Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 902 สร้างอนุสาวรีย์
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 902 สร้างอนุสาวรีย์
“พี่ใหญ่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ทำไมเสี่ยวห้าว……เสียแล้วล่ะ?แล้วก็ ร่างกายของคุณ……”
เย่จุนลูกพี่ลูกน้องของเย่จิงหง มองไปยังแขนและขาที่หายไปของเย่จิงหงอย่างตกตะลึง หลังจากนั้นถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่า”
เย่เซิ่งเทียนตบๆไหล่ของเย่จุน พูดกับเย่เซิ่งเทียนสองสามีภรรยาที่อยู่ข้างๆว่า“เซิ่งเทียน ซีเอ๋อร์ มาเข้าเยี่ยมท่านปู่รองของพวกคุณ”
“ท่านปู่รอง”
เย่เซิ่งเทียนและหวางซีพูดออกมาคำหนึ่ง ถือว่ายอมนับญาติแล้ว
เย่จุนมองไปยังเย่เซิ่งเทียนด้วยสายตาที่ซับซ้อน ถอนหายใจพร้อมพูดว่า“กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว ถึงยังไงพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อให้มีความขัดแย้งกันบ้างก็ตัดความสัมพันธ์ไม่ขาดนะ”
เขาไม่ได้พูดคำพูดที่เกินความจำเป็นออกมา
เขารู้ว่าบางอย่าง ก่อเรื่องจนมาถึงขั้นนี้ หลังจากที่เย่เซิ่งเทียนประสบความสำเร็จเช่นนั้นมาได้ แถมยังกลับตระกูลได้ นี่เป็นความโชคดีของตระกูลเย่
แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนฆ่าเย่เสียงและหลิวว่านจวินตาย แต่สิ่งที่สองแม่ลูกทำนั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์เขาทำกัน ตายไปก็ไม่มีใครสงสารแล้ว
“ท่านทวดรองสวัสดีค่ะ”
ซือซือถามสารทุกข์สุกดิบด้วยเสียงหวานและอ่อนโยน
“สวัสดีๆๆ เป็นเด็กน่ารักเสียจริงๆ”
เย่จุนอุ้มซือซือขึ้นมา เขาคิดไม่ออก หลิวว่านจวินและเย่เสียง ทำไมถึงได้แข็งใจลงมือกับเด็กน้อยที่น่ารักขนาดนี้ได้
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะว่าเย่เซิ่งเทียนมาทันเวลา ใช้เลือดของเขาเองช่วงซือซือให้รอด เกรงว่าเด็กคนนี้คงเสียชีวิตแล้ว
หลิวว่านจวินและเย่เสียงทำเรื่องที่แม้แต่เดียรัจฉานก็ไม่อาจะเทียบได้ ตอนแรกพวกเขาไม่รู้ว่า หงหยวนไอ้แก่ชาติหมานั่นหน้าไหว้หลังหลอก โกหกพวกเขาทุกคนแล้ว
ต่อมาเย่เซิ่งเทียนเอะอะโวยวายตระกูลเย่ พวกเขาถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้ว
“นี่คือคุณป้าของพวกแกเย่หง นี่คือลุงเขยของพวกแกโจวจวิ้นหยู่ ลุงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเย่ไห่ ภรรยาของลุงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องหลิวหลานเซียง พี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเย่เฟย ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องหยางหมิ่น……”
เย่จิงหงแนะนำให้เย่เซิ่งเทียนและหวางซีทีละคน
ทั้งสองคนเริ่มพูดสวัสดีก่อน คนอื่นๆก็ไม่กล้าเย่อหยิ่ง
สถานการณ์ครั้งก่อนที่เย่เซิ่งเทียนเอะอะโวยวายตระกูลเย่ ทำให้พวกเขาตกใจจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าลูกนอกสมรสที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้งในตอนแรก วันนี้จะกลายเป็นจ้าเทพแห่งต้าเซี่ยแล้ว
คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น พวกเขาก็ขนหัวลุก ใครจะกล้าเสแสร้งต่อหน้าเย่เซิ่งเทียนอีกล่ะ?
“เด็กดี สมกับเป็นคนของตระกูลเย่ของเรา ทำให้ตระกูลเย่ของเรามีหน้ามีตา คุณกลับมาได้ นี่เป็นความโชคดีของตระกูลเย่”
เย่ไห่ลูกชายของเย่จุนตบไหล่ของเย่เซิ่งเทียนแล้ว ดูท่าแล้วเขาพึงพอใจเย่เซิ่งเทียน
โดยเฉพาะหวางซีไม่ได้วางท่าทางหยิ่งยโสเพราะได้รับการโปรดปรานเหมือนหลิวว่านจวิน แม้ว่าตอนนี้จะควบคุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ แต่ในสายตาของหวางซี ไม่มีกลิ่นอายที่ดูถูกอยู่เหนือกว่านั่นเลย
น่าคบหาใช่ไหม เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ นี่ก็สามารถรับรู้ออกมาได้
ต่อให้คนๆหนึ่งเสแสร้งว่าดีขนาดไหน ก็มักจะเผยไต๋ออกมาในรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่าง
“ต่อไปต้องขอให้คุณลุงคุณป้าช่วยดูแลพวกเราด้วยนะ อย่ารังเกียจที่พวกเราวุ่นวาย หากว่าพวกเราทำตรงไหนไม่ถูก หวังว่าทุกคนจะชี้แนะ ให้พวกเราดูแลตระกูลให้ดีไปด้วยกัน”
หวางซีพูดด้วยคำพูดที่สุภาพเรียบร้อยไม่หยาบ ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจเพราะว่าตัวเองมาจากที่เล็กๆ
และก็ไม่ได้สูงส่งกว่าคนอื่นหนึ่งระดับเพราะว่าตัวเองเป็นภรรยาของเจ้าเทพ
เย่หงดึงมือของหวางซียิ้มพร้อมพูดว่า“ซีเอ๋อร์ เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไงกันละ เห็นเธอฉันก็รู้สึกสนิทใจมาก ต่อไปเราก็คือคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรให้ช่วยเหลือก็พูดมาได้เลย ใครมันกล้ารังแกเธออย่างลับๆ บอกพวกเรามาได้เลย ”
สามีที่อยู่ข้างๆเย่หงโจวจวิ้นหยู่ยิ้มพร้อมพูดว่า“อย่าไปฟังที่ป้าของคุณพูดจามั่วซั่วเลย คนในครอบครัวของเราไม่มีครกล้าทำให้คุณลำบากใจ”
เย่เฟยหลานชายของเย่จุนพูดล้อเล่นว่า “คุณป้า ลุงเขย พวกเราอย่าทำให้ซีเอ๋อร์ตกใจนะ พูดอย่างกับตระกูลเย่ของเราเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตรายเลยยังไงอย่างนั้น อีกอย่างซีเอ๋อร์มีตัวตนอะไร ใครกล้ารังแกซีเอ๋อร์ นั่นมันสมองมีปัญหาไม่ใช่เหรอ”
กลุ่มคนมีความสุขมาก ในเวลานี้เย่จุนมองไปยังเย่จิงหง ถามอย่างเศร้าๆว่า “พี่ใหญ่ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมเสี่ยวห้าว……เสียแล้ว คุณก็กลายมาเป็นเช่นนี้”
สายตาของคนอื่นๆเศร้าสลด ต่างก็มองมาที่เย่จิงหงกันทั้งนั้น
เย่จิงหงสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมพูดว่า“เจอกับศัตรูของเราเข้าแล้ว เสี่ยวห้าวเพื่อปกป้องพวกเราจึงใช้วิชาต้องห้ามแล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดพวกคุณก็ไม่ต้องถามแล้ว สร้างอนุสาวรีย์ให้เสี่ยวห้าว เขาไม่ได้ทำเรื่องขายหน้าให้ตระกูลเย่ของเรา”