Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่952 เหย้ซูหลิงในอารมณ์เศร้าเครียด
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่952 เหย้ซูหลิงในอารมณ์เศร้าเครียด
เย่เซิ่งเทียนได้ตามเป้าหมายตัวเองแล้ว มีคำพูดคำนี้ของเซียวเทียนเฉิง ต่อไปนี้เขาก็ไม่ขาดวัตถุดิบในการฝึกวิชา
เขาคิดแผนเอาไว้ว่าจะซ่อนตัวอยู่ในตระกูลเซียวสักหนึ่งเดือน หลังจากนั้นค่อยดู
สำหรับสถานะของหลินเย่ อีกเดือนให้หลังค่อยปรากฏตัวออกมารักษาโรคร้ายให้เซียวเทียนเฉิง
พอเย่เซิ่งเทียนออกไปแล้ว ในหัวใจของเซียวเทียนเฉิงเต็มอิ่มด้วยความหวัง มีแต่ความรู้สึกว่าเป็นอนาคตที่รอได้
“คิดไม่ถึงเลยว่า อัจฉริยภาพของเย่เซิ่งเทียนจะสูงถึงขนาดนี้ น่ากลัวสรวงสวรรค์คงยังไม่รู้”
แววตาของเซียวเทียนเฉิง เต็มไปด้วยความละโมบ พึมพำพูดกับตัวเองว่า “เย่เซิ่งเทียนเอ๋ย รีบทะลวงให้สำเร็จเร็วหน่อย ปลุกฟื้นเลือดเทพแห่งซวนหยวน ขอเพียงให้ในตัวคุณเกิดมวลสารทิพย์ขึ้นมา ฉันก็จะได้เชือดหมูอ้วนอย่างตัวคุณนี้ได้ และต้องรีบให้ตระกูลจงหาไอ้คุณหลินเย่ นั่นให้พบ รักษาโรคร้ายของฉันให้หายขาด ถึงแม้ว่าจะรักษาไม่ได้ ขอเพียงให้ยืดชีวิตต่อได้สักห้าปี โอกาสก็จะเป็นของฉันได้!”
เขากับเย่เซิ่งเทียนต่างคนต่างก็วางแผนเล่นงานต่อกันไป ต่างฝ่ายต่างก็มองว่าฝ่ายตรงข้ามหลงเข้ามาในลอบดักของตนแล้ว
ในขณะเดียวกันนั้น ทางด้านตระกูลเหย้ เหย้ซูหลิงไม่ได้รับข่าวคราวของเย่เซิ่งเทียน ให้รู้สึกจะหงุดหงิดอารมณ์เสีย
เดิมทีหล่อนคิดจะให้เย่เซิ่งเทียนมาตามที่หล่อนวางแผนไว้ แต่ตอนนี้หล่อนรู้สึกว่า เย่เซิ่งเทียนหลุดออกจากความควบคุมของหล่อนแล้ว
เวลานี้ขนาดแม้แต่ข่าวคราวยังไม่ส่งกลับมา ตัดขาดการติดต่อกันไปทั้งหมด
“สมควรตายจริงนะเย่เซิ่งเทียน แกกล้ามาล้อเล่นกับฉัน!มาตะล่อมเอาข่าวจากที่ฉันไป ตอนนี้กลับติดต่อไม่ได้ เลวร้ายจริง ๆ!”
เหย้ซูหลิงโกรธจนบ้าจะตาย หล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่เซิ่งเทียนจะมีพบกับตระกูลเซียวหรือเปล่า
ไม่มีข่าวคราวแม้สักนิด
“ยังไม่มีข่าวเลยหรือ?”
ผู้เฒ่าตระกูลเหย้เหย้ม่อถามอย่างเมตตา
เหย้ซูหลิงตอบไปอย่างท้อแท้ว่า “คุณปู่ ยังไม่มีเลย”
เหย้ม่อพูดเสียงหัวเราะ “เรื่องปกติ เย่เซิ่งเทียนนี้ระดับหงส์มังกรในหมู่มนุษย์ มีหรือจะปล่อยให้เธอเล่นงานได้?ถ้าเขาไม่มีความคิดของตัวเอง ก็ไม่ใช่เย่เซิ่งเทียนแล้ว สามารถเป็นคุณเทพในแดนโลกมนุษย์ได้ ต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน”
เหย้ซูหลิงพูดอย่างไม่ยอมรับว่า “คุณปู่ หรือฉันเทียบเขาไม่ได้เลยจริง ๆ หรือ?ฉันรู้สึกว่า ฉันอยู่ในโลกมนุษย์ ก็ทำผลงานอย่างเขาได้นะ”
เหย้ม่อส่ายหน้า “ยาก อย่าว่าแต่คุณ ต่อให้เป็นฉัน ถ้าให้เปลี่ยนตัวกับเย่เซิ่งเทียน น่ากลัวคงจะทนรับไม่ไหว พวกเราในตอนนี้มองผลงานที่เย่เซิ่งเทียนทำไว้ได้ เชื่อว่าพวกเราก็ทำได้ แต่แท้จริงแล้วก็คือพวกประเภทเห็นงานที่เขาทำแล้วเสร็จก็คุยว่าทำได้ คุณต้องรู้นะ เขานั้นไม่มีเบื้องหลังหนุนเหมือนคุณนะ”
เหย้ม่อก็ไม่อยากกระทบกระทุ้งหลานสาวตัวเองต่อ แต่ปลอบใจไปว่า “สำหรับคนแบบเย่เซิ่งเทียน จะให้เขาไปตามกรอบแผนงานของคุณ ก็จงอย่าได้ไปจ้องจะควบคุมเขาเสียทุกเรื่อง นั่นมีแต่จะทำให้เกิดผลในทางตรงกันข้าม ขอให้ทำจนผลสุดท้ายสรุปได้ผลตามที่คุณคาดวางไว้ นั่นก็คือสำเร็จ”
“บางคนที่เกิดมา ก็ไม่ใช่ประเภทให้ใครควบคุมได้ อีกอย่าง ถ้าคุณคิดจะให้เย่เซิ่งเทียนใส่ใจคุณ งั้นคุณยิ่งต้องไม่ไปควบคุมเขา ความคิดก่อนหน้านี้ของคุณนั้นไม่เลว ตอนนี้คุณดีกับเขามากเท่าไหร่ ให้ความช่วยเหลือเขาไปยิ่งมาก อีกหน่อยเมื่อเขารู้ถึงความจริง ก็จะมีความรู้สึกละอายใจกับคุณ ถึงตอนนั้น คุณถึงจะมีโอกาสเอาชนะหวางซีได้”
“คุณคิดว่าเย่เซิ่งเทียนทำไมถึงได้ใส่ใจเอามากในหวางซี?ก็เพราะหวางซีไม่เคยต้องการอะไรกับเขา มีแต่การให้ตลอด ไม่เคยคิดหวังตอบแทน ฉะนั้นในใจเย่เซิ่งเทียนมีแต่รู้สึกละอายแก่ใจ ในใจก็เกิดความผูกพัน ทั้งชาตินี้ไม่มีวันจะทำให้หวางซีเสียใจ”
เหย้ซูหลิงพูดด้วยอารมณ์เศร้าเครียดว่า “น่าทุเรศจริง ๆ ทำไมถึงได้มีผู้หญิงอย่างหวางซีที่ไม่เคยมีความอยากได้อะไรจากเขาเลย สวนมาก็คล้อยตาม ทำตัวเป็นคนชั้นเซียนเทพไปงั้นเลย ลองถ้าเปลี่ยนมาเป็นฉันละก้อ ครั้งที่ถูกตระกูลหวางทำใส่แบบนั้น เมื่อตอนเย่เซิ่งเทียนกลับ ฉันคงจะถล่มตระกูลหวางยับพินาศไปแล้ว”
เหย้ม่อหัวเราะแล้วพูดว่า “ก็ถึงว่างัย คุณไม่ใช่หวางซี ครอบครัวของหวางซี อบรมบ่มเพาะให้เขาเป็นคนมีนิสัยเอื้ออารี คุณมันมารน้อยสาว จะไปเหมือนได้ยังไง?ถ้าหากคนที่ยืนอยู่ที่นี่วันนี้เป็นหวางซี หล่อนจะไม่กังวลเลยว่าเย่เซิ่งทียนจะหลุดจากการควบคุมหรือไม่ มีแต่จะห่วงความปลอดภัยของเย่เซิ่งเทียน”
พูดมาถึงนี่ เหย้ม่อหยุดชะงักพักหนึ่ง “ที่ฉันพูดมานี้ ไม่ใช่จะให้คุณไปหัดแบบหวางซี แต่ให้คุณเป็นตัวของคุณ คุณก็คือหลานสาวมารสาวน้อยของฉันเหย้ม่อ เห็นควรจะทำยังไงก็ทำ ถ้าของเป็นของ ๆ คุณ ใครก็แย่งเอาไปไม่ได้ ถ้าของไม่ใช่ของ ๆ คุณทำยังไงคุณก็รั้งไว้ไม่ได้ คุณเข้าใจหรือยัง?”
เหย้ซูหลิงกัดฟันพูดว่า “แต่ฉันก็ยังคิดว่าต้องแย่งเขามาให้ได้ทำไง?”
เหย้ม่อพูดเสียงชืด ๆ “แย่งมาได้ นั่นก็ฝีมือของคุณ แต่อย่าทำให้เรื่องเป็นผลกลับตาละปัดแล้วกัน คนอย่างเย่เซิ่งเทียน อีกหน่อยจะมีสาวรู้ใจข้างกายของเขานั้นไม่ใช่น้อย คุณไม่ต้องไปแย่งกับหวางซีหรอก คุณเพียงสามารถแย่งมาจากสาวคนอื่นได้ก็พอ แน่นอน ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนตายไป นั่นก็ถือเสียว่าฉันไม่ได้พูด”