Martial God Space - ตอนที่ 325
Martial god space ตอนที่ 325 เมืองยอดยุทธ
ถนนของเหล่าจอมยุทธในตำนานสายนี้ หลังจากที่เคยเงียบเหงามานานนับ 100 ปี ตอนนี้กลับมาครึกครื้นเต็มไปด้วยเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์นับไม่ถ้วน ถนนเส้นทางสายนี้มุ่งหน้าไปยัง สถาบันยอดยุทธ ซึ่งตอนนี้กำลังจะเปิดรับสมัครศิษย์ใหม่ และหลังจากนั้นอีกไม่นานมันก็จะค่อยๆ กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้งหลังการรับสมัครสิ้นสุดลง
เย่ ซีหวิน สามารถเอาชนะจอมยุทธที่อยู่อันดับต้นๆ ของอาณาจักร ความแข็งแกร่งของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าจอมยุทธมากมาย อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน เกือบจะต้องพลาดโอกาสในการลงทะเบียนสมัครศิษย์ใหม่ เพราะเขาถูกไล่ล่าโดยเหล่าจอมยุทธที่ต้องการแย่งชิงคัมภีร์โบราณจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น สถาบันยอดยุทธ ก็เริ่มเปิดรับสมัครศิษย์ใหม่ เวลาในการเดินทางอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนที่สามารถเอาชีวิตรอดจนมาถึง สถาบันยอดยุทธ เกือบทั้งหมดจะกลายเป็นสาวกของ สถาบันยอดยุทธ นับจากนี้เป็นต้นไปพวกเขาจะได้เริ่มต้นเป็นสาวกใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบ ก็เท่ากับว่าความพยายามของพวกเขาทั้งหมดต้องสูญเปล่า
ในเวลานี้ เย่ ซีหวิน ได้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทำอะไรกับเขา แม้ว่าพวกเขาต่างจะพากันอิจฉา เย่ ซีหวิน ที่ได้ครอบครองคัมภีร์โบราณของเทพเจ้า
สถาบันยอดยุทธ ตั้งอยู่บนเทือกเขาขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยภูเขานับไม่ถ้วน มีเส้นชีพจรจิตวิญญาณกระจัดกระจายอยู่หลายแห่ง ปราณจิตวิญญาณอันเข้มข้นควบแน่นจนกลายเป็นเมฆหมอกลอยอยู่บนท้องฟ้า ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนกับสรวงสวรรค์บนดิน
ด้านล่างของเทือกเขามีเมืองขนาดใหญ่ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบเทือกเขาแห่งนี้เอาไว้ เทือกเขาขนาดใหญ่ และเมืองแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างใหญ่เกือบจะเทียบเท่ากับดินแดนเล็กๆ แห่งหนึ่งของอาณาจักรต้าหมิง อาณาเขตทั้งหมดของ สถาบันยอดยุทธ ไม่ได้อยู่ในการปกครองของอาณาจักรใดๆ มันเป็นสถานที่ปกครองพิเศษของ สถาบันยอดยุทธ นับตั้งแต่มันถูกก่อตั้งขึ้น
ทุกๆ รอบ 100 ปีที่ สถาบันยอดยุทธ เปิดรับสมัครศิษย์ใหม่ เมืองแห่งนี้จึงเต็มไปผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้บรรยากาศในเมืองคึกคักมีชีวิตชีวา และเป็นศูนย์รวมของเหล่าจอมยุทธ เมืองแห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า เมืองยอดยุทธ ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของ สถาบันยอดยุทธ ก่อนหน้านี้ สำนักยี่หยวน ก็เคยรับสมัครศิษย์ใหม่ และส่งบรรดาศิษย์ใหม่ไปลงทะเบียนสมัครตาม ยอดขุนเขาที่กำหนดเอาไว้ในสำนัก แต่ เมืองยอดยุทธ เป็นเมืองที่มีไว้สำหรับรองรับศิษย์ใหม่จำนวนมากมายที่มาลงทะเบียน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองสถาบันนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการถึง
เมืองยอดยุทธ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายอันน่าเกรงขามได้ตั้งแต่ก่อนก้าวเท้าเข้ามาในเมือง กลิ่นอายอันแข็งแกร่งของบรรดาเหล่าจอมยุทธกระจายไปทั่วทั้งหุบเขา
” กล่าวกันว่า เมืองแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ อย่างไรก็ตาม สถาบันยอดยุทธ แห่งนี้ก็ได้ผลิตอัจฉริยะที่ไร้เทียมทานออกมาจำนวนนับไม่ถ้วน ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดล้วนแต่เริ่มต้นจากตรงจุดนี้! ” เย่ ซีหวิน กล่าว พร้อมกับถอนหายใจยาวออกมาด้วยความรู้สึกอึดอัด
กำแพงเมืองของเมืองยอดยุทธมีขนาดใหญ่มาก มันสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายร้อยเมตร หรืออาจจะมากกว่านั้น ไม่ต้องพูดถึงขนาดของมันแตกต่างจากกำแพงเมืองของอาณาจักรทั่วไป ถึงแม้จะไม่ได้มีกองกำลังทหารเหมือนดินแดนอื่นๆ รอบนอก แต่ก็มีคนคอยเดินลาดตระเวนอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาวกของ สถาบันยอดยุทธ
เย่ ซีหวิน สังเกตเห็นจอมยุทธหนุ่มคนหนึ่ง ถูกจับแขวนเอาไว้ที่กำแพง สภาพของเขาตอนนี้ดูน่าสมเพชมาก เหตุใด สถาบันยอดยุทธ ถึงเอาผู้คนมาแขวนไว้ที่กำแพงเมือง
เย่ ซีหวิน มองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าของประตูเมือง เขาสังเกตเห็นจอมยุทธจำนวนหนึ่งยืนขวางทางเข้าประตูเอาไว้ พวกเขาแต่ละคนอยู่ระดับ 3 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน หรือเหนือกว่านั้น บางคนมีกลิ่นอายเหมือนกับสัตว์ป่า และบางคนนั่งอยู่บนหลังของสัตว์อสูร
ทำไมจอมยุทธเหล่านั้นถึงยังไม่ผ่านประตูเข้าไปด้านใน พวกเขากำลังรออะไรอยู่หรือเปล่า? เย่ ซีหวิน มองพวกเขาด้วยความสงสัย
จอมยุทธเหล่านั้นที่ยืนรออยู่น่าประตูเมือง พวกเขาดูเหมือนจะอายุเพียงแค่ 20 – 23 ปี เท่านั้น พวกเขาน่าจะเป็นจอมยุทธรุ่นเยาว์จากดินแดนต่างๆ ที่เดินทางมายัง สถาบันยอดยุทธ เพื่อลงทะเบียนสมัครศิษย์ใหม่เช่นเดียวกับ เย่ ซีหวิน
เย่ ซีหวิน พยายามไม่ทำตัวเป็นจุดเด่น เขาเดินเข้าไปร่วมกลุ่มปะปนกับเหล่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ เพียงไม่นานเหล่าจอมยุทธคนอื่นๆ จำนวนมากมายก็ทยอยเดินทางมาถึง และร่วมกลุ่มกันที่หน้าประตูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
” เมื่อไหร่จะเปิดประตูสักที! ข้ารอนานมากแล้วนะ! ” จอมยุทธรุ่นเยาว์คนหนึ่ง พูดขึ้นมาด้วยความอารมณ์หงุดหงิด แล้วกล่าวต่ออย่างร้อนใจว่า ” ถ้ายังไม่ยอมเปิด! พวกข้าจะพังประตูเข้าไป! “
” หากเจ้ากำลังมองหาที่จะตาย ก็ลองบุกเข้ามา! ” สาวกหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
” พวกเราไม่ต้องการจะสร้างปัญหาที่นี่! แต่ทำไมพวกท่านถึงไม่ยอมเปิดประตูล่ะ? ” จอมยุทธอีกคนหนึ่ง พยายามถามเพื่อไขข้อข้องใจ
” มันยังไม่ถึงเวลา ประตูเมืองจะเปิดเฉพาะตอนเย็นเท่านั้น ดังนั้นคนที่มาถึงก่อนเวลา หรือพึ่งจะเดินทางมาถึง พวกเจ้าจะต้องรออีกหลายชั่วโมงจนกว่าดวงอาทิตย์จะตกดิน พวกข้าถึงจะเปิดให้พวกเจ้าเข้าไป! ” สาวกหนุ่ม อธิบาย
” ไม่มีวิธีอื่นอีกเหรอ? ทำไมต้องให้พวกเรารอทั้งวันด้วย! ” จอมยุทธคนหนึ่ง กล่าวด้วยความไม่พอใจ
” จอมยุทธส่วนใหญ่อย่างพวกเจ้าต่างมองตัวเองว่า เป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ของสำนัก บางคนภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตนเอง และเย่อหยิ่งไม่สนใจใคร แต่ละคนต่างก็มาจากอาณาจักรที่แตกต่างกัน และคิดว่าตนเองอยู่เหนือผู้อื่น มันเป็นสิ่งที่ยากจะควบคุม และจัดการ ดังนั้น สถาบันยอดยุทธ จึงใช้วิธีที่โหดร้ายเพื่อจัดการความหยิ่งยโสของพวกเขาเหล่านั้น พวกเจ้าคงไม่ทันสังเกตเห็นคนที่ถูกแขวนเอาไว้ที่กำแพงเมืองใช่ไหม? นั่นคือ ไอ้โง่คนหนึ่งที่คิดจะท้าทาย และถูกลงโทษโดยผู้คุ้มกฏ ของหอตุลาการ! ” สาวกคนหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน
” แน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะเข้าไป โดยที่พวกเจ้าไม่ต้องรอให้เสียเวลา! นั่นคือ เข้าไปทางประตูหลัก ด้านหลังประตู พวกเจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับ ค่ายกลหุ่นกระบอกไม้ทั้ง 108 ตัว หากพวกเจ้าคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอก็ก้าวเท้าออกมาด้านหน้า! ” สาวกคนเดิม กล่าวต่ออีกว่า ” แต่ค่ายกลหุ่นกระบอกไม้ทั้ง 108 ตัว ไม่ได้หมูอย่างที่พวกเจ้าคิดหรอกนะ แม้แต่จอมยุทธระดับ 5 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานก็ไม่สามารถฝ่าออกไปได้ มีเพียงจอมยุทธระดับลมปราณครึ่งก้าวตำนานขั้นกลางเท่านั้น ถึงจะสามารถฝ่าออกไปได้สำเร็จ ในกลุ่มของพวกเจ้า ถ้าคิดว่าตัวเองไม่กลัวตายก็ก้าวออกมาด้านหน้าได้เลย! “
เย่ ซีหวิน ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาพบว่าการทดสอบเล็กๆ นี้ค่อนข้างน่าสนใจ หากใครที่คิดว่าตนเองมีฝีมือ และแข็งแกร่งพอก็สามารถเลือกฝ่าด่านการทดสอบนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรออยู่ที่หน้าประตูจนถึงกำหนดเวลา
” เย่ ซีหวิน ข้าคิดว่าเราควรจะเลือกประตูนี้เข้าไป! ” เยโม่ กล่าวอีกว่า ” มันเป็นการทดสอบความมุ่งมั่น และความแข็งแกร่ง หากไม่มีแม้แต่ความเชื่อมั่นในตัวเอง ก็ไม่สามารถที่ก้าวเดินบนเส้นทางของจอมยุทธได้อีกต่อไป! “
” ใช่! ” เย่ ซีหวิน พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของมัน นี่เป็นบททดสอบความมุ่งมั่นภายในจิตใจของตนเอง เมื่อเลือกเดินบนเส้นทางของจอมยุทธแล้ว จะต้องกล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ โดยไม่หวั่นเกรง
เย่ ซีหวิน ค่อยๆ เดินฝ่าฝูงชนออกไปทางประตูหลัก
ทันใดนั้น มีเสียงตะโกนหนึ่งออกมาท่ามกลางเหล่าจอมยุทธ ” หลีกทางให้กับข้า! ข้าอยากลองฝ่าด่านทดสอบนี้ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะยากสักแค่ไหน! “
ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังของสัตว์อสูร ผู้คนต่างพากันแหวกเป็นทางเดินให้กับเขา
เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวสีแทน เขามีหน้าตาหล่อเข้ม และมีคิ้วที่บางเรียว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูง
เขานั่งอยู่บนหลังของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีขนาดใหญ่ ตัวของมันสูงราวๆ ยี่สิบฟุต มีประกายแสงศักดิ์สิทธิ์เปล่งออกมาจากร่างของมัน กรงเล็บทั้งสี่ของมันแข็งแรง และทรงพลังเป็นอย่างมาก ดูเหมือนกับว่ากรงเล็บของมันสามารถฉีกทุกอย่างออกเป็นชิ้นๆ ได้อย่างง่ายดาย
ออร่าอันทรงพลังปะทุออกมาจากร่างของเขา หลายคนตื่นตระหนกพากันถอยหลังหลีกทางให้กับเขาทันที
ชายหนุ่มบังคับพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีเดินไปทางประตูหลักโดยมี เย่ ซีหวิน ยืนห่างถัดจากเขาไม่ไกล แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจเดินตรงไปที่ประตูหลัก แต่เขากลับกระตุ้นให้พยัคฆ์เขี้ยวอัคคีเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น และวิ่งตรงไปที่ เย่ ซีหวิน มันตั้งใจจะฆ่าเขา
สายตาของทุกคนมองไปทาง เย่ ซีหวิน พวกเขาพยายามตะโกนเสียงดังเพื่อเตือนเขา ชั่วครู่หนึ่งพวกเขานึกสงสาร เย่ ซีหวิน เขาเป็นบุคคลที่โชคร้ายที่สุด . . . เพราะเขากำลังจะถูกฆ่า?
ใบหน้าของ เย่ ซีหวิน ยังคงสงบนิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีที่กำลังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว
” ปังงงง! ” ชายหนุ่ม และพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีของเขาปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังออกมาจากร่างก่อนจะพุ่งเข้าชน เย่ ซีหวิน เกิดคลื่นลมแรงพัดเอาฝุ่นดินฟุ้งกระจายบัดบังทัศนวิสัยการมองเห็น ทำให้ผู้คนไม่สามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน
ทุกคนพากันตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ ชายหนุ่มบนหลังพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีเป็นจอมยุทธที่ทรงพลังมาก ก่อนเดินทางมาถึงเมืองยอดยุทธ เขาไม่มีความตั้งใจที่จะไว้ชีวิตจอมยุทธคนอื่นๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังเดินกีดขวางเส้นทาง ทำให้เขาไม่สบอารมณ์ และลงมือสังหารอย่างไร้ความปราณี
เมื่อละอองฝุ่นดินจางหายไป ภาพที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจ พวกเขาคิดว่า เย่ ซีหวิน คงถูกฆ่าตายไปแล้ว แต่ไม่คาดว่า เย่ ซีหวิน จะสามารถหยุดการโจมตีของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคี โดยใช้เพียงแค่ฝ่ามือเดียวกดทาบที่หน้าผากของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีเอาไว้ โดยที่ตัวเขาไม่ขยับเขยื้อนจากจุดเดิมแม้แต่นิดเดียว
” เจ้าอยากตายหรือไง บังอาจทำร้ายสัตว์อสูรของข้า! ” ชายหนุ่มบนหลังพยัคฆ์เขี้ยวอัคคี กล่าวด้วยอารมณ์กำลังดุเดือด เปลวไฟแห่งความโกรธแค้นลุกโชนขึ้นมาทันทีเพราะเขารู้สึกเสียหน้า ดวงตาของเขาเปล่งประกายครู่หนึ่ง กรงเล็บทั้งสี่ของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีก็เรืองแสง และอัดแน่นไปด้วยประจุของสายฟ้า ในขณะที่มันใช้อุ้งเท้าตะปบไปที่ร่างของ เย่ ซีหวิน
กรงเล็บสายฟ้าของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีเป็นเหมือนกับใบมีดลำแสง ความคมของมันราวกับสามารถแยกร่างของ เย่ ซีหวิน ออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดายเหมือนกับตัดก้อนเต้าหู้
กรงเล็บของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีรวดเร็วจนพวกเขาไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของมันได้ พยัคฆ์เขี้ยวอัคคีของชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเกินไป ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรแต่ความแข็งแกร่งของมันน่าจะอยู่ในระดับ 4 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน หรือเหนือกว่านั้น แน่นอนว่ามันแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธบางคนในกลุ่มคนเหล่านี้
ชายหนุ่มที่กีดขวางเส้นทางคราวนี้เขาคงไม่รอดชีวิต มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับอัจฉริยะที่มีพรสวรรรค์ หลังจากรอดพ้นจากการไล่ล่าของเหล่าจอมยุทธจนมาถึงเมืองยอดยุทธ แต่สุดท้ายต้องมาตายที่หน้าประตูทางเข้าสถาบันยอดยุทธ
แต่สถานการณ์พลิกกลับเหนือความคาดหมายของทุกคน ไม่เพียงร่างของ เย่ ซีหวิน ไม่ได้ถูกแยกออกเป็นสองส่วน มีประกายแสงสีทองปรากฏขึ้นมาเพียงชั่วครู่หนึ่ง อุ้งเท้าหน้าของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีถูกตัดขาดโดยดาบใบมีดยาวในมือของ เย่ ซีหวิน
พยัคฆ์เขี้ยวอัคคี แผดเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของ เย่ ซีหวิน ยังคงสงบนิ่ง จากนั้น เย่ ซีหวิน ก็ซัดฝ่ามือออกไปกระแทกเข้ากับหน้าผากของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีอย่างแรง
” เปรี้ยงง! ” หัวกระโหลกของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีถูกทุบจะแหลกละเอียด มันถูกสังหารทันทีโดย เย่ ซีหวิน
” แม้แต่ พยัคฆ์เขี้ยวอัคคี ระดับ 4 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ ชายคนนี้เป็นใครกันแน่! ” จอมยุทธคนหนึ่ง ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนพากันตื่นตระหนก สัตว์อสูรที่ทรงพลังระดับ 4 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน ถูกสังหารโดย เย่ ซีหวิน ด้วยเพียงฝ่ามือเดียว หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาไปอยู่ตรงนั้นแทน พวกเขาอาจตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเกินกว่าจะบรรยาย
หลังจากซัดฝ่ามือไปที่หัวของพยัคฆ์เขี้ยวอัคคีแล้ว เย่ ซีหวิน ไม่ได้หยุดการโจมตีเพียงเท่านั้น เขากระโจนขึ้นไปหาชายหนุ่มคนนั้น และกระแทกฝ่ามือไปที่ร่างของเขา
” ปังงงง! ” ชายหนุ่มถูกกระแทกด้วยพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของ เย่ ซีหวิน โดยตรง หน้าอกของเขาถูกกระแทกจนยุบเป็นรอยฝ่ามือ กระดูกของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัส
เขากระอักเลือดออกมาปากราวกับน้ำพุ ร่างของเขาลอยปลิวออกไปหลายเมตร ก่อนที่ตกลงมากระแทกกับพื้นดินจนเป็นรอยลากยาว
เพียงแค่ฝ่ามือเดียว เขาสามารถสังหารพยัคฆ์เขี้ยวอัคคี และกำราบชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งจนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม อาการของเขาค่อนข้างสาหัส หรือ เขาอาจจะตายได้ทุกเวลา
” ใครบังอาจก่อความวุ่นวายในเมืองยอดยุทธ! ” เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจดังมาจากที่ห่างไกล ตามมาด้วยปราณดาบอันน่าเกรงขาม พุ่งตรงมาที่ เย่ ซีหวิน อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า