Martial God Space - ตอนที่ 326
Martial god space ตอนที่ 326 ศิษย์ผู้คุ้มกฏ
” เย่ ซีหวิน ปราณดาบนี้ทรงพลังมาก เจ้าอย่าได้ประมาท! ” เยโม่ ตะโกนเตือนเขาอย่างรวดเร็ว
เย่ ซีหวิน แสยะยิ้มที่มุมปาก ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็เปลี่นกลายเป็นสีทอง พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองโคจรไปที่มือทั้งสองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ทำลายปราณดาบอันน่าเกรงขามโดยตรงด้วยหมัด
” แน่จริงก็ออกมา! อย่ามัวแต่ซ่อนอยู่ในกระดองเหมือนเต่าหดหัว! ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะที่มองขึ้นไปที่กำแพงเมือง
เหนือกำแพงเมืองมีสาวกหลายคนยืนอยู่ บนหน้าอกเสื้อของพวกเขาปักตราสัญลักษณ์ของ สถาบันยอดยุทธ เอาไว้ พวกเขาปล่อยจิตสังหารออกมาพร้อมกับมองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาอันเย็นชา
” เป็นข้าเอง! เจ้าจะทำไม? ” ในเวลานี้มีเหล่าสาวกหลายคนบินลงมาจากกำแพงเมือง ชายคนแรกที่บินลงมามีหน้าตาคมคาย ดวงตาของเขาดูลึกลับซ่อนเร้น ขนคิ้วของเขาเฉียงยาวจนไปถึงขมับ เสื้อคลุมสีน้ำเงินทำให้เขาดูสง่างามและน่าเกรงขาม
” เคยยืนอยู่เฉยๆ แล้ววูบมั้ย ” เย่ ซีหวิน พูดอย่างเย็นชา และแผ่จิตสังหารพุ่งตรงไปที่เขา ปราณดาบก่อนหน้านี้ไม่ใช่คำเตือน แต่มันเจตนาจะสังหารเขาในดาบเดียว
” เย่ ซีหวิน ดูเหมือนเจ้าจะเย่อหยิ่งสมคำล่ำลือ เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านนอกเหมือนดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ของเจ้างั้นเหรอ? เจ้ากล้าใช้วาจาสาวหาวข่มขู่ศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการ! นี่เป็นถือข้อหาร้ายแรงและมีโทษสถานหนัก ” ชายหนุ่มในชุดคลุมสีเขียวพูดอย่างเย็นชา
เย่ ซีหวิน เหลือบตามองครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะรู้จักตัวตนของเขา ไม่น่าแปลกใจการโจมตีก่อนหน้านี้ พวกมันตั้งใจและวางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรก ตอนนี้มีสาวกของสถาบันยอดยุทธรวมตัวกันอยู่หลายคน พวกมันมาดักรอเขาอยู่ที่นี่อย่างจงใจ ดูเหมือนการเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธครั้งนี้จะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา เย่ ซีหวิน ฆ่าคนไปจำนวนมากมาย ซึ่งมีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับคนที่ถูกสังหาร เย่ ซีหวิน ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเกี่ยวข้องกับใคร
” ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย อย่ายั่วยุข้าจะดีกว่า! ” เย่ ซีหวิน พูดอย่างเย็นชา เพราะว่าเขาไม่เห็นศิษย์ผู้คุ้มกฏเหล่านี้อยู่ในสายตาตั้งแต่แรก
จอมยุทธรุ่นเยาว์หลายคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของ เย่ ซีหวิน ดวงตาเบิกกว้าง พวกมันพากันตกตะลึงยืนแข็งทื่อ เมื่อได้ยินคำพูดของ เย่ ซีหวิน พวกมันไม่อยากเชื่อว่าเขาจะกล้าพูดคำนี้ออกมา พวกเขาเป็นจอมยุทธอันดับต้นๆ ของอาณาจักร อาณาจักรบางแห่งพวกเขาเหนือกว่าอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ทั้งหมด ครั้งหนึ่งศิษย์ผู้คุ้มกฏเหล่านี้เคยศิษย์ใหม่ และเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธจนได้เป็นศิษย์ผู้คุ้มกฏในวันนี้ หลังจากผ่านอุปสรรคต่างๆ บนถนนของเหล่าจอมยุทธในตำนาน อาจกล่าวได้ว่าอัจฉริยะที่มารวมตัวกันตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก ชื่อเสียงของพวกมันก่อนหน้านี้กลายเป็นเพียงเรื่องตลก หลังจากเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธพวกมันจะกลายเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น
แม้ว่าพวกมันจะเคยเป็นจอมยุทธผู้เก่งกาจ พวกมันทำได้แต่เพียงข่มความรู้สึกตนเองเอาไว้ ไม่ได้มีเพียงผู้เยี่ยมยุทธจำนวนมากในสถาบันยอดยุทธเท่านั้น เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้ายังมีจอมยุทธที่แข็งแกร่งกว่าพวกมันมาก พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาหลายร้อยปี ความสำเร็จของพวกเขาแต่ละคนอยู่ในระดับสูง สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกมันรู้สึกอิจฉา และยอมรับในความจริงที่ว่า สถานที่แห่งเต็มไปด้วยจอมยุทธที่ทรงพลังนับไม่ถ้วน พวกมันในเวลานี้ไม่ต่างจากคนธรรมดา และทำได้เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่อย่างเงียบๆ พวกมันจะกล้าเย่อหยิ่งเหมือน เย่ ซีหวิน ได้อย่างไร เขากล้าเผชิญหน้ากับศิษย์ผู้คุ้มกฏ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจกฏระเบียบ หรือข้อบังคับต่างๆ ในสถาบันยอดยุทธ หอตุลาการ สามารถแต่งตั้งศิษย์ผู้คุ้มกฏภายในสถาบันแห่งนี้ พวกเขามีอำนาจในการลงโทษ และยังเป็นตัวแทนของหอตุลาการ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่รับผิดชอบในการดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในสถาบัน
” เจ้าไม่ควรใช้อารมณ์วู่วาม ข้าขอเตือนเจ้าด้วยความหวังดี ตามข้าไปยังหอตุลาการเพื่อรับโทษแต่โดยดี อย่าลืมว่าที่นี่คือ สถาบันยอดยุทธ! ” ชายหนุ่มตอบอย่างเย็นชา
ในขณะเดียวกันนั้น ศิษย์ผู้คุ้มกฏคนอื่นๆ ได้ปลดปล่อยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมาปกคลุมทั่วทั้งร่าง เย่ ซีหวิน
จอมยุทธคนอื่นๆ ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ ต่างพากันหวาดกลัว ศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการเหล่านี้น่ากลัวเกินไป ความแข็งแกร่งของศิษย์ผู้คุ้มกฏแต่ละคนเหนือกว่าพวกมันทั้งหมด คนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มของพวกเขาอยู่ในระดับ 5 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานขั้นต้น ส่วนใหญ่ในกลุ่มของพวกเขาอยู่ในระดับ 5 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานขั้นกลาง
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มศิษย์หลัก ลมปราณของเขาอยู่ในระดับ 6 ลมปราณระดับตำนาน ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ได้อยู่ในระดับ 6 ลมปราณระดับตำนานทั่วไป ขอบเขตลมปราณระดับ 6 ลมปราณระดับตำนานของเขาอยู่ในขีดสูงสุด (ใกล้บรรลุขอบเขตลมปราณเป็นระดับ 7 )
ไม่มีศิษย์ใหม่คนใดกล้าเผชิญกับสาวกหลักเหล่านี้ แม้ว่าในกลุ่มสาวกหลักของพวกเขาจะมีจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานร่วมอยู่ด้วย แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันนับว่ายังห่างไกลจากสาวกหลักคนอื่นๆ อีกมาก
ทันใดนั้นหัวใจของทุกคนต่างรู้สึกสั่นสะท้าน นี่คือความแข็งแกร่งของเหล่าจอมยุทธในสถาบันยอดยุทธอย่างนั้นเหรอ? แม้พวกเขาจะเป็นเพียงศิษย์ผู้คุ้มกฏธรรมดา แต่พวกเขากลับมีพลังในระดับที่ไม่ธรรมดา
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจอมยุทธลมปราณระดับตำนาน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องทะลวงขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานมาอย่างต่อเนื่อง จนบรรลุขอบเขตลมปราณระดับตำนาน อย่างไรก็ตามมีน้อยคนที่จะสามารถทำได้ เพราะการทะลวงขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานในแต่ละระดับนั้นยากที่จะประสบความสำเร็จได้ในทันที โดยรวมแล้วพวกเขาอาจจะไม่ได้ดีไปกว่าคนเหล่านี้ และจะต้องใช้เวลานานกว่าจะบรรลุขอบเขตลมปราณไปยังระดับตำนาน
” เย่ ซีหวิน? นั่นเขา! เป็นเขาใช่มั้ย? เขาแข็งแกร่งมาก ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ชายหนุ่มคนที่พยายามจะผ่านไปทางประตูหลักก่อนหน้านี้ . . . . ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้! ” สาวกคนหนึ่งพูดขึ้นมา
เย่ ซีหวิน เกือบจะพลาดโอกาสในการลงทะเบียนสมัครศิษย์ใหม่ ในบรรดาจอมยุทธรุ่นเยาว์ทั้งหมดที่เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธ ไม่ต้องพูดถึงเขาเป็นหนึ่งในศิษย์ใหม่ของกลุ่มสุดท้ายที่จะมาลงทะเบียน อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักในหมู่ของเหล่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ หลังจากถูกไล่ล่าโดยกองกำลังเกือบทั้งหมดในอาณาจักรต้าหมิง และอาณาจักรต้าฉิน ยิ่งกว่านั้น มันกลับทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันเขาได้สังหารจอมยุทธมากมายที่ไล่ล่าตัวเขา
หลังจากสังหารจอมยุทธมากมายตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ชื่อเสียง เย่ ซีหวิน เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ทั้งในอาณาจักรต้าหมิง และอาณาจักรต้าฉิน สิ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นกล่าวถึงมากที่สุด นั่นก็คือ การสังหารเทพทั้งสาม ได้แก่ เทพองค์ที่สาม เทพองค์ที่สี่ และเทพองค์ที่ห้า เดิมทีพวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของอาณาจักร แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาทั้งสามจะตายด้วยน้ำมือของ เย่ ซีหวิน
” กล่าวกันว่า เย่ ซีหวิน เป็นผู้ครอบครองคัมภีร์โบราณของเทพเจ้า . . . แต่ข้าไม่แน่ใจว่า มันเป็นเรื่องจริงตามที่ผู้คนกล่าวถึงหรือไม่! “
” เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! เจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงคิดว่าตัวเองมีฝีมือสามารถต่อกรกับเขาได้ เจ้าไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มคนนั้นเหรอ? ถ้าเจ้าอยากตายก็ไปตายคนเดียว อย่าดึงพวกข้าเข้าไปมีเอี่ยว! “
” ศิษย์ผู้คุ้มกฏเหล่านี้ท่าทางพวกเขาไม่ค่อยเป็นมิตรเอาซะเลย สงสัยพวกเขาคงอยากลองว่า เย่ ซีหวิน จะมีชื่อเสียงสมดังที่กล่าวถึงหรือไม่ ข้าว่าบางทีพวกเขาอาจจะได้ชมการแสดงอะไรดีๆ หลังจากนี้ก็ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! “
” ทำไมข้าต้องไปกับพวกเจ้าด้วย? หากเจ้าเป็นศิษย์ผู้คุ้มกฏ ไหนพวกเจ้าลองร่ายกฏให้ข้าฟังทีละข้อสิ! ” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเย้ยหยัน
” หึ! เจ้ากล้าสร้างปัญหาในเมืองยอดยุทธ ราวกับไม่เห็นกฎของสถาบันยอดยุทธอยู่ในสายตา! ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
” ข้าพึ่งมาถึงเป็นครั้งแรก! ข้าไม่รู้เกี่ยวกับกฎที่พวกเจ้าพล่ามออกมาหรอก อีกอย่างที่ที่ข้ายืนอยู่ตอนนี้ . . . ก็ไม่ใช่เมืองยอดยุทธ แต่เมืองยอดยุทธนั้นอยู่อีกด้านหนึ่งของประตูเมือง! ” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเบื่อหน่าย
” ไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม! ” สาวกคนหนึ่ง ตะโกนออกมาด้วยความรำคาญ ก่อนจะพุ่งชาร์ทเข้าหา เย่ ซีหวิน เพื่อจับกุมเขา ใบหน้าของมันปรากฏรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย ดูเหมือนมันตั้งใจจะหักกระดูกของ เย่ ซีหวิน ก่อนจะควบคุมพาตัวไป
” ลำพังฝีมือเจ้าน่ะเหรอ! ” ความเร็วของ เย่ ซีหวิน เหนือกว่าอีกฝ่าย เพียงชั่วพริบตาเขาก็ไปอยู่ด้านหน้าของสาวกคนนั้น พร้อมกับซัดฝ่ามือออกไปโจมตีทันที สาวกคนนั้นไม่คาดว่า เย่ ซีหวิน จะกล้าขัดขืนการจับกุมของศิษย์ผู้คุ้มกฏ ทันใดนั้นเกิดเสียงกระแทกดังขึ้น
” เปรี้ยงง! “
” กร๊อบบ! ” เสียงของกระดูกหัก ใบหน้าของสาวกคนนั้นบูดเบี้ยวจนดูแทบไม่ได้ เศษกระดูกหักแทงทะลุแขน และมีเลือดสาดกระจาย ก่อนจะทรุดเข่าลงกุมแขนเอาไว้เพื่อห้ามเลือด และกรีดร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด
เย่ ซีหวิน ก้าวอย่างใจเย็นไปด้านหน้าของสาวกคนนั้น พร้อมกับง้างเท้าเตรียมตัวเตะ เขาเล็งเป้าไปที่กลางลำตัวของสาวกคนนั้น
” หยุดดดด! ” หนึ่งในศิษย์ผู้คุ้มกฏเห็นสถานการณ์ดังนั้น เขารีบตะโกนออกมาอย่างร้อนรน
แต่ เย่ ซีหวิน ไม่ได้สนใจ เขาเตะเข้าไปที่ร่างของสาวกคนนั้นโดยตรง กระดูกหน้าอกของมันแตกละเอียดทันที ร่างของมันปลิวลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะตกลงมากระแทกกับพื้นดิน
” เจ้าทำเกินไปแล้ว! ” หัวหน้าศิษย์ผู้คุ้มกฏ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ เย่ ซีหวิน กล้าลงมือกับศิษย์ผู้คุ้มกฏอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าเขา เหมือนเป็นการตบหน้าเขากลางจัตุรัสต่อหน้าผู้คน
เย่ ซีหวิน เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ” ทำเกินไปเหรอ? เป็นพวกเจ้ามากกว่าที่กล้าลงมือกับศิษย์ใหม่อย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่เขาจะได้ลงทะเบียน จากนั้นก็กล่าวหาเขาว่าได้กระทำความผิดโดยการละเมิดกฏ “
เย่ ซีหวิน หันกลับมาพูดกับชายหนุ่มที่มีหน้าตาคมคาย ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาว่า ” พวกเราล้วนเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ และมาจากดินแดนที่ห่างไกล ตลอดการเดินทางพวกเราต้องเผชิญกับอุปสรรคยากลำบากมากมาย เราต่างก็เป็นจอมยุทธไม่ใช่สุนัขจรจัด เมื่อกี้เจ้าก็ได้ยินว่า คนเหล่านี้รู้จักข้า และจงใจสร้างปัญหาให้กับข้า “
” พวกเขาวางแผนสังหารข้าต่อหน้าศิษย์ใหม่จำนวนมากมายที่หน้าประตูเมืองยอดยุทธ แม้ตัวข้าจะไม่รู้กฏข้อบังคับของสถาบันยอดยุทธ แต่ข้าก็กล้าพูดได้เลยว่า ไม่มีกฏข้อใดที่อนุญาตให้พวกเขาข่มขู่ หรือใช้กำลังกับผู้มาลงทะเบียนศิษย์ใหม่ คนเหล่านี้เป็นศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการได้อย่างไร? หากพวกเราเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธแล้วใครจะรับรองความปลอดภัยให้กับเรา? พวกเขามีสิทธิ์ทำอะไรได้ตามใจชอบ เพียงเพราะพวกเขาเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธก่อนพวกเราอย่างนั้นหรือ? “
” เราต้องการคำอธิบาย! คนเหล่านี้เป็นศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการได้อย่างไร! “
เหล่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พวกเขาเพียงรอดูการแสดงสนุกๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนสร้างปัญหาให้กับ เย่ ซีหวิน พวกเขาก็ไม่ได้สนใจ บางคนมีความสุขที่ได้เห็นความโชคร้ายของ เย่ ซีหวิน สุดท้ายแล้ว หาก เย่ ซีหวิน ถูกสังหารก็นับว่าเป็นผลดีสำหรับพวกเขา เพราะสามารถลดคู่แข่งให้น้อยลงไปได้ตั้งหนึ่งคน โดยที่พวกเขาไม่ต้องออกแรง หรือลงมือด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากพวกเขาสังเกตการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว หากพวกเขาลงมือสังหาร เย่ ซีหวิน ด้านนอกสถาบันยอดยุทธ ศิษย์ผู้คุ้มกฏก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย หรือแทรกแซงการต่อสู้
ในสถานะศิษย์ใหม่ที่กำลังจะเข้าร่วมสถาบันยอดยุทธ พวกเขานับว่าเป็นเพียงศิษย์ใหม่ที่อ่อนแอ หากศิษย์เก่าลงมือฆ่าพวกเขาอย่างเปิดเผยได้ แล้วใครจะรับประกันความปลอดภัยให้กับพวกเขา?
แม้ว่าพวกเขาจะเคยเป็นจอมยุทธผู้เก่งกาจ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าโต้แย้ง หรือสงสัยเกี่ยวกับปฏิบัติหน้าที่ของศิษย์ผู้คุ้มกฏ!