Martial God Space - ตอนที่ 316
Martial god space ตอนที่ 316 ด่านภัยพิบัติสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง (2)
แม้ว่างูสายฟ้าทั้งหมดจะสามารถทะลุม่านพลังป้องกันของ เย่ ซีหวิน แต่พวกมันไม่สามารถทำให้เขาขยับตัวได้เลยแม้แต่เส้นผม พวกมันพยายามรัดตัวของ เย่ ซีหวิน แต่สุดท้ายพวกมันกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และถูกดูดกลืนพลังโดยเขา
ดูเหมือน ด่านภัยพิบัติสวรรค์ เริ่มจะหมดความอดทนแล้ว หลังจากมันล้มเหลวไปสองครั้ง พลังงานสายฟ้าก่อตัวขึ้นอีกครั้งในก้อนเมฆสีดำมันควบแน่นพลังงานจำนวนมหาศาลจนเปลี่ยนรูปกลายเป็นอาวุธทั้ง 18 ชนิด กระบี่ ดาบ หอก มีด และอาวุธอื่นๆ บนท้องฟ้าตอนนี้เต็มไปด้วยอาวุธสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน อาวุธสายฟ้าทั้งหมดพุ่งตรงเข้าไปหา เย่ ซีหวิน ราวกับคลื่นของมหาสมุทร
อาวุธสายฟ้าแต่ละชนิดมีพลังทำลายล้างมากกว่างูสายฟ้าก่อนหน้านี้ อาวุธเหล่านี้ดูเหมือนมีจิตวิญญาณของตัวเอง และสามารถปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา หากเป็นจอมยุทธที่พึ่งทะลวงขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานพวกเขาคงไม่อาจต้านทานจิตสังหารเหล่านี้ได้ พวกเขาจะตกอยู่ในความหวาดกลัวจนไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่ก้าวเดียว
อาวุธสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน บินเข้ามารวมตัวกันราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด มันเหมือนกับสายธารของน้ำที่เต็มไปด้วยอาวุธสายฟ้า ภาพที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้น่าสยดสยองจนไม่อาจบรรยายได้
( NT : นึกถึงภาพของฝูงค้างคาวบินออกจากถ้ำ พวกมันบินรวมตัวกันราวกับสายน้ำในอากาศ )
” เปรี้ยงง! “
” เปรี้ยงง! “
” เปรี้ยงง! “
” แก๊งงง! แคร๊งง! ” ทันทีที่อาวุธเหล่านั้นปะทะเข้ากับร่างของ เย่ ซีหวิน ทำให้เกิดเสียงแหลมดังเหมือนโลหะสองชนิดปะทะกัน และมีประกายไฟแฉลบออกมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนตัวของเขาได้ แต่คราวนี้อาวุธสายฟ้าเหล่านี้ สามารถสร้างความเสียหายจนร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยบาดแผล ร่างกายของเขาในตอนนี้ราวกับย้อมไปด้วยเลือด
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน รีบเปิดใช้ เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ ฟื้นฟูร่างกายกลับมาเหมือนเดิม คราวนี้เขาไม่กล้าประมาท และรีบโคจร เคล็ดวิชาราชันย์ร่างทองคำ อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นพลังป้องกันของเขาก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุด อาวุธสายฟ้ายังคงโหมกระหน่ำโจมตีเขาอย่างต่อเนื่อง
สองพี่น้องตระกูลโม่ ยืนมองดู ด่านภัยพิบัติสวรรค์ของ เย่ ซีหวิน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ความรุนแรงของมันในครั้งนี้เหนือกว่าครั้งที่ผ่านนับสิบเท่า ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเห็น ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ปรากฏขึ้น มันเป็นเหมือนดั่งฝันร้ายที่ฝั่งลึกอยู่ภายในจิตใจของพวกเขา ในตอนนี้ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ กำลังโจมตี เย่ ซีหวิน ด้วยพายุอาวุธสายฟ้าโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง มันเป็นฉากการต่อสู้ที่น่าสยดสยองเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้
ด่านภัยพิบัติสวรรค์ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การโจมตีของมันเหมือนต้องการจะฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ยังคงท่าทีที่สงบนิ่ง อาวุธสายฟ้าเหล่านั้นยังคงโจมตีเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทั่วร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่มันก็ไม่สามารถพลักตัวออกจากจุดเดิมได้แม้แต่นิดเดียว
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ก็ไม่สามารถทำอันตราย เย่ ซีหวิน ได้มากกว่านี้ เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องอีกครั้งราวกับเสียงของความไม่พึ่งพอใจ จากนั้นเมฆสีดำบนท้องฟ้าของ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ก็สลายตัวไป ท้องฟ้าค่อยๆ คืนสภาพกลับมาเป็นปกติ
กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของ เย่ ซีหวิน มันดูแข็งแกร่งมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม บาดแผลทั่วร่างของเขาค่อยๆ สมานตัว และหายเป็นปกติ
เย่ ซีหวิน ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งใจ ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานแรกเริ่มขั้นที่ 2 ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ เขามั่นใจว่าสามารถเอาชนะขอบเขตลมปราณระดับตำนานขั้นที่ 4 ได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าตอนนี้ เย่ ซีหวิน สัมผัสถึงความแข็งแกร่ง และมีพลังในการป้องกันของตัวเองเพิ่มขึ้น แต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับเขา
อย่างไรก็ตามเขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้เขาต้องการ ผลึกหลอมจิตวิญญาณ จำนวนมาก เพื่อยกระดับทักษะการต่อสู้ต่างๆ ของเขา ดังนั้น ผลึกหลอมจิตวิญญาณ จึงค่อนข้างจำเป็นมากในเวลานี้ แม้ว่า กระจกเทียนหยวน จะสามารถหลอม ผลึกหลอมจิตวิญญาณ ได้จำนวนมากต่อวัน แต่อัตราการหลอมของมันยังไม่เพียงพอต่ออัตราการบริโภคของเขา
นอกจากนี้พวกเขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต
ในที่สุด ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ก็สลายไปจนหมดสิ้น บริเวณรอบนอกที่เคยถูกปกคลุมด้วยพายุทรายก็เงียบสงบลง ท้องฟ้าในตอนนี้ปลอดโปร่งไม่มีแม้แต่เมฆเลยสักก้อนเดียว
เย่ ซีหวิน หันมองไปทาง สองพี่น้องตระกูลโม่ และลูกหมาป่าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เมื่อพวกเขาเดินมาถึงเขาก็พูดว่า ” ข้าตัดสินใจว่าจะออกไปจากที่นี่ แต่ข้าอยากให้พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน อีกสิบวันพวกเจ้าค่อยตามข้าออกไป! “
ในกลุ่มของพวกเขา เย่ ซีหวิน เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม หากเทียบกันแล้วความแข็งแกร่งของสองพี่น้องตระกูลโม่ยังด้อยกว่าเขาอีกมาก หากพวกเขาออกไปพร้อมกับ เย่ ซีหวิน พวกเขาจะกลายเป็นภาระ เขาไม่อาจปกป้องพวกเขาไปพร้อมกับต่อสู้ในเวลาเดียวกัน
มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน ถ้าปล่อยให้ เย่ ซีหวิน อยู่ตามลำพัง เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคอยกังวล และหากตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเขาสามารถหลบหนีได้ในทันที
เย่ ซีหวิน นำกระบี่อาญาสิทธิ์ที่ได้จาก เทพองค์ที่ห้า ออกมาแล้วแบ่งให้พวกเขาคนละเล่ม พวกเขาสามารถออกไปจากโลกใบเล็กแห่งนี้ได้ตลอดเวลา
หลังจาก เย่ ซีหวิน อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพวกเขาแล้ว เย่ ซีหวิน ถ่ายเทพลังลมปราณเข้าไปในกระบี่อาญาสิทธิ์ จารึกที่อยู่ในกระบี่ก็เริ่มทำงาน กระบี่อาญาสิทธิ์เปล่งประกายแสงสว่างวูบหนึ่ง ร่างของ เย่ ซีหวิน ก็หายไปทันทีโดยปราศจากร่องรอยใดๆ
. . . . . . . . . . . . . . . .
” นั่นน . . นั่นเขา! เย่ ซีหวิน! เขาออกมาแล้ว! ” เมื่อพวกมันเห็น เย่ ซีหวิน ปรากฏตัว สายสืบของกองกำลังต่างๆ จดจำเขาได้ทันที ภาพวาดใบหน้าของ เย่ ซีหวิน ถูกกระจายออกไปตามกองกำลังหลักต่างๆ ทั้งหมดแล้ว
คัมภีร์โบราณของเทพเจ้าเพียงแค่หนึ่งหน้า ก็มากพอที่จะทำให้กองกำลังหลักต่างๆ ตกอยู่ในความบ้าคลั่ง จอมยุทธหลายคนที่ออกมาจากการสำรวจโลกใบเล็กของนิกายสวรรค์ พวกเขารีบไปกลับแจ้งข่าวต่อกองกำลัง หรือ นิกายของตนเองทันที ข่าวเกี่ยวกับ เย่ ซีหวิน เป็นผู้ครอบครองคัมภีร์โบราณของเทพเจ้าแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว กองกำลังต่างหลักๆ ส่งสายสืบของตนออกมาคอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวบริเวณรอบๆ ซากปรักหักพังของนิกายสวรรค์ทันที
” ใช่! นั่นเขา! เป็นมันแน่นอน! รีบกลับไปรายงานเร็วเข้า! ไอ้เด็กนี่ มันจะต้องตายในวันนี้! ” หนึ่งในสายสืบของกองกำลังหลักกล่าวอย่างรวดเร็ว
” ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เย่ ซีหวิน! ข้าไม่คิดว่ามันจะโง่ขนาดนี้ ถ้ามันยอมซ่อนตัวอยู่ในนั่นไปตลอดชีวิต ก็ไม่ต้องคอยหลบหนีจากการไล่ล่าสังหารของกองกำลังเทพเจ้า มันคิดว่าจะสามารถหลบหนีไปอย่างลอยนวล หลังจากผ่านไปครึ่งเดือนแล้วทุกคนจะลืมงั้นเหรอ? ” สมาชิกคนหนึ่งของกองกำลังเทพเจ้า พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทันใดนั้น แผ่นจารึกประเภทส่งข้อความระยะไกล หลายอันก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า และพุ่งออกไปกลายเป็นลำแสงในอากาศกระจายออกไปคนละทิศทาง สายสืบของกองกำลังหลักต่างๆ รีบแจ้งข่าวการปรากฏตัวของ เย่ ซีหวิน หลังจากพวกมันคอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา
” เย่ ซีหวิน! พวกมันพากันส่งข่าวออกไปแล้ว อีกไม่นานการต่อสู้อันดุเดือดก็จะเริ่มขึ้น เจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม! ” เยโม่ กล่าว
” อืม! ” เย่ ซีหวิน พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของมัน เขาไม่สามารถหยุดการส่งข่าวของสายสืบทั้งหมดได้ พวกมันมีมากเกินไป มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะหยุดแผ่นจารึกเหล่านั้น
ดูเหมือนมีหลายกองกำลังหลักที่ให้ความสนใจกับคัมภีร์โบราณ
” เย่ ซีหวิน! วันนี้จะเป็นตายของเจ้า! ” เสียงคำรามดังกึกก้องมาจากที่ห่างไกลบนท้องฟ้า ลำแสงหลายสิบดวงในท้องฟ้ากำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง เสียงแหวกอากาศที่ดังใกล้เข้าราวกับว่ามันสามารถฉีกท้องฟ้าออกจากกัน
กลุ่มของจอมยุทธหลายสิบคนบินอยู่ในอากาศ ออร่าอันแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากร่างของจอมยุทธคนแรก เขาสามารถควบคุม ปราณจิตวิญญาณ ในชั้นบรรยากาศได้อย่างง่ายดาย จอมยุทธคนนี้จะต้องอยู่ในขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
จอมยุทธคนที่สองในกลุ่มของพวกเขา มีออร่าที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 27 ปี มีใบหน้าหล่อเหลาและสง่างาม เสื้อคลุมสีทองที่ปลิวไสวอยู่ด้านหลังแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นที่มั่งคั่ง หรือเป็นคนของขุนนางที่รับใช้จักรพรรดิ
ชายหนุ่มคนอีกคนที่อยู่ด้านข้างก็แต่งตัวคล้ายๆ กัน ใบหน้าของเขาก็ดูหล่อเหลาและสง่างามสวมเสื้อคลุมสีทองเช่นกัน แต่ดูเหมือนเขาจะอายุอ่อนกว่าน่าจะประมาณ 25 ปี
จากเสียงพูดคุยของเหล่าจอมยุทธที่อยู่รอบๆ ตัวเขา เย่ ซีหวิน ก็รู้ตัวตนของชายหนุ่มทั้งสอง พวกเขาคือ เทพองค์ที่สาม และ เทพองค์ที่สี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำกองกำลังเทพเจ้า หรือ เทพทั้งห้า
พวกเขาทั้งสองมีนิสัยคล้ายกันกับ เทพองค์ที่ห้า พวกเขาต่างเย่อหยิ่ง และชอบข่มเหงผู้อื่น เพราะพวกเขาคิดว่าตัวเองเป็น เทพเจ้า
ด้านหลังของพวกเขามีจอมยุทธที่ทรงพลังหลายสิบคน แต่ละคนเป็นจอมยุทธลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน พวกเขาแต่ละคนได้รับการสนับสนุนจาก เทพทั้งห้า และเป็นผู้นำสูงสุดในแต่ละดินแดน เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองกำลังเทพเจ้า
เย่ ซีหวิน มองไปรอบ ๆ และสังเกตสัญลักษณ์กองกำลังเทพเจ้า ที่ปักอยู่บนเสื้อคลุมของจอมยุทธเหล่านั้น ดูเหมือนว่ากองกำลังเทพเจ้าจะมีอยู่ทุกๆ ที่ในอาณาจักรต้าหมิง
จอมยุทธคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา ” จอมยุทธเหล่านี้คือ จอมยุทธฝีมือดีที่สุด ของกองกำลังเทพเจ้า ความแข็งแกร่งของพวกเขาสามารถบดขยี้กองกำลังทั้งหมดของเมืองหยงอันได้ราวกับพลิกฝ่ามือ แต่วันนี้พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่เพื่อกำจัด เย่ ซีหวิน!
จอมยุทธอีกคนหนึ่งในวงสนทนารีบพูดขึ้นมาทันที ” ความจริงของเรื่องก็คือ เย่ ซีหวิน เป็นผู้สังหาร เทพองค์ที่ห้า ทำให้ผู้นำระดับสูงโกรธแค้นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงส่งจอมยุทธเหล่านี้มาเพื่อแก้แค้น! ”
” เจ้าเห็นชายหนุ่มสองคนนั้นมั้ย พวกเขาน่าจะเป็น เทพองค์ที่สาม และ เทพองค์ที่สี่ ชาวยุทธลือกันว่า เทพทั้งห้า เป็นผู้นำของ กองกำลังเทพเจ้า พวกเขาแต่ละคนมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งมาก แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่างกัน เทพองค์ที่ห้า เป็นคนที่อ่อนแอที่สุด เอ่อ. . ใช่ ข้าพึ่งได้ข่าวล่าสุดมาว่า เทพองค์ที่หนึ่ง และ เทพองค์ที่สอง พวกเขาไม่ได้อยู่ในอาณาจักรต้าหมิงแล้ว พวกเขาออกเดินทางไปอาณาจักรฉิน ตอนนี้ในอาณาจักรต้าหมิงเหลือเทพแค่สามองค์เท่านั้น เพราะข่าวการตายของ เทพองค์ที่ห้า เมื่อครึ่งเดือนที่แล้วทำให้ เทพองค์ที่สาม ถูกเรียกตัวกลับให้มาปิดล้อมซากปรักหักพังของนิกายสวรรค์ ส่วน เทพองค์ที่สี่ เขาต้องหยุดภารกิจออกไปสำรวจซากปรักหักพังโบราณอีกแห่ง ให้รีบกลับมาเช่นกัน จะว่าไปแล้วไม่เคยมีใครกล้ายั่วโมโหให้พวกเขาโกรธได้ถึงขนาดนี้มาก่อน! “
” เจ้าคือ เย่ ซีหวิน! ใช่มั้ย? ” ชายหนุ่มอายุ 27 ปี ตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชายหนุ่มคนนั้นคือ เทพองค์ที่สาม เขาเป็นหนึ่งในผู้นำกองกำลังเทพเจ้า ตอนนี้เขากำลังจ้องมอง เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาเฉยเมย ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึม ในสายตาของเขา เย่ ซีหวิน ไม่ต่างอะไรกับซากศพที่ไร้ชีวิต
” ใช่! ” เย่ ซีหวิน เชิดหน้าแล้วมองไปที่ เทพองค์ที่สาม ด้วยแววตาที่เฉื่อยชา
” เทพองค์ที่ห้า ตายด้วยน้ำมือของเจ้า! ” เทพองค์ที่สี่ จ้องมอง เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาที่กระหายเลือดราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย ที่หมายจะขย้ำเหยื่อและฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ในสายตาของเขา เย่ ซีหวิน เหมือนเหยื่อที่กำลังรอความตาย ซึ่งเขาจะเป็นผู้มอบความตายนี้ให้กับมัน
” เป็นข้า! ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่ เทพองค์ที่สี่ ด้วยแววตาที่เฉื่อยชาเช่นกัน
” ดี! ” เทพองค์ที่สาม กล่าด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในสายตาของเขาตอนนี้ เย่ ซีหวิน ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก ที่จะบดขยี้มันเมื่อไหร่ก็ได้
” ต่อให้เจ้ามีปีกวันนี้ก็ไม่มีทางรอดไปได้ หากจะสั่งเสียอะไรจงกล่าวมันออกมา! ” คำพูดของเขาดูเหมือนใจกว้าง ซึ่งในความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้แยแสเรื่องการตายของ เทพองค์ที่ห้า เท่าไหร่นัก หากไม่ใช่เพราะ เทพองค์ที่หนึ่ง และ เทพองค์ที่สอง ออกไปจากอาณาจักรต้าหมิงอย่างรีบร้อนก่อนหน้านี้ บางทีพวกเขาคงมีเรื่องเร่งด่วนให้ไปจัดการ
ใบหน้าของ เย่ ซีหวิน ยังคงเรียบเฉย ( ถ้าเจ้าได้เจอ Blackpink ฝากบอกเจนนี่ด้วยว่า . . . . นางช่าง sexy เหลือเกิ๊นนน )
” เย่ ซีหวิน! จงยอมจำนน และส่งคัมภีร์โบราณของเทพเจ้าให้กับหน่วยองครักษ์เสื้อแพร พวกข้าจะรับรองความปลอดภัยให้เจ้าเอง! ” เสียงตะโกนดังแว่วมาจากอีกด้านหนึ่งของท้องฟ้า เขาเปล่งเสียงโดยใช้พลังลมปราณทำให้ได้ยินเสียงจากที่สถานห่างไกล
จอมยุทธอีกกลุ่มหนึ่งกำลังบินตัดข้ามขอบฟ้ามาด้วยความเร็ว
จอมยุทธหลายสิบคน แต่งกายในเครื่องแบบของ องครักษ์เสื้อแพร ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าคนของ กองกำลังเทพเจ้า และยังมีจอมยุทธลมปราณระดับตำนานอีกหลายคนติดตามอยู่ด้านหลัง แววตาของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปจิตสังหาร
หนึ่งในนั้นคือ นายน้อยแห่งองครักษ์เสื้อแพร ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในอาณาจักรต้าหมิง เย่ ซีหวิน จำมันได้ถึงแม้จะเคยเห็นไม่กี่ครั้ง
( NT : เย่ ซีหวิน ถอนหายใจยาว พร้อมกับครุ่นคิด ทำไมพวกมึงไม่แย่งกันตั้งแต่แรก ไหนๆ ก็มา มาให้หมดๆ จะได้จัดการทีเดียว )
” เย่ ซีหวิน! มอบทุกสิ่งที่เจ้าได้มาจากซากปรักหักพังโบราณมา แล้วข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ ” นายน้อยแห่งองครักษ์เสื้อแพร พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในความเป็นจริงมันค่อนข้างสะใจที่เห็น เย่ ซีหวิน ถูกล้อมรอบโดยเหล่าจอมยุทธ และหมดหนทางหลบหนี ก่อนหน้านี้ในโลกใบเล็ก เย่ ซีหวิน แข็งแกร่งเกินไป มันไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา แต่ตอนนี้มันมีกำลังเสริมทำให้มันมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
จอมยุทธคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา ” ข้าไม่คิดเลยว่า นายน้อยแห่งองครักษ์เสื้อแพร จะนำเหล่าผู้อาวุโสมากมายขนาดนี้ บางทีอาจกล่าวได้ว่า นายน้อยแห่งองครักษ์เสื้อแพร ขนเอากำลังเสริมทั้งหมดในเมืองหยงอัน และจากเมืองใกล้เคียงมาที่นี่ ”
จอมยุทธอีกคนหนึ่งกล่าวต่ออีกว่า ” แน่นอน! พอพวกเขาได้ข่าว คัมภีร์โบราณของเทพเจ้า ทั้งหน่วยองครักษ์เสื้อแพร คงพากันตื่นตระหนก หากพวกเขามีเวลาเรียกระดมพลมากกว่านี้ ไม่แน่พวกเขาอาจจะยกมาหมดทั้ง หน่วยองครักษ์เสื้อแพร ด้วยซ้ำ “
จอมยุทธคนอีกหนึ่งกล่าวขึ้นมา ” ข้ากลัวครั้งนี้อาจเป็นจุดจบของ เย่ ซีหวิน เขาถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังเทพเจ้า และยังมีคนของ หน่วยองครักษ์เสื้อแพร ล้อมรอบในเวลาเดียวกัน “