Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 994 ความร่วมมือ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 994 ความร่วมมือ
เมื่อเห็นสองคนข้างกายของเย่เซิ่งเทียนแล้ว สีหน้าของจงหยู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ได้เจอกันเดือนครึ่ง ข้างกายของหลินเย่ กลับมีผู้แข็งแกร่งถึงสองคน
ศักยภาพของชายชราผู้นั้น เขามองไม่ออกจริงๆ
ส่วนวัยรุ่นคนนั้น ที่แท้ก็คือขั้นแปดของแดนหลิงไถ!
ความแข็งแกร่งของเบื้องหลังหลินเย่นี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนได้กลายเป็นนักพนันหลินเย่ที่หัวแข็งและดื้อรั้นไปเสียแล้ว ตอบอย่างเอ้อระเหยลอยชายไปว่า “คุณจง ได้ยินมาว่าตระกูลจงของพวกคุณกำลังตามหาฉันมาตลอด มีธุระอะไรงั้นหรือ?”
จงหยู่ขยิบตา จงอู่และคนอื่นๆ ต่างก็รีบถอยออกไปกัน จากนั้นค่อยพูดต่อไปว่า “อยากจะทำธุรกิจกับหมอเทวดาหลิน เพื่อรักษาอาการของเซียวเทียนเฉิงเจ้าบ้านเซียว ไม่ทราบว่าหมอเทวดาหลินจะยินยอมไหม?”
เย่เซิ่งเทียนตอบอย่างเย็นชาว่า “คุณจง มีอะไรก็พูดตรงๆ กับฉันเถอะ ไม่ต้องพูดอ้อมค้อมขนาดนี้หรอก บนโลกนี้ไม่มีคนที่ฉันไม่กล้าหาเรื่องหรอก เพราะมันเป็นธุรกิจ งั้นคงไม่ง่ายเหมือนรักษาชีวิตแน่นอนหล่ะมั้ง?”
จงหยู่หัวเราะ ตอบอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “เกรงว่าหมอเทวดาหลินจะไม่กล้าหน่ะสิ”
เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลง “ฉันหรือไม่กล้า? ธุระที่คุณว่า หมายถึงตระกูลเซียวใช่ไหม?”
แววตาของจงหยู่เป็นประกาย “คุยกับคนฉลาดมันช่างง่ายจริงๆ งั้นฉันจะพูดตรงๆ เลยแล้วกันนะ ตระกูลจงของพวกเรา อยากจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด!”
เย่เซิ่งเทียนแสร้งทำเป็นเมินใส่ตอบกลับไปว่า “อยากจะอยู่ตำแหน่งสูงสุดมันไม่ใช่เรื่องง่าย? แค่ทำลายตระกูลเซียวก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? หรือว่าแค่ความกล้าแค่นี้พวกคุณก็ยังไม่มี? เลยอยากจะยืมมือฉัน? ฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้ตระกูลเซียวได้รับความเสียหายอย่างมาก ตระกูลจงของพวกคุณไม่ใช้โอกาสนี้ทำลายตระกูลเซียวไปเสียหล่ะ?”
จงหยู่ยิ้มอย่างเคอะเขินและพูดว่า “แม้ว่าตระกูลเซียวจะถูกเย่เซิ่งเทียนทำลายผู้แข็งแกร่งตายไปจำนวนมาก แต่ก็ยังเป็นตระกูลที่มีเกียรติอยู่ดี เป็นตระกูลเก่ายาวนานหลายพันปีที่ยังเหลืออยู่ อูฐผอมยังไงก็ยังใหญ่กว่าม้า ตระกูลจงของพวกเราสู้ไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าจู่ของตระกูลเซียวแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สุดท้ายก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งในแดนทะลุเทพ จัดการได้ยาก และยิ่งไปกว่านั้น เซียวเทียนเฉิงเป็นขั้นสี่ของแดนสะพานเทพ กำลังสำคัญของตระกูลจงของพวกเราควบคุมตระกูลเซียวได้ แต่ไม่มีกำลังการต่อสู้ระดับสูงแบบนั้น…”
เย่เซิ่งเทียนแสร้งทำเป็นทนไม่ได้และพูดว่า “เอาเอ๊ยล่ะ ฉันเข้าใจความหมายของคุณ ที่คุณพูดอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้ก็คืออยากจะยืมกำลังของฉันไปจัดการกับตระกูลเซียวและเซียวเทียนเฉิงใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ แต่ว่า ตระกูลจงของพวกคุณจะจ่ายไหวหรือ?”
จงหยู่ได้ยินดังนั้น คิดว่าจะไปได้ดี
ขอแค่หลินเย่ตอบตกลง แม้ว่าจะต้องมีของแลกเปลี่ยน ขอแค่ได้เหยียบขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด สำหรับตระกูลจงของพวกเขาแล้วก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว
จงกวงที่อยู่ข้างๆ ยิ้มและถามว่า “ไม่ทราบว่าเงื่อนไขของหมอเทวดาหลินคืออะไร?”
เย่เซิ่งเทียนตอบอย่างเชื่องช้าว่า “จะให้ฉันลงมือหน่ะมันง่ายมาก วิชาฝึกฝนและทรัพยากรของตระกูลเซียว ฉันต้องการแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ตำราวิชาขั้นสูงพวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง ไม่มากเกินไปใช่ไหม?”
สามคนพ่อลูกตระกูลจงหันมาสบตากัน
ความต้องการของหลินเย่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ตั้งแปดสิบเปอร์เซ็นต์!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลจงของพวกเขาราวกับว่าได้จิบซุปแค่อึกเดียว หรือว่ากินส่วนที่เหลือกันแน่
ต้องรู้ก่อน แม้ว่าตระกูลเซียวจะสูญเสียกำลังสำคัญไป แต่ยังไงก็เป็นตระกูลที่มีเกียรติ
ถ้าฝั่งหลินเย่สามารถจัดการกับเหล่าจู่ของตระกูลเซียวและเซียวเทียนเฉิงได้ คนที่เหลือก็ต้องเป็นตระกูลจงของพวกเขาเป็นคนจัดการ
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเซียวเสียทรัพยากรมูลค่าสามสิบล้านล้านหยวนไปแล้ว ถ้าหลินเย่เอาไปอีกแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แล้วงี้มันจะเหลืออะไรหล่ะ
จงหยู่หัวเราะและตอบว่า “หมอเทวดาหลิน ห้าสิบกับแปดสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับตระกูลจงฉันแล้ว มันชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่คุ้มกับที่พวกเราลงมือจัดการตระกูลเซียว จัดการเซียวเทียนเฉิงและเหล่าจู่ตระกูลเซียว พวกเราก็ต้องลงมือ ตระกูลเซียวฉันก็เป็นกำลังหลัก ถ้าพวกเราคนละห้าสิบห้าสิบคิดว่ามันจะยุติธรรมที่สุด”
เย่เซิ่งเทียนหันหลังกลับ หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า “ในเมื่อไม่จริงใจ งั้นก็ช่างเถอะ ตระกูลจงของพวกคุณก็เสพสุขไปคนเดียวมันไม่ดีกว่าหรือ? คิดอยากจะอยู่ตำแหน่งสูงสุด แต่กลับไม่อยากแบ่งเงิน มันมีแบบนี้ที่ไหนหล่ะ พวกคุณไปเชิญผู้ฉลาดหลักแหลมคนอื่นเถอะ ธุรกิจที่ขาดทุนแบบนี้ฉันไม่เอาด้วย ตอนนี้ ตระกูลจงของพวกคุณมาหาฉันให้ลงมือ หากตระกูลจงของพวกคุณจัดการแก้ไขเองได้ แล้วจะมาหาฉันอีกทำไมกัน?”
“ฉันไม่ปฏิเสธความเสี่ยงที่ตระกูลจงของพวกคุณจะได้รับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเหล่าจู่ตระกูลเซียวและเซียวเทียนเฉิง และไม่แน่อาจจะมีภัยคุกคามอื่นๆ อีก ฉันไม่ลงมือกับตระกูลเซียว มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับฉัน ตระกูลจงของพวกคุณเองที่คิดอยากจะปีนขึ้นที่สูง ไม่ใช่ฉัน”