Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 791 วิกฤต
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 791 วิกฤต
เมื่อเห็นว่ากำลังจะลงมือ เย่เซิ่งเทียนพูดเบาๆว่า “พวกแกรีบร้อนอะไรกัน? หรือว่าพวกแกไม่อยากรู้ ถึงสาเหตุที่ฉันเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์ได้ภายในเวลาสั้นๆ 4 ปี? หากเป็นเพียงแค่เลือดประหลาด ฉันไม่มีทางเดินมาถึงวันนี้ได้”
ตอนนี้จำเป็นต้องถ่วงเวลาไว้
นักบู๊เหนือโลกีย์นับสิบนี่ ปกติคิดจะจัดการพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียวแทบจะไม่มีโอกาสเลย
นี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต
ขอเพียงแค่ถ่วงเวลาจนกระทั่งกู่ชางหลงมาถึงก็พอ
คิดจริงๆเหรอว่าเย่เซิ่งเทียนไม่สังเกตเห็นว่านี่คือเกมที่จงใจเล่นงานเขา?
น่าขำ งั้นก็ดูถูกหยางทาวเกินไปแล้ว
ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนั้นอย่างฉินหยวน หยางทาวได้จับตามาก่อนแล้ว
เขาวางหมากให้เย่เซิ่งเทียน เย่เซิ่งเทียนและหยางทาวก็วางหมากให้เขาเช่นกัน
ตั้งแต่เย่เซิ่งเทียนกลับมาที่เมืองเฉียนถัง เริ่มก่อสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ เกมนี้ได้ขยายขึ้นแล้ว
พูดได้ว่า เขตเศรษฐกิจใหม่เฉียนถังก็คือกระแสน้ำวน จุดประสงค์ก็คือใช้ผลกำไร เพื่อดึงดูดถุงมือขาวเหล่านี้ของเจ็ดตระกูลเก่าแก่ และหาข้ออ้างให้เย่เซิ่งเทียนในการลงมือ
ทำไมต้องเอาเขตเศรษฐกิจใหม่เฉียนถังสร้างเป็นมหานครนานาชาติ?
เพื่อให้ผลประโยชน์ครั้งนี้ใหญ่มากพอ ใหญ่จนฉินหยวนและคนเหล่านี้ต่างก็อิจฉา
จากนั้น ค่อยร่วมมือด้วยวิธีการอื่น ดึงเจ็ดตระกูลเก่าแก่ขึ้นมาจากความมืดสู่ความสว่าง จะได้กวาดเรียบไม่ให้เหลือ
พูดได้ว่า เย่เซิ่งเทียนและเขตเศรษฐกิจใหม่เฉียนถัง ต่างก็เป็นเหยื่อ
เย่เซิ่งเทียนก่อเรื่องไม่หยุดหย่อน นั่นก็เพื่อขั้นตอนในวันนี้
และคนที่วางหมากเกมนี้ ก็คือหยางทาว หร่วนซื่อสงกับกัวปิงทั้งสองคนพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ถึงจะมีวันนี้ได้
นั่นถึงจะเป็นคนที่ร้ายกาจมาก
ทางด้านนี้ เย่เซิ่งเทียนยังเทียบกับหยางทาวคนนี้ไม่ได้ฝีมือยังห่างอีกไกล
มองดูแววตาที่คิดไปเองของท่านหยูและคนอื่นๆ เย่เซิ่งเทียนยิ้ม ยิ้มอย่างเจิดจรัสเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือถ่วงเวลา
เป็นไปตามที่คิด คำพูดของเย่เซิ่งเทียนดึงดูดความสนใจของท่านหยูและคนอื่นๆ
เย่เซิ่งเทียนใช้เวลาสั้นๆเพียงแค่ 4 ปี ความสามารถก็พอสูสีกับพวกเขาได้ พวกเขาต่างก็อยากรู้ความลับของเย่เซิ่งเทียน
แม้ว่าเลือดประหลาดมีความพิเศษ แต่เลือดประหลาดก็ไม่น่ากลัวจนถึงขั้นนั้น
เย่หลงในตอนนั้น ไม่ได้มีความไวเท่านี้
เย่เซิ่งเทียนต้องมีโอกาสโดยบังเอิญอย่างอื่นแน่
แม้ว่าท่านหยูจะหวั่นใจ แต่ก็กังวลว่าเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก จึงพูดเบาๆว่า ““ฆ่าแก ก็รู้ความลับของแกเหมือนเดิม”
ท่านหยูโบกมือ สองสามคนเริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว
พวกเขาก็ไม่กล้าโอ้เอ้เสียเวลา เมื่อเรื่องที่นี่กระจายออกไป ด้วยอิทธิพลในตอนนี้ของเย่เซิ่งเทียน มันไม่เป็นผลดีสำหรับเจ็ดตระกูลเก่าแก่แน่
เว้นแต่ว่าเจ็ดตระกูลเก่าแก่ต้องการแตกหักกับทั้งประเทศต้าเซี่ย มิเช่นนั้นก็จะไม่มีความเสี่ยงนี้
ขอเพียงแค่จัดการเย่เซิ่งเทียนให้ไว แม้ว่าทางฝั่งหยางทาวคิดจะแตกหักกับตระกูลเก่าแก่ผู้ดี ก็จะอดทน รอโอกาสต่อไป
“งั้นก็ตายซะเถอะ!”
เย่เซิ่งเทียนลงมืออย่างรวดเร็ว
พวกเขาไวแล้ว เย่เซิ่งเทียนไวยิ่งกว่า!
ไม่มีใครคิดเลย ว่าศึกครั้งนี้ เย่เซิ่งเทียนกล้าลงมือก่อน
ปัง!
เย่เซิ่งเทียนต่อยนักบู๊เหนือโลกีย์ที่อยู่หน้าสุด คนๆนี้คือผู้อาวุโสแห่งตระกูลเซียว
ผู้อาวุโสตระกูลเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ปล่อยหมัดออกมา และรอยหมัดขนาดใหญ่ทั้งสองชนกัน
ปัง
เสียงอึกทึกครึกโครม ที่แท้เหล่านักฆ่าที่เถียนเฟิงคอยจัดการในความมืด ในเวลานี้ต่างก็ตกใจกับคลื่นเสียงนี้และเลือดออกปากทั้งเจ็ดคน จากนั้นก็ค่อยๆสลบไป
การต่อสู้ระหว่างนักบู๊เหนือโลกีย์ อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้ว่านักบู๊ระดับระดับเทพบู๊ และก็ไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป
“จัดการเขาซะ!”
ท่านหยูลงมือในทันที มือข้างขวาตบลง ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบไปที่เย่เซิ่งเทียน
การต่อสู้ระหว่างนักบู๊เหนือโลกีย์ มีความสามารถถึงขั้นเทพแล้ว ไม่ต้องเข้าใกล้เลย ฆ่าคนโดยที่ไม่ต้องแตะตัวเลย
เย่เซิ่งเถียนถอยหลังอย่างรวดเร็ว หันหลังไปฆ่านักบู๊เหนือโลกีย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
“รนหาที่ตาย!”
นักบู๊เหนือโลกีย์คนนี้คือผู้อาวุโสตระกูลฉิน ปฏิกิริยาตอบสนองไวอย่างยิ่ง ชกโดยไม่ต้องสัมผัสคู่ต่อสู้
ปังปังปัง
ในชั่วพริบตา รอยหมัด รอยฝ่ามือ และรอยนิ้วมือต่างก็กดทับเย่เซิ่งเทียนไว้
นักบู๊เหนือโลกีย์ทั้งสิบลงมือ เย่เซิ่งเทียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้
นอกจากนั้น ท่านหยูยังสั่งการจากรอบนอก คนที่เหลือกันไว้อยู่ด้านนอกขวางไม่ให้เย่เซิ่งเทียนหลบหนี
ท่านหยูกล่าวว่า “เย่เซิ่งเทียน แกหนีไม่พ้นหรอก จับโดยละม่อม!”