Martial God Space - ตอนที่ 319
Martial god space ตอนที่ 319 การต่อสู้อันดุเดือด! (3)
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองนั้นน่ากลัวมากเกินไป ร่างกายของ เทพองค์ที่สาม เกือบจะถูกทุบเป็นเนื้อบด ถึงอย่างนั้น เย่ ซีหวิน ก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก เนื่องจากดาบยาวในมือของ เทพองค์ที่สาม ปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมา ทำให้ร่างกายของเขามีรอยบาดแผลที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
จิตสังหารอันรุนแรงแผ่ออกมาจากร่างของพวกเขาทั้งสอง เทพองค์ที่สาม ต้องสูญเสียน้องชายไปถึงสองคน ความโกรธแค้นเขาที่มีต่อ เย่ ซีหวิน มันมากมายจนเขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเองอีกต่อไป เขาจะต้องฆ่า เย่ ซีหวิน ให้ได้ เพื่อระบายความแค้นในครั้งนี้
เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ของ เย่ ซีหวิน กำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง และมีเสียงกรีดร้องของนกฟีนิกซ์ดังออกมาจากร่างกายของเขา
ในที่สุดร่างกายของเขาก็สามารถฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เขาสะบัดดาบในมือคราหนึ่งมีประกายแสงสว่างขึ้นบนดาบ ทันใดนั้น ดวงจันทร์ขนาดใหญ่ ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า แรงกดดันที่แผ่ออกมาของ เพลงดาบคมเขี้ยวดับจันทรา ครั้งนี้แฝงไปด้วยกฏแห่งโลก มันผสานพลังอำนาจของดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ หลอมรวมเอาไว้ด้วยกัน
แม้ว่า เทพองค์ที่สาม จะต้องพ่ายแพ้ ร่างกายของเขาตอนนี้ราวกับย้อมไปด้วยเลือด แต่จิตใจของเขายังคงแน่วแน่เขาต้องการจะฆ่า เย่ ซีหวิน ความเกลียดชังที่มีต่อ เย่ ซีหวิน เป็นแรงพลักดันให้เขาสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้ เพลงดาบอันน่าสะพรึงของเขาเห็นได้ชัดแล้วว่า หากไม่ใช่ เย่ ซีหวิน แม้แต่จอมยุทธระดับ 4 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานก็ไม่มีทางรอดชีวิตจากการโจมตีนี้ได้ และหาก เย่ ซีหวิน ไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เคล็ดวิชาราชันย์ร่างทองคำ และ เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ แล้ว ไม่ต้องพูดถึงร่างของเขาคงถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วนไปแล้วตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก
ด้วยเหตุนี้ เย่ ซีหวิน จะต้องเอาชนะ เทพองค์ที่สาม ให้ได้โดยเร็วที่สุด เขาไม่อาจเสียเวลาไปมากกว่านี้
ทั้งสองต่างเชื่อมั่นในตนเองว่าตนสามารถสังหารอีกฝ่ายหนึ่งลงได้ ดาบยาวในมือของพวกเขาต่างแทงทะลุร่างของอีกฝ่าย ใบหน้าของทั้งสองบิดเบี้ยวมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลไม่หยุด สายตาของจอมยุทธทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ภาพอันน่าสยดสยองนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึง หัวใจสูบฉีดเลือดอย่างรุนแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก
หากสถานการณ์กลับกันถ้าพวกเขาไปอยู่ตรงนั้นแทน พวกเขาจะมีปัญญาหยุดการโจมตีนี้ได้เหมือน เย่ ซีหวิน หรือไม่?
การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสอง เป็นการต่อสู้แบบแลกชีวิต พวกเขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าอีกฝ่ายจะถูกสังหาร
ฉากการต่อสู้อันน่าสยดสยองนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนมีไอเย็นแล่นผ่านศีรษะไปถึงกระดูกไขสันหลัง และหนาวสั่นโดยที่ไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ ของ เย่ ซีหวิน ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยม เทพองค์ที่สาม ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแกร่ง และสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วเหมือน เย่ ซีหวิน ยิ่งปะทะกันนานมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ได้บาดแผลของเขาสาหัสมากขึ้นเท่านั้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เพราะความเจ็บปวดที่กำลังถาโถมเข้ามา
เย่ ซีหวิน คำรามขึ้นมาคราหนึ่ง พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองก็ปะทุออกมาจากร่างเขาอีกครั้งราวกับคลื่นมหาสมุทรสีทอง ทันใดนั้นเขาสะบัดดาบใบมีดยาวไปข้างหน้า ปราณจิตวิญญาณจำนวนมหาศาลก่อตัวเป็นมังกรสีทองทะยานข้ามท้องฟ้าพุ่งตรงไปหา เทพองค์ที่สาม ทันที
เย่ ซีหวิน โจมตีด้วยพลังทั้งหมดเขาหมายจะฆ่า เทพองค์ที่สาม ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว
เทพองค์ที่สาม มีทักษะบางอย่างในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้มีประสิทธิภาพเหมือน เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ แต่ความเร็วในการฟื้นตัวของเขาก็ไม่นับว่าช้าเกินไป ตอนนี้ทั้งสองกำลังแข่งความสามารถในการฟื้นฟูร่างกาย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เย่ ซีหวิน มีข้อได้เปรียบอย่างมากในการรักษาบาดแผล ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้ เทพองค์ที่สาม มีโอกาสกู้คืนความแข็งแกร่ง และพลิกสถานการณ์กลับมาสังหารเขา
ร่างของ เทพเจ้าที่สาม เปียกโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าของเขาดูหมองหม่นแต่เขาเก็บอาการเอาไว้ด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเขาจ้องมองไปที่ เย่ ซีหวิน ราวกับจะฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ เขาเค้นเสียงคำรามออกมา จากนั้นก็สะบัดดาบยาวในมือคราหนึ่งและโจมตีออกไป
” เปรี้ยงง! ” การปะทะอันน่าหวาดกลัวเกิดขึ้นอีกครั้ง คลื่นแรงกระแทกอันรุนแรงก่อให้เกิดลมพายุหมุนที่อัดแน่นไปด้วยปราณดาบ ลมพายุหมุนนับไม่ถ้วนพัดกระจายออกมา มันกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพัดผ่านจนราบเป็นหน้ากลอง
” แคร๊งงงง! บรึ้มมม! ” เสียงของโลหะสองชนิดปะทะกัน ดาบใบมีดยาวของ เย่ ซีหวิน และดาบยาวของ เทพองค์ที่สาม ปะทะกันทำให้เกิดคลื่นแรงกระแทกที่รุนแรงกระจายออกมา พื้นดินโดยรอบกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ และมีรอยแตกร้าวหลายสาย ก้อนหินและใบไม้พัดปลิวกระเด็นออกมาตามแรงลม ทำให้ฝุ่นดินคลุ้งกระจายไปในอากาศ
ทั้งสองปะทะกันอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่ชนกันมีเลือดสาดกระจายออกมาจากร่างกายของพวกเขา มันเป็นฉากการต่อสู้อันดุเดือด และเร้าใจ หลายคนเผลอกำมือแน่นจนเหงื่อไหล พวกเขาลุ้นอย่างใจระทึกด้วยความหวาดเสียวทุกครั้งที่เห็นปลายดาบของอีกฝ่ายโจมตีไปร่างของอีกฝ่าย
” ตายซะ! ” เย่ ซีหวิน คำรามออกมาคราหนึ่ง และจ้องมอง เทพองค์ที่สาม ด้วยแววตาที่กระหายเลือด ในขณะที่กวัดแกว่งดาบใบมีดยาวโจมตีไปที่ เทพองค์ที่สาม ครั้งแล้วครั้งเล่า
” หยุดดดด! ” นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร ที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้แยแสต่อการตายของ เทพองค์ที่สาม หรือเทพองค์อื่นๆ แต่เขาเห็นความน่าสยดสยองของ เย่ ซีหวิน ถ้าปล่อยให้เขาฆ่า เทพองค์ที่สาม คิวต่อไปก็จะต้องเป็นตาของพวกมันแน่นอน ทางเลือกเดียวของมันคือต้องช่วย เทพองค์ที่สาม เพื่อให้เขาช่วยกำจัด เย่ ซีหวิน
นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร และสาวกขององครักษ์เสื้อแพรพุ่งตัวเข้าไปจู่โจม เย่ ซีหวิน ทันที สาวกที่เหลือของกองกำลังเทพเจ้าก็พุ่งตัวไล่ตามไปติดๆ
จอมยุทธลมปราณครึ่งก้าวตำนาน และจอมยุทธลมปราณระดับตำนาน ถึงแม้พวกเขาจะร่วมมือกันก็ไม่สามารถฆ่า เย่ ซีหวิน ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยปิดกั้น เย่ ซีหวิน ไม่ให้ลงมือสังหาร เทพองค์ที่สาม ทุกคนเห็นแล้วว่ามีเพียง เทพองค์ที่สาม เท่านั้นที่สามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับ เย่ ซีหวิน ถ้าเขาตายความหวังเดียวของพวกมันก็คงจบสิ้น
” แคร๊งงง! ชิ้งงง! “
” ย๊ากกซ์! ปังงง! อั้กก! “
” เปรี้ยงง! ตูมมมม! “
พลังโจมตีที่น่าหวั่นกลัวนับไม่ถ้วนถาโถมเข้ามาที่ร่างของ เย่ ซีหวิน แต่ก็ไม่ใครสามารถทำอันตรายเขาได้เลย ม่านพลังสีแดงเข้มปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวของ เย่ ซีหวิน พลังโจมตีเหล่านั้นไม่มีทางเข้าใกล้ หรือสัมผัสแม้แต่เส้นผมของเขา ม่านพลังป้องกันดังกล่าวคือพลังของ กระจกเทียนหยวน
เย่ ซีหวิน รีบไล่ตาม เทพองค์ที่สาม ออกไป ในเวลานี้เสื้อคลุมสีทองที่ขาดรุ่งริ่งของ เทพองค์ที่สาม เปียกโชกไปด้วยเลือด ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล ใบหน้าของเขาขาวซีดเนื่องจากเสียเลือดไปจำนวนมาก
เทพองค์ที่สาม ออกท่องยุทธภพมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพอันน่าสมเพช เขาเคยต่อสู้กับเหล่าจอมยุทธมามากมายเขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บแลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาเคยต่อสู้กับ เทพองค์ที่หนึ่ง หรือ เทพองค์ที่สอง และเพื่อนฝูงของเขา เขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชเช่นนี้
เย่ ซีหวิน กวัดแกว่งดาบใบมีดยาวในมือคราหนึ่ง กระบวนท่าดูเหมือนเชื่องช้า แต่เพลงดาบของเขาบรรลุมาถึงด้านหน้าของ เทพองค์ที่สาม แล้ว
เทพองค์ที่สาม ไม่มีพลังมากพอที่จะต้านทานพลังโจมตีของ เย่ ซีหวิน เขาบาดเจ็บสาหัสร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับร่างกายอันแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน เขาต้องการเวลาเพิ่มอีกเพื่อกู้คืนความแข็งแกร่งของร่างกาย
” ฉัวะ! ” ดาบใบมีดยาวของ เย่ ซีหวิน ฟันเข้าไปที่ร่างของ เทพองค์ที่สาม อย่างไร้ความปราณี ร่างของเขาขาดออกเป็นสองส่วนทันที
เลือดสาดกระจายไปทั่วท้องฟ้า จากนั้นร่างของ เทพองค์ที่สาม ก็ค่อยๆ ร่วงตกลงมากระแทกกับพื้นดิน เทพองค์ที่สาม เป็นถึงจอมยุทธอันดับต้นๆ ที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรต้าหมิง แต่สุดท้ายเขาก็ถูกฆ่าด้วยน้ำมือของ เย่ ซีหวิน
จอมยุทธหลายคนที่เห็นฉากการเสียชีวิตของ เทพองค์ที่สาม บางคนถึงกับยืนอ้าปากค้างสีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และไม่อยากเชื่อว่า เทพองค์ที่สาม จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังถูกสังหารโดย เย่ ซีหวิน ต่อหน้าต่อตาของพวกมัน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็น ในตอนแรกพวกเขาจินตนาการเอาไว้ว่า เทพองค์ที่สาม จะสามารถเอาชนะ เย่ ซีหวิน ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ เย่ ซีหวิน พึ่งจะมาถึงอาณาจักรต้าหมิงได้ไม่นาน แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับ เทพองค์ที่สาม ที่มีชื่อเสียงมานานหลายปีแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาสามารถพูดได้ว่าเหนือกว่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ทั้งหมดในอาณาจักรต้าหมิง
จอมยุทธส่วนใหญ่เมื่อพวกเขาเริ่มมีชื่อเสียง พวกเขามักจะเชื่อมั่นในพลังของตนเองมากเกินไป ซึ่งต่างจาก เย่ ซีหวิน ที่เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง เขาไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม จอมยุทธเหล่านั้นถูกฆ่าก็เพราะ เย่ ซีหวิน แข็งแกร่งกว่าพวกมัน
เทพองค์ที่สาม เป็นจอมยุทธที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของอาณาจักรต้าหมิง พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือน เทพองค์ที่สาม แม้พวกมันจะอยู่ในระดับ 4 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เย่ ซีหวิน พวกมันไม่สามารถหยุดการโจมตีของเขาได้ ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ รอคอยความตายเท่านั้น
ถึงเขาจะเป็นจอมยุทธที่ทรงพลัง แต่กลับพ่ายแพ้และถูกสังหารด้วยน้ำมือของ เย่ ซีหวิน เมื่อข่าวการตายของ เทพทั้งสามองค์ แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งอาณาจักรจะต้องตกอยู่ในความโกลาหล นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอาณาจักรต้าหมิง
หลายคนถึงกับถอนหายใจยาว พวกเขาได้เห็น จอมยุทธรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของอาณาจักร ต้องมาพ่ายแพ้ และถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตา เทพเจ้าแห่งโชคชะตาไม่เข้าข้างพวกเขาเลยตลอดการต่อสู้ เย่ ซีหวิน เป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่ง
บนถนนของเหล่าผู้กล้าในตำนานเต็มไปด้วยความโหดร้าย เมื่อเลือกเดินบนเส้นทางสายนี้แล้ว ถึงแม้จะเป็นจอมยุทธที่มีพรสวรรค์ก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก จอมยุทธไร้นามอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมยุทธที่มีพรสวรรค์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราอาจจะบังเอิญพบกับจอมยุทธไร้นามที่น่าเกรงขามได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้การเดินทางบนถนนของเหล่าผู้กล้าในตำนานจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย
มีสายลมเย็นหนึ่งพัดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้กลิ่นเหม็นคาวเลือดกระจายไปในอากาศ บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้ที่ดุเดือด มีหลุมขนาดเล็ก และใหญ่กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
เย่ ซีหวิน สูดลมหายใจเข้าออกทางปากอยู่คราหนึ่ง เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ ของเขาก็โคจรไปทั่วร่าง ใบหน้าของเขาค่อยๆ คืนกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง บาดแผลต่างๆ บนร่างกายของเขาหายเป็นปกติราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
” ต่อไปเป็นคิวของพวกเจ้าแล้ว! ” เย่ ซีหวิน แสยะยิ้มแล้วหันไปมองทางกลุ่มของ นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร และสาวกที่เหลือยู่ของกองกำลังเทพเจ้า
สายลับจากกองกำลังหลักอื่น ๆ ถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ พวกมันเห็นภาพที่ เย่ ซีหวิน สังหาร เทพทั้งสอง ไปแล้วอย่างไร ตอนนี้พวกมันเดาได้ในทันทีว่า เย่ ซีหวิน จะกำจัดกลุ่มของ นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร ไปด้วยในคราเดียว
เขากำลังยั่วยุ นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร?
นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร ไม่เชื่อว่า เย่ ซีหวิน จะกล้าท้าทายกองกำลังขององครักษ์เสื้อแพรที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรต้าหมิง สำหรับ เย่ ซีหวิน แล้วกลุ่มขององครักษ์เสื้อแพรเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาตั้งแต่แรก
เขากำลังจะเปิดสงครามกับอาณาจักรต้าหมิง!
เย่ ซีหวิน สะบัดดาบใบมีดยาวในมือคราหนึ่ง ปราณดาบ ก็พุ่งออกไปที่กลุ่มขององครักษ์เสื้อแพร ลำแสงอันแหลมคมของปราณดาบตัดร่างของพวกมันแยกออกเป็นชิ้นๆ
ปราณดาบแหลมคมยิ่งกว่าใบมีด รูปร่างของมันเหมือนกับพระจันทร์เสี้ยวที่บางและโค้งมน ประกายแสงสว่างที่เปล่งออกมาดูสวยงาม แต่แฝงไปด้วยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
เหล่าจอมยุทธที่ต้องการสังหาร เย่ ซีหวิน ฝีมือของพวกมันแต่ละคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน แต่ละคนอยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนาน อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาแต่ละคนมีมรดกของตนเองและทักษะเฉพาะตัว ตอนนี้ เย่ ซีหวิน ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าจอมยุทธ โดยมีจอมยุทธผู้ทรงพลังรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ส่งผลใดๆ กับเขาเลย เย่ ซีหวิน โคจรเคล็ดวิชาราชันย์ร่างทองคำภายในร่าง จากนั้นเขาพุ่งตัวฝ่าวงล้อมออกไปอย่างรวดเร็ว
” ฉัวะ! อ๊ากกซ์! ” ร่างของจอมยุทธระดับ 2 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานถูกตัดออกเป็นสองส่วนทันทีโดย เย่ ซีหวิน ร่างของมันร่วงลงบนพื้นดิน จากนั้นเลือดก็ไหลออกมาราวกับน้ำพุ
กระจกเทียนหยวน กำลังลอยอยู่เหนือศีรษะของ เย่ ซีหวิน ม่านพลังสีแดงเข้มปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวของ เย่ ซีหวิน ทำให้เหล่าจอมยุทธที่พยายามโจมตีไม่สามารถทำอันตรายเขาได้แม้แต่เส้นผม
เย่ ซีหวิน พยายามไล่ตาม นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร เพื่อสังหารมัน แต่ถูกเหล่าสาวกของ องครักษ์เสื้อแพร พยายามปิดกั้นเส้นทางของเขา นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร เป็นอีกคนที่คอยสร้างปัญหาให้กับเขา ดังนั้น เย่ ซีหวิน ไม่คิดจะปล่อยให้มันหนีรอดไปได้
นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร เห็น เย่ ซีหวิน กำลังไล่ตามมันมาไม่ห่าง เขาสะบัดมือคราหนึ่ง มีดกงจักรขนาดใหญ่ก็พุ่งออกไปโจมตี เย่ ซีหวิน ทันที
เย่ ซีหวิน เค้นเสียงคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาตวัดดาบใบมีดยาวในมือแล้วฟาดมีดกงจักรให้สะท้อนกลับไปที่ นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร มันตัดเข้าไปตรงกลางอกของเขาจนเป็นรอยแผลลึกมองเห็นกระดูก บาดแผลของเขานับว่าสาหัสเลือดไหลสาดกระจายออกราวกับน้ำพุ สภาพของเขาในตอนนี้ดูเลวร้ายมาก
นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และหวาดกลัวอย่างมาก มันพยายามรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อหลบหนีอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ไม่มีทางปล่อยให้มันหลบหนีไปอย่างลอยนวล เขารีบไล่ตามมันไปทันที ในเวลานั้นสาวกขององครักษ์เสื้อแพรก็ไล่ตามมาทันทีละคน พวกมันพยายามเข้าไปช่วยเหลือนายน้อยอย่างเร่งรีบ พวกมันไม่สามารถปล่อยให้ นายน้อยองครักษ์เสื้อแพร ถูกฆ่าได้ ไม่เช่นนั้นพวกมันคงไม่มีหน้ากลับไปรายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้
” ปังงง! ” เย่ ซีหวิน พุ่งเข้าไปชนกับกลุ่มของ องครักษ์เสื้อแพร โดยตรง ทำให้สาวกคนหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพร ถูกสังหารทันทีโดย เย่ ซีหวิน
” วิ้งงง! ฉัวะ! ” เย่ ซีหวิน ตวัดดาบใบมีดยาวในมือ ปราณดาบอันทรงพลัง ก็พุ่งออกไปตัดร่างของจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับตำนานคนหนึ่งของกลุ่ม องครักษ์เสื้อแพร ขาดออกเป็นสองส่วนทันที จากนั้นร่างอันไร้วิญญาณของมันก็ร่วงลงมากระแทกกับพื้นดิน ทำให้บริเวณรอบๆ ศพของมันนองไปด้วยเลือด