Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่957 แดนฉ่องทิพย์ขั้นยอด!
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่957 แดนฉ่องทิพย์ขั้นยอด!
หนึ่งเดือนในการใช้ฝึกวิชาคงสั้นไปหน่อย ไม่สามารถตกผลึกได้ทั้งหมด ได้เริ่มมีผลทางลบออกมาแล้ว
แต่เย่เซิ่งเทียนไม่ได้คิดจะไปกังวลถึงเรื่องพวกนั้น
สำหรับเขาแล้ว ขอเพียงข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย ก็ถือว่าใช้ได้
บรึม!
ภายในร่างกาย ดูเหมือนมีเป็นเสียงระเบิดลอดออกมา เย่เซิ่งเทียนเลือดทะลักออกเจ็ดทวาร ทั้งตัวสั่นไม่ยอมหยุด
“หลอมเดี๋ยวนี้”
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ส่งเข้ามาจากอวัยวะภายในทั้งหลาย เหมือนกองทัพมดคันไฟกำลังรุมกัด อีกยังเหมือนมีคนนับพันนับหมื่นกำลังแย่งกันเชือดเฉือน
อันที่จริงแล้วการสลายวิญญาณจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน จะไม่ได้มีความเจ็บปวดทรมานแบบนี้
แต่เย่เซิ่งเทียนไม่มีเวลา เขารอไม่ได้ ไม่ใส่ใจกับขั้นตอนลำดับที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป
จึงเล่นเดินสายทางเสี่ยง ฝืนบังคับให้ผสานรวม!
หัวใจเป็นธาตุไฟ นิสัยไฟนั้นก้าวร้าว
คิดจะฝืนบังคับ ไม่ใช่เรื่องง่าย
ยิ่งบังคับ ปฏิกิริยาสวนกลับก็ยิ่งรุนแรง
ภายใต้การฝืนบังคับของเย่เซิ่งเทียน จิตวิญญาณไฟเหมือนเกิดมีความโกรธ เริ่มชนซ้ายชนขวาสะเปะสะปะ มุ่งตรงไปกวนพลังปราณของเย่เซิ่งเทียน
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้เพียงแค่มีเลือดทะลักออกทั้งเจ็ดทวาร ขณะนี้ตามรูขุมขนทั้งตัว ก็มีเลือดซึมออกมา
มองเห็นเป็นมนุษย์เลือดกันจะจะ
การฝึกวิชา ความจริงก็เป็นการฝืนทางธรรมชาติอยู่แล้ว ยิ่งวิธีการของเย่เซิ่งเทียนที่ใช้การบังคับฝึกด้วยกำลัง
“แย่แล้ว ไอ้สัตว์หมานี่เหมือนจะระเบิด”
เย่เซิ่งเทียนสะดุ้งตกใจขวัญผวา
จิตวิญญาณไฟยิ่งทียิ่งกร้าวร้าว ชนซ้ายปาดขวาในหัวใจ จนคุมกันไม่อยู่แล้ว
“ทำยังไงดีทีนี้?”
เย่เซิ่งเทียนค่อนข้างร้อนรน นี่ถ้ามันระเบิดขึ้นมา วันนี้เขาก็ต้องตายฉิบ
ชีวิตก็จบ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องการไปช่วยคุณแม่แล้ว
ตอนนี้เขาเริ่มนึกเสียใจ ไม่น่ที่จะไปร้อนรนเลย เกินเลยมันก็ไม่มีการถึง เขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองมุทะลุลุยหวังผลเกินไป
ทว่าตอนนี้จะว่ายังไงก็สายไปแล้ว จิตวิญญาณไฟตอนนี้ระเบิดออกเต็มที่แล้ว ร่างกายของเขาเดือดพล่าน แดงจัดจ้านเป็นลูกกุ้งมังกรเผาสุก
พลังปราณภายในยิ่งทียิ่งกระจัดกระจาย หัวใจเริ่มรับไม่ไหวแล้ว เต้นรัวอย่างรุนแรงขึ้นมา
ความเร็วในการขับเคลื่อนของพลังวิชาอมตะเร็วขึ้นกว่าปกติอีกหลายเท่า พยายามขุดคุ้ยพลังแฝงของเย่เซิ่งเทียนออกมา
ไม่รู้แน่ว่าจะใช่เป็นผลปฏิบัติการของพลังวิชาอมตะหรือไม่ ในขณะนั้นเอง กระแสเลือดของเขาเริ่มเดือดพล่าน เลือดประหลาดแห่งตระกูลเย่ดูเหมือนถูกปลุกตื่นภวังค์ขึ้นมาอีกครั้ง
แผ่กระจายพลังจิตวิญญาณเป็นสายใย รวมศูนย์ไปอยู่ที่หัวใจ
พลังเหล่านี้ ก็เหมือนเป็นอวนแห ตะล่อมห่อจิตวิญญาณไฟเข้าไว้
จิตวิญญาณไฟโจนทะยานพุ่งซ้ายชนขวา แต่ไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้ สุดท้ายก็ถูกพลังจิตวิญญาณควบคุมไว้ได้ เริ่มการผสานรวม
ส่วนพลังจิตวิญญาณนี้ ก็เหมือนกาวกันชน ทำให้ห้าจิตวิญญาณผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์
“เลือดประหลาดแห่งตระกูลเย่ ตื่นภวังค์ขึ้นเป็นครั้งที่สามแล้วหรือ?”
เย่เซิ่งรู้สึกดีใจอยู่ในใจ
ก่อนหน้านี้ที่วังใต้ดินในวัดโบราณที่เมืองพุทธ ก็ได้มีการตื่นภวังค์อยู่ครั้งหนึ่ง ไม่คิดว่าผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังได้มีการตื่นภวังค์อีกเป็นครั้งที่สาม
เห็นทีว่าถ้าระดับขั้นแดนที่ฝึกยิ่งสูง การตื่นภวังค์ของเลือดประหลาดแห่งตระกูลเย่ก็จะถี่มากขึ้น
พลังเทพผสานห้าจิตวิญญาณ เริ่มมีปรากฏของการเปลี่ยนแปลง
เย่เซิ่งเทียนคล้ายกับได้มองเห็น เสินฉางทั้งห้าธาตุผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ตำแหน่งจุดจงถิงในร่างกาย ปรากฏเป็นแท่นบูชาเทพขึ้นมาหนึ่งแท่น
นั่นก็คือแท่นก้าวขึ้นวิมานฟ้า!
และบนแท่นบูชาเทพนั้น มีตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับตัวเขานั่งขัดสมาธิอยู่ นั้นก็คือวิญญาณเทพที่เกิดขึ้นหลังจากห้าจิตวิญญาณผสานรวมตัวเข้าด้วยกันเมื่อครู่นี้
แดนฉ่องทิพย์ขั้นยอด!!
เย่เซิ่งเทียนลิงโลดดีใจ ในที่สุดตัวเองก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ขณะเดียวกันนั้นเขาก็พบความแตกต่างที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดวิญญาณเทพเกิดแล้ว พลังทิพย์ในทั้งตัวของเขา เริ่มเคลื่อนตัววนอยู่รอบจุดจงถิง
และในเวลาเดียวกันนั้นก็ได้พบว่า ตรงส่วนหัวใจ มีการควบแน่นเป็นหยดเลือดสีทองขึ้นมาหยดหนึ่ง
หยดเลือดสีทองหยดนี้ เริ่มแหวกว่ายไปทั่วร่างกาย ซึมแทรกเข้าไปในกระดูกมังกร
อันว่ากระดูกมังกรของมนุษย์ ก็คือกระดูกสันหลัง เพียงแต่ในวงการบู๊เรียกกันว่ากระดูกมังกร
เมื่อหยดเลือดสีทองซึมแทรกเข้าไปในกระดูกมังกรแล้ว กระดูกมังกรเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นประกายแสงทองให้เห็นรำไร
แต่หยดเลือดสีทองมีแค่หยดเดียว จึงเปลี่ยนแปลงได้เพียงตรงช่วงกลางประมาณหนึ่งในสามส่วนของทั้งหมด ที่เหลืออีกสองในสามส่วนนั้นยังไม่มีอะไรขยับ
“น่าเสียดายจริง ได้แค่หนึ่งในสามส่วนของกระดูกมังกรที่เปลี่ยนแปลงสำเร็จ หากแม้นเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้ 《ร้อยวิชาหล่อหลอม》ของฉันก็สำเร็จได้อย่างสมบูรณ์”
เย่เซิ่งเทียนส่ายหน้าอย่งเสียดาย แต่ก็ยังมีความพึงพอใจอยู่
ถึงยังไงก็เป็นผลงานที่ได้มาในเวลาแค่เพียงเดือนเดียว
“ยังห่างแดนสะพานเทพอีกนิดเดียว พักผ่อนสักวันก่อน แล้วค่อยลุยทะลวงกันต่อ”
เย่เซิ่งเทียนวางแผนการไว้อย่างเรียบร้อย ขั้นต่อไปก็จะเป็นแดนสะพานเทพ
เขาเริ่มทำการอ่านพิเคราะห์อย่างละเอียดในวิชาการฝึกที่เซียวเทียนเฉิงให้มากับบันทึกเคล็ดการฝึกแดนสะพานเทพ
“สร้างสะพานเทพบนแท่นขึ้นวิมานฟ้า บินข้ามสะพานเทพเคาะประตูฟ้า ประตูฟ้าเปิด ถามหาชีวิตอมตะ”
เย่เซิ่งเทียนพึมพำกับตัวเอง แต่ไม่เข้าใจ พูดกับตัวเองว่า “ประตูฟ้า คือประตูบนฟ้าหรืออะไร?ถ้ายังไม่เห็นชัดในตำแหน่งประตูฟ้า แล้วจะให้สร้างสะพานที่ไหน?”
“ในเมื่อมีประตูฟ้า แล้วในประตูฟ้าจะเป็นอะไร?”