Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 806 ความทะเยอทะยานของฉินมิ่ง
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 806 ความทะเยอทะยานของฉินมิ่ง
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้เข้าไปในทันที กำลังรอการมาสามเทพสงครามแห่งหอเทพมังกรและคนอื่นๆ
การลงมืออย่างบุ่มบ่าม มีแต่จะรนหาที่ตาย
ตระกูลฉินอยู่มาเกินหนึ่งพันห้าร้อยปีแล้ว ถึงแม้ว่าคนของเหนือโกกีย์จะตายไปหลายคน แต่อิทธิพลของตระกูลฉินยังคงแข็งแกร่ง ไม่อาจรออยู่เฉยได้
ครั้งนี้ จะต้องทำภารกิจให้สำเร็จห้ามพลาด
ผ่านไปไม่นาน จ้านอู๋ซวงเทพสงครามยอดหล้า เหลิ่งเจว๋ซื่อเทพสงครามสุดขั้ว เซียวเจิ้นกั๋วเทพสงครามรักษาเมืองทั้งสามก็มาถึง
สี่ราชาสงครามเฉินเทียนป้าราชาปรับอุดรจอมคลั่งดาบ กวนเยว่ราชาปรับทักษิณทวนเงินหน้านิ่ง หลูเซิงบัญฑิตนักฆ่า เฉิงจือเจี๋ยราชาปรับประจิมจอมขวานสามเหลี่ยมต่างมากันครบ
พลังแห่งหอเทพมังกร อยู่ที่นี่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเย่เซิ่งเทียนให้ความสำคัญกับตระกูลฉินมากแค่ไหน
ครั้งนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด จะต้องกวาดให้เรียบ
สามารถทำได้ในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว และมีแต่วิธีนี้ ถึงจะทำให้ตระกูลอื่นๆไม่ทันได้รู้สึกตัว จู่โจมพวกมันอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ทีมข้อมูล บล็อกสัญญาณที่นี่ทั้งหมด”
“เซียวเจิ้นกั๋ว นายพากวนเยว่ เฉิงจือเจี๋ยไปล้อมปิดทางไว้ อย่าให้หลุดรอดออกไปได้แม้แต่คนเดียว!”
“จ้านอู๋ซวง เหลิงเจว๋ซื่อ เฉินเทียนป้า หลูเซิงและคนอื่นๆ ตามฉันบุกเข้าไป ใครที่ต่อต้าน ฆ่ามันให้หมด!”
เมื่อมีคำสั่งที่ไร้ซึ่งความปรานีออกมา ทันใดนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
ผ่านไปไม่นาน เจียงเหม่ยหัวหน้าทีมข้อมูลรายงาน“เจ้าเทพ สัญญาณที่นี่ถูกบล็อกไว้หมดแล้ว ข่าวต่างๆจะไม่สามารถเผยแพร่ออกไปได้”
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า แล้วนำทำเดินเจ้าไปในหุบเขา
ตอนนี้ ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉิน
ฉินมิ่งรู้สึกแน่นขนัด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร
เขาพึ่งวางสายจากเซียวเจิ้น ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร
เย่เซิ่งเทียนจัดการไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้นหยางทาวก็ไม่อาจนิ่งเฉยปล่อยให้เย่เซิ่งเทียนโดยฆ่าได้
ดังนั้นครั้งนี้เขาปรึกษากับเซียวเจิ้นแล้ว จะร่วมมือกับตระกูลเก่าๆ ใช้คนเหนือโลกีย์สิบกว่าคน เพื่อเหยียบเย่เซิ่งเทียนให้ตาย เพื่อไม่ให้เรื่องราวยืดเยื้อ
ทางด้านตระกูลลี้ลับออกปากแล้วว่าจัดการเย่เซิ่งเทียนได้ งั้นเขาก็จะไม่พลาดโอกาสในครั้งนี้
เย่เซิ่งเทียนเป็นตัวปัญหา เขารู้มาโดยตลอด ดีไม่ดีอาจมีปัญหามากกว่าเย่หลงในตอนนั้น
พวกตาแก่ที่ตระกูลลี้ลับ กำลังเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้!
ในตอนนั้นเพื่อทดลองแล้ว สุดท้ายปล่อยให้เย่หลงลุกขึ้นมาได้ เกือบทำให้เกมฉากนี้พลิกตลบ
เลือดเทพทั้งสอง พลังทำลายล้างน่ากลัวแค่ไหน ขอแค่เติบโตขึ้นมา ตาแก่พวกนั้นจะสามารถจัดการควบคุมได้งั้นหรอ?
นอกจากนั้น พวกเขาอยากเป็นเทพจนบ้าไปแล้ว เลี้ยงกู่เพื่อใช้ในการทดลอง ไม่เห็นหรอกว่าเย่เซิ่งเทียนโตขึ้นมาแล้ว?
ขอเพียงแค่เย่เซิ่งเทียนเริ่มแก้แค้น กลุ่มแรกที่จะถูกพุ่งชนไม่ใช่ตระกูลใหญ่เหล่านั้นหรอ?
ดังนั้น ฉินมิ่งกับเซียวเจิ้นจึงปรึกษากันว่า เพื่อยับยั้งภัยคุกคามนี้ แม้ว่าในภายหลังจะมีผลร้าย นี่ก็เป็นสิ่งที่ตาแก่พวกนั้นให้คำมั่นสัญญาไว้ ก็ไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้
“คนเหนือโลกีย์หลายสิบคน ถ้ายังฆ่ามันไม่ได้ จากนี้ไปเห็นเย่เซิ่งเทียนฉันก็จะหลีกให้ห่าง ตระกูลฉินของฉันไม่มีวันลงมือต่อสู้กับเย่เซิ่งเทียน”
ฉินมิ่งพูดเองเออเอง
ถ้าคนเหนือโลกีย์หลายสิบคนยังฆ่าเขาไม่ได้ นั่นก็หมายความว่า ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เซิ่งเทียนแล้ว
นอกจากนั้น เย่เซิ่งเทียนยังได้หยางทาวคอยหนุนหลังอีกด้วย
ตาแก่พวกนั้นอยู่อย่างสูงส่งมาเป็นเวลานานแล้ว และหย่าขาดจากความเป็นจริงๆ ถ้าฟังพวกเขาทั้งหมด ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีคงจบสิ้นนานแล้ว
ฉินมิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา
ไม่มีใครยอมเป็นหมารับใช้ของคนอื่น
ตาแก่พวกนั้นใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ เฝ้าหวังว่าตัวทดลองอย่างเย่เซิ่งเทียนจะวิจัยสำเร็จ
เพื่อลับคมตัวทดลองอย่างเย่เซิ่งเทียน เห็นตระกูลเก่าแก่ผู้ดีอย่างพวกเขาเป็นที่ลับมีด
ฉินมิ่งเขาจะยอมได้อย่างไร?
คนเหมือนกัน ใครบ้างไม่อยากมีอำนาจในกำมือ อยู่อย่างสูงส่งงั้นหรอ?
“พวกตาแก่เอ้ย รอฉันฆ่าเย่เซิ่งเทียนให้ได้ก่อนเถอะ ดับความหวังของพวกแกทั้งหมด ฉันจะคอยดูว่าพวกแกจะอยู่ได้นานแค่ไหนกันเชียว!”
ในเวลานี้เอง พ่อบ้านของตระกูลฉินรีบเดินเข้ามาบอกว่า“เจ้าบ้านครับ มีปัญหาขัดข้องเล็กน้อยครับ สัญญาณทั่วทั้งคฤหาสน์ขาดหายไป เราไม่สามารถส่งข้อมูลออกไปได้เลย”
ฉินมิ่งตกตะลึง ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน แล้วขมวดคิ้วถามว่า“เกิดอะไรขึ้น?”