Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 763 ถ้าไม่ลำบากจะเรียกว่าผู้ชายได้ไง
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 763 ถ้าไม่ลำบากจะเรียกว่าผู้ชายได้ไง
เพิ่งกลับมาถึงเมืองเฉียนถัง เย่เซิ่งเทียนคิดจะไปเยี่ยมพวกซือซือ ไม่คิดเลยว่าซือซือจะโทรศัพท์มาหา
ซือซือถามอย่างไม่พอใจว่า “พ่อคะ พ่ออยู่ที่ไหน? หนูไม่เจอพ่อหลายวันแล้วนะคะ พ่อทะเลาะกับแม่ใช่ไหม? ทำไมผู้ใหญ่ถึงมากเรื่องจัง ทะเลาะกันทุกวันเลย”
เย่เซิ่งเทียนไม่รู้ว่าจะอธิบายลูกอย่างไร จึงพูดว่า “พ่อไม่ได้ทะเลาะกับแม่ สองสามวันนี้ค่อนข้างยุ่ง ซือซือเชื่อฟังคำพูดแม่บ้างหรือเปล่า?”
ซือซือพูดอย่างสงสัย “ไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆเหรอ? งั้นทำไม อืม ทำไมหนูเห็นแม่แอบร้องไห้ล่ะคะ พ่อจะต้องยั่วโมโหแม่แน่ ๆ เย่เซิ่งเทียน พ่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่ามัวแต่ยั่วโมโหแม่สิโอเคไหมคะ พ่อเป็นผู้ชาย ยอมแม่บ้าง คนเป็นภรรยาต่างก็ต้องการให้ปลอบใจทั้งนั้นแหละ พ่อก็พูดอะไรดีๆหน่อย แม่ก็จะไม่โกรธแล้ว”
เผชิญหน้ากับลูกที่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ เย่เซิ่งเทียนรู้สึกแย่ในใจ เรื่องพวกนี้ให้เขาแบกรับก็พอ
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างนุ่มนวลว่า “พ่อรู้แล้ว ลูกอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเป็นเด็กดีไหม? ทะเลาะกับเพื่อนคนไหนหรือเปล่า? อยากให้ลูกเชื่อฟังคำพูดแม่ ตั้งใจทำการบ้านนะรู้ไหม?”
เมื่อได้ยินเรื่องทำการบ้าน ซือซือในสายโทรศัพท์ก็ตะลึงทันที พูดอย่างแกล้งโง่ว่า “คุณคือพ่อของหนูไหมคะ? คุณลุง ขอโทษค่ะ หนูโทรผิดแล้ว เอ๊ะ? ไม่มีสัญญาณ ได้ยินที่หนูพูดไหมคะ? ฮัลโหล? ฮัลโหล?”
“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”
เย่เซิ่งเทียนหมดคำพูด เจ้าเด็กคนนี้เหมือนจะตายเมื่อได้ยินว่าทำการบ้าน ตัวเองและซีเอ๋อร์ในตอนเด็กๆก็ไม่เป็นแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ เจ้าเด็กซนคนนี้
ปู่หอคอยกระตุ้นให้เย่ว์อิ่นหลงพาตัวเองออกไปสนุกกับชีวิต
เย่เซิ่งเทียนเดินอยู่ข้างนอกคนเดียว ต้องการสงบสติอารมณ์เพื่อจัดระเบียบความคิดของตัวเองในช่วงนี้
เขาอยากไปเยี่ยมพวกหวางซีมากๆ แต่ก็กังวลว่าจะนำปัญหาไปให้พวกเธอ
ตั้งแต่ที่ตัวเองกลับมา ทุกปัญหาก็มีมาไม่หยุด
แม้ว่าครั้งนี้ตระกูลลี้ลับมีเจตนาในการวางแผน แต่สุดท้ายตัวเองก็ทำให้พวกเธอพลอยเหนื่อยไปด้วย
ณ จินหลิง คำพูดของหวางซีที่กระตุ้นเย่เซิ่งเทียนอย่างลึกซึ้ง ปัญหาทั้งหมด ล้วนแล้วมาจากที่เขาเป็นตัวทดลองหนึ่ง ทุกคนรอบตัวต่างก็ถูกเขาทำให้พัวพันไปด้วย
ดังนั้น ตอนนี้เขาไม่กล้าไป
ความพัวพันซับซ้อนและความทรมานแบบนั้น เป็นความรู้สึกสำนึกผิดต่อครอบครัว
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรื่องแบบนี้ก็ต้องแบกรับไว้เอง เมื่อเกิดเรื่องแย่ๆก็ทำได้เพียงอดทนอย่างเงียบๆ จะมัวมานั่งร้องไห้เหมือนผู้หญิงก็ไม่ได้
ผู้หญิงยังสามารถระบายอารมณ์กับสามีตัวเองได้ ยังสามารถแสดงความรู้สึกไม่พอใจได้
แต่ผู้ชายทำไม่ได้
ผู้ชายเป็นเสาหลักของบ้าน เป็นร่มปกป้องครอบครัว เมื่อเขาล้ม ทั้งบ้านก็พังทลาย
เย่เซิ่งเทียนสูดลมหายใจลึกๆ ในใจของเขาเกิดความคิดขึ้นมาทันใด เย่จิงหงกับเย่ห้าวปฏิบัติต่อตัวเองและแม่ในตอนนั้น นั่นเป็นการปกป้องอย่างหนึ่งใช่ไหม?
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
เย่เซิ่งเทียนสลัดความคิดนี้ออกจากหัว แต่ความคิดเช่นนี้ก็เหมือนปีศาจ ยั่วยวนให้คิดไปในทางนั้น
มีหลายสิ่ง เมื่อตัวเองเป็นพ่อแม่คน จึงสามารถสัมผัสความรู้สึกเหล่านี้ได้ จึงสามารถเข้าใจความลำบากของพ่อแม่ได้
ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่ได้เป็นพ่อแม่คน มักจะรู้สึกว่าเมื่อตัวเองมีลูกแล้ว จะเป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างนั้น ไม่มีทางเป็นเหมือนกับพ่อแม่แน่นอน
แต่เมื่อตัวเองได้เป็นพ่อแม่คนจริงๆ ถึงพบว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย
ก็เหมือนกับตอนนี้ เรื่องตระกูลลี้ลับ เรื่องสรวงสวรรค์ เขาพูดไม่ได้ และก็ไม่สามารถพูดได้ด้วย เมื่อเกิดความเข้าใจผิดก็ไม่อาจอธิบายได้ ทำได้เพียงรับไว้เพียงลำพัง
เย่เซิ่งเทียนจุดบุหรี่ และสูดเข้าลึกๆ แล้ว คิดถึงคำพูดของอดีตจอมพลที่เคยพูดไว้ที่จินหลิง เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเลือกยังไงดี
ครั้งแรกที่เขาค้นพบ เดิมทีการเลือกเป็นเรื่องหนึ่งที่ยากมากๆ
“คุณเย่”
เย่เซิ่งเทียนได้ยินและหันไปมอง คนที่เรียกเขาคือเจ้าห้า คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเดินมาถึงเมืองใหม่โดยที่ไม่รู้ตัว
เวลาผ่านไปครึ่งปี เมืองใหม่ก็เริ่มปรากฏเค้าโครงขึ้น
เจ้าห้าวิ่งเหยาะๆ ส่งมอบหลานโจวดำมวนหนึ่ง ถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณเย่? สูบสักมวนไหม?”
เมื่อเห็นว่าเย่เซิ่งเทียนรับบุหรี่ไป เจ้าห้าก็รีบจุดไฟแช็กด้วยมือขวา ใช้มือซ้ายป้องไฟไว้
แต่เจ้าห้าตื่นเต้นแทบตาย ครั้งก่อนเจ้าเทพสูบบุหรี่ของตัวเอง แต่เมื่อหลายเดือนก่อน น่าเสียดายที่หลานโจวดำมวนนั้นเจ้าเทพเพิ่งดูดได้ครั้งหนึ่ง ก็เจอประธานหวางแล้ว เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วใส่ลงในกล่องบุหรี่ จนถึงตอนนี้มันก็ยังอยู่ในกล่องบุหรี่อยู่เลย
เจ้าห้ารู้สึกว่านั่นคือความโชคดีของตัวเอง อยากจะเก็บรักษาไว้ตลอดชีวิต ในอนาคตจะได้เอาไปโม้คนอื่นได้ ว่านั่นคือบุหรี่ที่เจ้าเทพเคยสูบมาก่อน
เย่เซิ่งเทียนนั่งยอง ๆอยู่ข้างถนน และพูดว่า “เจ้าห้า ช่วงนี้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง? งานก่อสร้างยังราบรื่นดีไหม?”