่ตาเฒ่าหลินรับฉันเป็นลูกศิษย์แล้ว อยู่ด้วยกันกับฉันมาตลอด ถ้าหากเขาคิดจะวางกลอุบาย ก็จะต้องมีเวลามาที่นี่ถึงจะได้นะ”
เย่เซิ่งเทียนคิดอย่างละเอียดแล้ว ยืนยันว่าตาเฒ่าหลินไม่มีเวลามาที่นี่ซะด้วยซ้ำ
หลังจากที่รับเขาเป็นลูกศิษย์ ตาเฒ่าหลินพาเขาเดินเล่นแต่ละสนามรบมาหนึ่งปีกว่าแล้ว ครั้นแล้วก็เสียชีวิต หลังจากนั้นทำตามความต้องการของตาเฒ่าหลิน ฝังไว้ที่ตีนเขาคุณหลุน
แต่ที่นี่อยู่ห่างจากตีนเขาคุณหลุนเกือบ108,000 ลี้นะ อีกอย่างระยะเวลาหนึ่งปีกว่าที่ตาเฒ่าหลินพาเขาไปเดินทั่วทุกที่นั้น แทบจะเป็นที่ทวีปแอฟริกา
จะมีเวลามาที่เมืองพุทธได้ที่ไหนล่ะ?
เว้นแต่ว่าตาเฒ่าหลินสามารถปรากฏที่เมืองพุทธโดยมาจากทวีปแอฟริกาได้ในทันที
“มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า ก่อนที่ตาเฒ่าหลินจะรับฉันเป็นศิษย์ คาดการณ์ว่าฉันจะมาที่นี่ เพราะงั้นจึงวางกลอุบายที่นี่ไว้ล่วงหน้าแล้ว?”
เย่เซิ่งเทียนมองไปที่โครงกระดูกอย่างละเอียดอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ยิ่งที่ให้เขาตกใจมากคือ ผลสรุปที่ได้รับคือ โครงกระดูกนี้ก็คือตาเฒ่าหลิน!
เพราะว่าขาซ้ายของตาเฒ่าหลินสั้นกว่าขาขวาสามเซนติเมตรแต่กำเนิด ขาซ้ายของโครงกระดูกนี้ก็เช่นกัน
อีกอย่างก็คือ มือซ้ายของตาเฒ่าหลินมีรูปร่างผิดปกติ ตอนที่เกิดออกมาเมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วนิ้วก้อยหายไปนิ้วหนึ่ง เพราะงั้นมือซ้ายมีเพียงแค่สี่นิ้ว นี่มันต่างจากการถูกตัดออก
และกระดูกมือซ้ายของโครงกระดูกนี้ ก็เป็นนิ้วมือสี่นิ้ว ไม่มีนิ้วก้อยแต่กำเนิด
เมื่อสรุปสิ่งเหล่านี้ออกมา เย่เซิ่งเทียนยืนยันว่า โครงกระดูกนี้เป็นของตาเฒ่าหลิน!
ความจริงนี้ ยิ่งทำให้คนหวาดกลัว
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึงโดยสิ้นเชิง เกิดความสับสนวุ่นวายในสมอง
ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้เลยโดยสิ้นเชิง
มองดูทางเข้าของชั้นสอง เย่เซิ่งเทียนคิดๆดูแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ขึ้นไป
แม้ว่าในใจอยากจะรู้อย่างมาก แต่ว่าตาเฒ่าหลินกล่าวเตือนเขาว่าอย่าขึ้นไป จะไม่มีทางทำร้ายเขา
เย่เซิ่งเทียนกำลังคิดที่จะออกไป ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังแล้ว
“ลูกศิษย์ที่รักของฉัน นายก็จะไปแบบนี้เหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนหันกลับมาทันที เห็นแค่ตาเฒ่าหลินที่ตัวเป็นๆ ในเวลานี้ยืนอยู่ที่ทางเข้าของชั้นสอง มองมาที่เขาอย่างยิ้มตาหยี