Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 926 เหล่าอู๋ถึงกับตกใจกลัว
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 926 เหล่าอู๋ถึงกับตกใจกลัว
เย่เซิ่งเทียนหัวเราะและพูดว่า: “เพื่อนร่วมชั้นเก่า ทำไมต้องเคร่งเครียดขนาดนี้ด้วย ก็แค่ล้อเล่นกันเท่านั้น ถือว่าให้เกียรติเธอ ฉันจะไม่ฆ่าเหล่าอู๋นั่น แน่นอนว่า ฉันเองก็ไม่โกหกเธอ เรื่องนี้ฉันจะต้องพิสูจน์อย่างชัดเจน พอเถอะ เหล่าอู๋เธอเองก็ไม่ต้องตึงเครียดอะไรขนาดนั้น ฉันก็แค่สอบถามเท่านั้น หากฉันคิดที่จะฆ่าเธอ เมื่อครู่ที่เพิ่งพบเจอหน้ากันเธอก็คงจะตายไปแล้ว ไม่รอให้อยู่จนถึงตอนนี้หรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวแล้ว เหล่าอู๋กลับไม่ได้เบาใจลง แต่ยิ่งจะเป็นกังวลมากขึ้นอีก
เย่เซิ่งเทียนมีลักษณะนิสัยที่แปลกประหลาดเสียจริง เปลี่ยนแปลงอะไรได้อย่างฉับพลัน
คนประเภทนี้น่ากลัวเป็นที่สุด เพราะคุณไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
เป็นไปได้ที่วินาทีก่อนหน้านี้ยังคงพูดคุยยิ้มแย้มกับคุณเป็นอย่างดี วินาทีต่อมากลับนำมีดมาฟันศีรษะของคุณแล้ว
เป็นจริงที่ว่า ผู้ที่สามารถเป็นเจ้าเทพแห่งต้าเซี่ยได้ ก็คงจะไม่ใช่คนดีอะไร
หากเย่เซิ่งเทียนไปกระทำความชั่วร้าย คงจะชั่วช้าเลวทรามกว่าคนชั่วกระทำอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ที่คุณหนูพูดเอาไว้นั้น เธอเองยังคงเห็นใจต่อเย่เซิ่งเทียน ที่อนาคตต้องถูกคุณหนูทรมานจนตาย
แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่า ควรที่จะเห็นใจตัวเองมากกว่า
สำหรับคนเผด็จการอย่างเย่เซิ่งเทียนแล้ว เป็นไปได้อย่างมากว่าในอนาคตคุณหนูอาจจะต้องเสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์
คนประเภทนี้ ต่างก็เป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยม
พวกเขาปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างโหดเหี้ยม ปฏิบัติกับตนเองโหดเหี้ยมยิ่งกว่า
หากว่าเป็นคนทั่วไป ที่ต้องเผชิญหน้ากับสรวงสวรรค์ ก็คงจะยอมศิโรราบและเชื่อฟังตั้งนานแล้ว
และคงจะถูกสรวงสวรรค์จัดการอย่างหมดสิ้นความหวังไปตั้งนานแล้วเช่นกัน
แต่เย่เซิ่งเทียนไม่สิ้นหวัง กลับยังคิดหาโอกาสจัดการสรวงสวรรค์ให้ตายลงอีกด้วย
นี่คือคนบ้าชัด ๆ!
เป็นคนบ้าเหมือนกันกับพวกไอ้แก่บนสรวงสวรรค์เหล่านั้น
ไม่ หากจะวัดกันจากบางเรื่องแล้ว เย่เซิงเทียนบ้าคลั่งมากยิ่งกว่า!
เพื่อที่จะแก้แค้นให้สำเร็จ เขากล้าที่จะมาหาคุณหนูเพื่อร่วมมือกัน และยังคิดที่จะลงมือจัดการกับสรวงสวรรค์ด้วย
นี่มันช่างเป็นคนประสาทโดยสิ้นเชิง
ขนาดถูกสรวงสวรรค์บีบบังคับจนตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นไร้ความหวังแบบนี้แล้ว เขายังคงสามารถใช้สติปัญญา แสดงศักยภาพของตนเองออกมา คนประเภทนี้ ช่างน่ากลัวมากทีเดียว
นี่คือคนบ้าคลั่งที่มีสติตื่นตัวอยู่ตลอด
เหย้ซูหลิงพูดเตือนขึ้นว่า: “แล้วแต่นายเลย แต่นายห้ามลอบลงมือทำร้ายเหล่าอู๋อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นความร่วมมือของพวกเราจะสิ้นสุดลงทันที”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มและพูดว่า: “เพื่อนร่วมชั้นเก่า เธอยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ? เธอวางใจได้เลย หากเหล่าอู๋ตายไป ฉันจะรับผิดชอบเอง ตกลงไหม? ”
แสยะ!
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวแล้ว เหล่าอู๋สองมือสั่นเทา โชคดีที่เธอมีปฏิกิริยาที่รวดเร็ว เหยียบเบรคได้ทัน มิเช่นนั้นก็คงจะไปชนกับรถคันด้านข้างแล้ว
เหล่าอู๋รีบเก็บความหวาดกลัวในจิตใจของตัวเองเอาไว้ และพูดว่า: “คุณหนู คุณเย่ ต้องขอโทษด้วย เมื่อครู่ไม่ทันระวัง”
เย่เซิ่งเทียนยังคงยิ้มแย้ม และพูดขึ้นว่า: “ขับรถระมัดระวังหน่อย”
เหย้ซูหลิงพูดกับเหล่าอู๋ว่า: “ก่อนหน้าที่เย่เซิ่งเทียนจะพบเจอกับผู้พิทักษ์ความพ่ายแพ้บนสวรรค์และเทพแห่งดวงดาว เธออย่าได้ออกไปไหน และก็อย่าได้อยู่ด้วยกันกับเย่เซิ่งเทียนตามลำพัง”
เธอกังวลจริง ๆ ว่าไอ้บ้าเย่เซิ่งเทียนคนนี้ จะลงมือจัดการเหล่าอู๋
เหล่าอู๋รีบรับปาก ตัดสินใจว่าต่อไปจะไม่ออกไปที่ไหนอีกแล้ว
ใครจะไปรู้ได้ว่าไอ้บ้าเย่เซิ่งเทียนนี้ จะลงมือจัดการตัวเองจริง ๆ หรือไม่
เขารู้ว่าหวางหง นายหญิงใหญ่หวาง หวางเอี๋ยนแห่งตระกูลหวางนั้นในตอนท้ายเสียชีวิตลงอย่างไร
ตอนนั้นเย่เซิ่งเทียนบอกพวกเขาทั้งสามคนว่า ใครฆ่าอีกสองคนลงแล้วก็จะสามารถมีชีวิตรอดไปได้ นายหญิงใหญ่หวางจึงได้ใช้มีดหั่นผักฆ่าลูกชายและหลานสาวของตน แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องตายลงอยู่ดี
หากว่าเย่เซิ่งเทียนจะฆ่าตัวเองจริง ๆ แล้ว เหล่าอู๋ไม่คิดเลยว่าตนเองจะมีชีวิตรอดอยู่ได้
แม้แต่คุณหนูก็ยังสั่งให้ตนเองห้ามออกจากบ้านแล้ว เหล่าอู๋เองก็คงจะไม่เอาชีวิตไปเดิมพันอยู่แล้ว
เย่เซิ่งเทียนเองก็ไม่ได้ไปสนใจว่าพวกหล่อนทั้งสองคนนั้นจะมีความคิดอย่างไร
หากว่าที่เหล่าอู๋พูดนั้นเป็นความจริงก็ถือว่าจบกันไป หากว่าเป็นความเท็จ เขาเองก็คงไม่อาจจะปล่อยเหล่าอู๋เอาไว้ได้
สำหรับที่ว่าจะลงมือเมื่อไรนั้น ค่อยว่ากันอีกที อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เขามีสถานะที่มั่นคงในตระกูลลี้ลับแห่งนี้ก่อน