Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 802 หุ่นเชิดตระกูลฉิน
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 802 หุ่นเชิดตระกูลฉิน
เหล่าบอดี้การ์ดที่ฉินหู่พามา ตายภายในชั่วพริบตา
ถึงแม้ว่าหลี่เสี่ยวปิงจะเคยเห็นเย่เซิ่งเทียนฆ่าคน แต่เห็นบอดี้การ์ดห้าคนถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตายในเวลาเดียวกัน เธอก็ยังคงรู้สึกแย่อยู่ดี
เนื่องจากที่เธอเคยสัมผัสมา อย่างมากก็แค่เจอการปัดแข้งปัดขาในวงการบันเทิง
“กะ กะ แกกล้าฆ่าคน!”
ฉินหู่ตกใจจนสีหน้าซีดเผือด ในฐานะที่เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลฉิน แม้ในเวลาปกติเขามักพูดคำว่าฆ่าคนอยู่บ่อยๆ แต่เขากลับไม่เคยเห็นคนแบบเย่เซิ่งเทียนเลย ที่บทจะฆ่าก็ฆ่าคนเลย
ทันใดนั้นก็มีของเหลวสีเหลืองไหวออกมาจากกางเกงของเขา
“นี่คือคุณชายใหญ่ตระกูลฉินงั้นหรอ?ดูท่าแกจะเป็นแค่เศษขยะที่ตระกูลฉินผลักออกมาสินะ”
เย่เซิ่งเทียนพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
ในฐานะที่ตระกูลฉินเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ทายาทคนแรกของตระกูลกลับเป็นเศษสวะ เย่เซิ่งเทียนไม่มีทางเชื่อหรอก
ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีพวกนี้ เบื้องหน้าคอยผลักดันเหล่าทายาท เป็นเพียงการปิดซ่อนการรับรู้ของทุกคน
ทายาทที่แท้จริงไม่ใช่เศษสวะแบบนี้หรอก
ฉินหู่ก็เหมือนกับเซียวจ้าน ล้วนถูกผลักดันออกมาเพื่อให้ผู้อื่นได้เห็น
หากทายาทของตระกูลเก่าแก่ผู้ดี เป็นแบบนี้ทั้งหมด ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีคงจะล่มสลายไปนานแล้ว
“กะ แกคิดจะทำอะไรน่ะ?ฉะ ฉันจะเอาเงินให้แก เงินทั้งหมดที่ฉันมีฉันให้แกทั้งหมดเลย อย่าฆ่าฉันเลย อย่าฆ่าฉันนะ”
ฉินหู่ตกใจกลัวจนฉี่ราดกางเกง เขาล้มลงนั่งกับพื้นราวกับดินโคลน
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างสงบว่า“ขอแค่แกให้ความร่วมมือกับฉัน ฉันก็จะไว้ชีวิตแก”
“ฉันจะให้ความร่วมมือแน่นอน ขอแค่แกไม่ฆ่าฉัน ไม่ว่าแกจะพูดอะไรฉันจะรับปากนายทั้งหมด”
ฉินหู่รีบตอบกลับ ไม่กล้าต่อต้านขัดขืนอีก
เย่เซิ่งเทียนมองไปยังหลี่เสี่ยวปิง แล้วกล่าวว่า“คุณหลี่ครับ คุณกลับไปก่อนเถอะ วันนี้คงจะไม่ค่อยสงบแล้วล่ะ”
หลี่เสี่ยวปิงอึ้งตะลึงงัน รีบตอบรับ เย่เซิ่งเทียนมาเพื่อเจอกับตระกูลฉินสินะ
หรือว่าตระกูลฉินไปล่วงเกินเย่เซิ่งเทียน?
เมื่อนึกถึงเรื่องราวของตระกูลโจวก่อนหน้านี้ หลี่เสี่ยวปิงก็ตัวสั่นไปทั้งตัว หรือว่าเย่เซิ่งเทียนมาเพื่อล้างโคตร?
ตกลงตระกูลฉินทำอะไรไว้กันแน่?ถึงได้ทำให้เย่เซิ่งเทียนเลือกใช้วิธีแบบนี้?
“คุณเย่คะ ถ้าต้องความร่วมมือจากฉัน ฉันให้ความร่วมมือกับคุณได้นะคะ”
หลี่เสี่ยวปิงกัดฟันกรอด ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นเพื่อนกับหวางซี แต่ระยะห่างของเธอกับเย่เซิ่งเทียนก็ยังคงห่างกันมากเช่นกัน
เธออยากค่อยๆเข้าใกล้เย่เซิ่งเทียน
ถึงจะไม่ได้เป็นผู้หญิงของเย่เซิ่งเทียน ขอแค่ได้อยู่เคียงช้างเขา หรือเป็นเพื่อนกับเขา เธอก็พอใจแล้ว
เธอไม่ปรารถนาอะไรมาก
เธอรู้ดี ถึงตัวตนฐานะของเธอ ไม่คู่ควรกับเย่เซิ่งเทียน
ถึงจะให้เธอมองเขาจากที่ไกลๆ เธอก็ยอม
เย่เซิ่งเทียนครุ่นคิด“ก็ได้ครับ”
หลี่เสี่ยวปิงรู้สึกดีใจ ขอแค่สามารถช่วยเย่เซิ่งเทียนได้ เธอก็มีความสุขแล้ว
เย่เซิ่งเทียนหิ้วฉินหู่ขึ้นรถ หลังจากนั้นก็นั่งตำแหน่งที่นั่งคนขับ แล้วลูบหน้าของตัวเอง เห็นแค่ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย ราวกับดาราหน้าอ่อนในวงการบันเทิง
หลี่เสี่ยวปิงตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นว่าคนเราสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยหรอ
นี่มันราวกับซุนหงอคงที่สามารถกลายร่างได้เจ็ดสิบสองร่าง
บนโลกใบนี้ มีมายากลแบบนี้ด้วยหรอ!
“คุณเย่คะ ที่คุณทำเมื่อสักครู่ เป็นมายากลหรอคะ?ไม่เพียงแต่เปลี่ยนหน้า เสียงยังเปลี่ยนไปอีกด้วย”
เย่เซิ่งเทียนอธิบายว่า“มันง่ายมากเลยครับ เป็นแค่การเปลี่ยนกล้ามเนื้อบนใบหน้าเท่านั้น เป็นวิธีการธรรมดาแหละครับ”
หลี่เสี่ยวปิงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
ฉินหู่พึ่งรู้ตัวว่า ตัวเองล่วงเกินตัวอะไรอยู่เนี่ย
เขาตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ในฐานะที่เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลฉินผู้นำของเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ฉินหู่กลับไม่รู้จักแม้แต่วิชาแบบนี้ เมื่อพูดถึงแล้วมันน่าเศร้ามาก
เขาเป็นทายาทที่ตระกูลฉินผลักดันออกมา แต่กลับไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลฉินเลย และไม่รู้เช่นกันว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งไหนตระกูลฉิน
ไม่เพียงแต่เขา ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีล้วนจะผลักดันทายาทที่อยู่คอยอยู่เบื้องหน้าออกมา
และคนที่เป็นทายาทที่แท้จริง มักจะคัดเลือกมาจากอัจฉริยะหนึ่งในหมื่น ไม่มีทางให้คนทั้งโลกรู้ตัวตน
“คุณเย่คะ วิชานี้ฉันสามารถเรียนรู้ได้ไหมคะ?”
เมื่อพูดจบ หลี่เสี่ยวปิงก็พึ่งรู้ตัวว่าเสียมารยาท จึงรีบกล่าวขอโทษว่า“คุณเย่คะ ขอโทษด้วยนะคะ ที่เสียมารยาท”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า“เดี๋ยวรอให้มีเวลาว่างก่อนนะครับ คุณอยากเรียนผมก็สอนให้ได้ครับ มันไม่ยากเลย”
หลี่เสี่ยวปิงแอบดีใจอยู่ลึกๆ
ผ่านไปไม่นาน ก็ถึงเขตของคฤหาสน์ตระกูลฉิน
เย่เซิ่งเทียนมองเพียงแค่แวบหนึ่ง ก็รู้ว่า นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ตระกูลฉินอยู่จริงๆ
ตระกูลฉินที่นี่ เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเท่านั้น ตระกูลฉินที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่นี่
ดูท่าต้องไปถามด้วยตัวเองแล้ว เห็นได้ชัดว่าฉินหู่ไม่รู้ถึงอิทธิพลที่แท้จริงของตระกูลฉิน ไม่อย่างงั้นคงไม่อยู่ในสภาพแบบนี้หรอก
บางที เจ้าบ้านหุ่นเชิดของตระกูลฉินอาจจะรู้อะไรบางอย่างก็ได้
ตระกูลฉินหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากตระกูลเซียว ตระกูลหนึ่งอยู่ในที่สว่างตระกูลหนึ่งอยู่ในที่มืด คอยควบคุม ตระกูลเก่าแก่ผู้ดี ขอเพียงแค่มีตระกูลที่กล้าหักหลัง ถึงจะสามารถกันตระกูลเซียวได้ แต่ก็ไม่สามารถกันตระกูลฉินได้