Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 888 ฟื้นแล้ว
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 888 ฟื้นแล้ว
เย่เซิ่งเทียนมีประสบการณ์ เกี่ยวกับการตื่นของเลือดประหลาดตระกูลเย่
นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงของเลือด เรียกได้ว่าเป็นการถ่ายเลือด
เลือดของทั้งร่างกายถูกแทนที่ด้วยเลือดประหลาดของตระกูลเย่
ในวังใต้ดินในวัดโบราณเมืองพุทธ เลือดของตระกูลเย่ตื่นขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง และการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกระดูกของร่างกายทั้งหมด
ครั้งก่อน กระดูกของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งขึ้น กระดูกเปลี่ยนสีเหมือนหยกขาวยังไงอย่างงั้น มันดูโปร่งใส
แต่ก็แข็งแกร่งมาก
อีกทั้งช่วงว่างระหว่างกระดูกก็เล็กมากๆ ราวกับการตีเหล็กก็ไม่ปาน และกระดูกทั่วร่างกายก็ดูเหมือนจะดับลง
เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกได้ถึง การเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น
สุดท้ายกระดูกมังกรที่เหลืออยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
กระดูกมังกรที่เรียกว่ากระดูกสันหลังของมนุษย์ซึ่งเป็นกระดูกที่สำคัญที่สุด
ตอนนี้เลือดในกายของเย่เซิ่งเทียน ยังเหลืออีกร้อยละสามสิบที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นเลือดประหลาด
เขาเดาว่า รอเลือดประหลาดตระกูลเย่ตื่นเป็นครั้งที่สาม กระดูกมังกรกับเลือดถึงจะเปลี่ยนทั้งหมด
ถึงเวลานั้น ถึงจะว่าตื่นโดยสมบูรณ์
นี่เป็นสิ่งที่เขาสามารถสัมผัสได้
แต่การตื่นเลือดเทพเผ่าซวนหยวน เขากลับยังคงรู้สึกว่างเปล่า
นอกจากเห็นภาพการสังเวยที่เลือนราง กับเงาที่ยืนอยู่บนหัวมังกรขนาดใหญ่อันพร่ามัว เขาก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
และสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในร่างกายไม่ได้ ยิ่งไม่รู้สึกว่าเลือดกับกระดูกมีอะไรเปลี่ยนแปลง
สิ่งนี้ทำให้เขาสับสน ไม่รู้ว่าการตื่นนี้ถือว่าสำเร็จหรือไม่
สายตาพิฆาตนั้นที่สังหารพญาดำตาย เขาก็สามารถสัมผัสได้
แต่นั่นไม่ใช่พลังของเขา สิ่งนี้ทำให้เขาไม่เข้าใจไปกันใหญ่
สิ่งที่ระเบิดปะทุออกมาจากร่างกายของเขา กลับไม่ใช่พลังของเขาเอง
โดยเฉพาะสายตานั่น ราวกับทะลุมิติมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลา แต่เขากลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะเย่เซิ่งเทียนตกอยู่ในภวังค์ความสับสน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่สามารถสอบถามใครได้ ถึงแม่จะอยู่ตรงนี้ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ดี ถ้าเป็นแค่เลือดประหลาดของตระกูลเย่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร อย่างน้อยยังสามารถสอบถามคนของตระกูลเย่ได้ แต่เลือดเทพเผ่าซวนหยวน ปัจจุบันเหลือแค่แม่ของเขาคนเดียว”
เย่เซิ่งเทียนส่ายหัวไปมา หัวเราะอย่างขมขื่น
แต่ไม่ว่าอย่างไร ขอแค่ฆ่าพญาดำซะ ก็จะเป็นเรื่องดี
ไอ้พวกสารเลวต่ำช้า กล้าลงมือกับลูกสาวฉัน ถึงฉันจะต้องตายก็จะต้องลากพวกแกตามไปด้วย
เย่เซิ่งเทียนรังสีอำมหิตแผ่กระจาย บัญชีนี้ จะไปคิดกับสรวงสวรรค์
ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็จะถอนรากถอนโคน ถลกหนังของพวกสัตว์เดรัจฉาน จะต้องฆ่าแต่ละคน ทำให้พวกเขาลงนรกให้หมด ถึงจะสามารถลบล้างความเกลียดชังได้
ต่อไป จะต้องไปฝั่งตระกูลลี้ลับ
สรวงสวรรค์กับตระกูลลี้ลับมีการติดต่อกันลับๆ
มีเพียงตระกูลลี้ลับ ที่รู้ข้อมูลของสรวงสวรรค์
และความหวังเดียวของตัวเอง ตอนนี้คงต้องฝากไว้ที่เหย้ซูหลิง
เย่เซิ่งเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเหย้ซูหลิง
เขามักจะรู้สึกว่า เหย้ซูหลิงก็คือหลุมพราง
เหย้ซูหลิงไม่ใช่คนจิตใจดีอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้เหย้ซูหลิงทำให้เขาตกหลุมพรางไปไม่น้อย แทบจะทำให้เขากับหวางซีเกิดความเข้าใจผิด
จนถึงตนนี้ยังไม่ได้แต่งงานกันใหม่
เขาส่ายหัวไปมา เย่เซิ่งเทียนไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้ เขาได้ยินบทสนทนาระหว่างหวางซีกับแม่ยายแว่วๆ
ก่อนอื่นไม่ว่ายังไม่เขาก็ไม่สามารถควบคุมสติของเขาฟื้นขึ้นมาได้ ตอนนี้ไม่ได้ลำบากอะไร
เย่เซิ่งเทียนลืมตาขึ้น มองเห็นดวงตาแดงก่ำของหวางซี กำลังฟุบหลับข้างๆเตียง
เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก เขาค่อยๆลุกขึ้น อยากจะอุ้มเธอขึ้นมานอนพักผ่อนบนเตียง
คิดไม่ถึงว่าพอเขาขยับ หวางซีจะตื่นขึ้นทันที