Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 795 เป็นจอมยุทธ์กันทั้งนั้น
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 795 เป็นจอมยุทธ์กันทั้งนั้น
ในเวลาที่สำคัญ
อดีตจอมพลเจียงลั่วเสินมาถึงแล้ว
ในใจของเย่เซิ่งเทียนดีใจอย่างยิ่ง เป็นไปตามที่คิด อดีตจอมพลยังพึ่งพาได้เสมอ
ไม่เหมือนกู่ชางหลงหมอนั่น พึ่งพาไม่ได้เลย
จนถึงตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัว
รอเดี๋ยว อดีตจอมพลทะลวงแดนเหนือโลกีย์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
2 ปีก่อนอดีตจอมพลก็เกือบจะตาย ถูกเขาดึงกลับมาจากประตูนรก ทำไมตอนนี้ถึงเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์ได้แล้วล่ะ?
หรือว่าคนๆนี้เล่นละครมาตลอด?
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึง
เขาคิดมาเสมอว่าอดีตจอมพลมาไม่ไหว ผลสุดท้ายตอนนี้ออกมาเป็นแบบนี้ได้?
เป็นไปตามที่คิด ยังคงเป็นตัวเองที่ซื่อที่สุด คนเหล่านี้ต่างก็เป็นจอมยุทธ์กันทั้งนั้น
“เจียงลั่วเซิน ไม่เสแสร้งต่อไปแล้วเหรอ?”
ดวงตาของท่านหยูหรี่ลงและเขามองไปที่เจียงลั่วเซิน
การปรากฏตัวของเจียงลั่วเซิน ทำให้ลดโอกาสชนะไปอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเซียวถูกฆ่า ตอนนี้พวกเขาได้ฆ่านักบู๊เหนือโลกีย์ไป 2 คนแล้ว
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย
แต่ว่า ท่านหยูก็ไม่กังวล
ทางฝั่งพวกเขายังมีนักบู๊เหนือโลกีย์อีก 11 คน แม้ว่าเจียงลั่วเซินลงมือแล้ว โอกาสชนะก็ยังคงเป็นของพวกเขา
“นี่คือทางตันของเกมแล้ว แม้ว่าแกไม่ได้เสแสร้งแล้วก็ตาม แต่แกก็ไม่มีทางหลุดออกจากทางตันได้!”
“งั้นเพิ่มฉันอีกคน?”
และในขณะนี้ ก็มีอีก 1 คนปรากฏ
เย่เซิ่งเทียนกลับตะลึง
ผู้บังคับบัญชากองพลอาวุธกัวปิง!
เขากลายเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขาไม่ใช่แม้แต่เทพบู๊ก็ไม่ใช่เหรอ?
เวร!
แสดงกันทั้งหมดเลยเหรอ!
ในเวลานี้เย่เซิ่งเทียนคิดเพียงแค่จะจัดการเจียงลั่วเซินและกัวปิง เมื่อกี้ที่เขาสู้เอาเป็นเอาตาย คิดว่าจะตายที่นี่แล้ว
กลับคิดไม่ถึง ว่าสองคนนี้ต่างก็เป็นนักบู๊เหนือโลกีย์
ถ้ารู้อย่างนี้ เขาจะทุ่มเทขนาดนี้เพื่ออะไร?
การปรากฏตัวของกัวปิง ทำให้สายตาของท่านหยูเปลี่ยนเป็นจริงจัง
ไม่มีใครคิด ว่ากัวปิงจะเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์
เขารู้ว่าเจียงลั่วเซินแสดงมาตลอด แต่กัวปิงเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
กัวปิงหยิบดาบยาวขึ้นมาเล่มหนึ่ง มองไปที่เย่เซิ่งเทียน ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเย่ นายไปพักได้ละ”
เย่เซิ่งเทียนแอบด่า แต่ไม่นานก็คิดออก ถ้าหากไม่มีไพ่ตายสองใบนี้ ขุนหลวงหยางทาวมีสิทธิ์อะไรมาต่อสู้กับตระกูลเก่าแก่ผู้ดีล่ะ?
ในใจของเขาก็อดสงสัยไม่ได้
ข้างกายหยางทาว หรือว่าจะเป็นเพียงแค่นักบู๊เหนือโลกีย์สองคนเท่านั้น?
ยังมีไพ่ตายอะไรที่ตัวเองยังไม่รู้อีก?
ไอ้พวกชอบแกล้ง
“ขอโทษด้วย มาช้าแล้ว”
กู่ชางหลงรีบวิ่งมาด้วยรอยยิ้ม “หยูไห่ แกมันไอ้หน้าหมา ตอนนั้นกูไว้ชีวิตให้แล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ก็ออกมาทำชั่วอีกแล้ว เพราะพึ่งพาอาศัยตระกูลฉินก็สามารถรักษาชีวิตแกได้แล้วงั้นรึ? อะไรกัน แมวไม่อยู่หนูร่าเริงจริงๆ”
สีหน้าหยูไห่เปลี่ยนไป
เรื่องวุ่นวายแล้ว
ตอนนั้นกู่ชางหลงก็คือนักบู๊เหนือโลกีย์ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย
ผ่านไปหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าความสามารถของไอ้หมอนี่ไปถึงระดับไหนแล้ว
แต่ว่า ยังคงมีโอกาสชนะ เพียงแค่อาจจะบาดเจ็บสาหัสเล็กน้อย
ทางฝั่งเขายังมีนักบู๊เหนือโลกีย์อีก 1 คน
แม้ว่าเจียงลั่วเซิน กัวปิง กู่ชางหลง ทั้ง 3 คนปรากฏตัว ทางฝั่งของเย่เซิ่งเทียนก็มีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น
เมื่อเห็นตรงนี้แล้ว หยูไห่ยิ้มเบาๆ “นี่น่าจะเป็นความเชื่อมั่นของพวกแกแล้วล่ะสินะ? แต่แค่นักบู๊เหนือโลกีย์ 4 คน และทางฝั่งเรายังมีอีกหนึ่งคนนะ”
“หยูไห่ แกคงไม่คิดจริงๆหรอกนะว่าฉันน่ะตายไปแล้ว?”
ในเวลานี้ ชายชราผมหงอกคนหนึ่งเดินเข้ามา
หยูไห่ตกใจมาก ถามโดยไม่รู้ตัวว่า “มู่หุน แกยังมีชีวิตอยู่เหรอ!”
กู่ชางหลงพูดอย่างเซอร์ไพรส์สุดๆว่า “เหล่ามู่ ตอนนั้นนายตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
มู่หุนพูดแบบส่งเดชว่า “นายกู่ชางหลงยังไม่ตาย ฉันก็ตายไม่ได้สิ”
แย่แล้ว
หยูไห่หน้าซีด
มู่หุน เป็นนักบู๊รุ่นเดียวกันกับกู่ชางหลง และเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์เมื่อนานมาแล้ว
เพียงแค่ศึกใหญ่ครั้งก่อนการโผล่มาของเย่หลง ทุกคนต่างก็ได้เห็นกับตา ว่ามู่หุนตายไปแล้ว
กลับคิดไม่ถึงว่ามู่หุนยังไม่ตาย
ตระกูลมู่แห่งหรดี แม้ว่าอยู่ในห้าตระกูลผู้ดี แต่ความสามารถที่แท้จริง กลับว่าเทียบได้กับเจ็ดตระกูลเก่าแก่เลย
สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมกับเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ก็เป็นเพราะคำสั่งสอนของบรรพบุรุษของตระกูลมู่
การปรากฏตัวของมู่หุนในตอนนี้ นักบู๊เหนือโลกีย์ของอีกฝ่ายก็มีถึง 5 คน และแถมยังมีนักบู๊เหนือโลกีย์รุ่นเก๋าอีก 2 คน เรื่องนี้วุ่นวายแล้ว
แม้ว่าทางฝั่งเขายังมีนักบู๊เหนือโลกีย์ 1 คน แต่มู่หุน กู่ชางหลง เจียงลั่วเซินคนเหล่านี้ คนไหนบ้างที่ไม่ใช่ยอดฝีมือ?
บวกเย่เซิ่งเทียนไปอีกคน ตอนนี้ทางฝั่งเขาก็ไม่เหลือโอกาสชนะแล้วล่ะ!