Martial God Space - ตอนที่ 332
Martial god space ตอนที่ 332 เคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์
ดวงดาวกำเนิดขึ้น และแตกดับในเวลาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง เย่ ซีหวิน ราวกับว่าตัวเขากำลังยืนอยู่ใจกลางอวกาศอันกว้างใหญ่ เมื่ออยู่ในสถานที่อันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ เย่ ซีหวิน รู้สึกว่าตัวเองเล็กลง เหมือนกับอนุภาคของฝุ่นละอองที่ลอยไปตามกระแสลมอวกาศ ในขณะเดียวกันนั้น ดวงดาวที่อยู่รายล้อมรอบตัวของเขาดูเหมือนมันกำลังจะระเบิด
ภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน เหมือนมีบางสิ่งกำลังระเบิดออกมา ทำให้พื้นที่ห้วงมิติภายในจิตใจของเขาทำงานอย่างบ้าคลั่ง อัตราการบริโภคปราณจิตวิญญาณของพื้นที่ลึกลับเพิ่มสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และกำลังเผาผลาญปราณจิตวิญญาณไปอย่างรวดเร็ว
เสียงบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับดังก้องสะท้อนอยู่ภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน ทำให้จิตวิญญาณของเขาเริ่มสั่นไหว อย่างไรก็ตาม เขาพยายามเพ่งสมาธิทั้งหมด เพื่อรักษาสมดุลภายในจิตใจเอาไว้
สำหรับจอมยุทธทั่วไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะรักษาสภาวะหยั่งรู้ เอาไว้ได้เป็นเวลานาน เสียงบทสวดจากคัมภีร์โบราณส่งผลต่อจิตวิญญาณของพวกเขาโดยตรง ในสภาวะที่ตึงเครียดเช่นนี้เป็นเรื่องยากที่จะประคองจิตใจให้มั่นคง
เสียงของบทสวดค่อนข้างคลุมเครือ เขาพยายามตั้งใจฟังมันอยู่หลายครั้ง แต่ก็สามารถเข้าใจได้เพียงเล็กน้อย นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไม ปรมาจารย์ของยอดขุนเขาดาราลี้ลับ และศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาถึงใช้ความพยายามอยู่เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่ พวกเขาทั้งสองคงตรวจสอบสิ่งที่ได้เรียนรู้ และสรุปรายละเอียดของเคล็ดวิชาก่อนว่ามันเป็นคัมภีร์ในแบบฉบับที่ถูกต้อง
แต่ เย่ ซีหวิน นั้นแตกต่างจากพวกเขา เพราะเขาสามารถคงสภาวะหยั่งรู้ เอาไว้ได้เป็นเวลานาน ในขณะเดียวกัน พื้นที่ลึกลับ ของเขาก็สามารถวิเคราะห์ร่องรอยของเคล็ดวิชาที่ซ่อนอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า อัตราการบริโภคปราณจิตวิญญาณของเขาในเวลานี้ อยู่ในปริมาณที่น่าตกตะลึงมาก เขาเผาผลาญ ผลึกหลอมจิตวิญญาณ 10 ก้อน ต่อ 1 วินาที ด้วยอัตราความเร็วในการเผาผลาญพลังงานระดับนี้ แม้ว่าเขาจะมี ผลึกหลอมจิตวิญญาณ อยู่เป็นจำนวนมาก เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดได้ก่อนที่ ผลึกหลอมจิตวิญญาณ ของเขาจะหมดลง
คัมภีร์ดาราลี้ลับ เป็นคัมภีร์ระดับขั้นลึกซึ้ง ด้วยระดับขอบเขตลมปราณของ เย่ ซีหวิน ในตอนนี้ เขาไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้น และดีใจเป็นอย่างมาก ภาพของร่างเงาอันเลือนลางของผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ และเสียงบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับ ปรากฏขึ้นอยู่ภายในจิตใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เย่ ซีหวิน ฟังเสียงบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ทันทีว่า บางทีนี่อาจเป็น คัมภีร์ดาราลี้ลับ ฉบับสมบูรณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับคัมภีร์ฉบับดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ในอดีตที่สร้างคัมภีร์ดาราลี้ลับนี้ขึ้นมา
แม้ว่า เย่ ซีหวิน ไม่รู้ว่าคัมภีร์ฉบับดั้งเดิมเป็นอย่างไร แต่เขามั่นใจว่านอกเหนือจากเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถรักษาสภาวะหยั่งรู้ได้นานเท่าเขา
เย่ ซีหวิน รู้สึกเหมือนกับว่าร่างเงาอันเลือนลางนั้นกำลังท่องบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับเพื่อเขา แต่เนื้อหาของคัมภีร์ดาราลี้ลับนั้นแตกต่างกันอย่างมาก แม้จะเป็นเพียงประโยคเดียวแต่ก็มีหลายส่วนที่ขัดแย้งกันจากคัมภีร์ดาราลี้ลับของ เย่ ซีหวิน ด้วยความช่วยเหลือของพื้นที่ห้วงมิติ ทำให้เขาสามารถวิเคราะห์ข้อมูล และดึงสาระสำคัญของเคล็ดวิชาออกมา
เย่ ซีหวิน ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาฟังบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับไปแล้วกี่ครั้ง หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลจากพื้นที่ห้วงมิติภายในจิตใจของเขาแล้ว ข้าก็แน่ใจแล้ว่า คัมภีร์ดาราลี้ลับ ของเขาเป็นคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็เข้าใจเคล็ดวิชาที่ซ่อนอยู่ใน คัมภีร์ดาราลี้ลับนี้ มันเป็นเทคนิคการใช้พลังงานที่ค่อนข้างพิเศษ และเป็นวิธีที่ทรงพลังมาก โดยอาศัยหลักการโคจรของโลกในระบบสุริยะ และดึงเอาพลังของจักรวาลทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนออกมาใช้ ด้วยพลังของจักรวาลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ฝึกเคล็ดวิชานี้อย่างมหาศาล หากฝึกสำเร็จจนบรรลุระดับขั้นลึกซึ้ง เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือก็สามารถทำลายจักรวาล หรือระเบิดดวงดาวให้แตกสลายกลายเป็นจุล พลังทำลายล้างที่แท้จริงของมันช่างน่าสะพรึงกลัวมาก
แน่นอนว่า จะต้องเป็นเคล็ดวิชาฉบับสมบูรณ์เท่านั้น แต่ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ปรากฏอยู่บน ผาชมดาว ไม่ใช่คัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถฝึกฝนจนมีพลังทำลายล้างได้ถึงระดับนี้
ในขณะที่ เย่ ซีหวิน ฟังบทสวดจากคัมภีร์ดาราลี้ลับภายในจิตใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้อมูลเชิงลึกของคัมภีร์ดาราลี้ลับก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้านนอก พลังของดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนส่องแสงมาที่ร่างกายของ เย่ ซีหวิน ราวกับร่างของเขากำลังจะถูกกลืนกินด้วยลำแสงสีขาวเงิน
เมื่อความเข้าใจเกี่ยวกับ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ของ เย่ ซีหวิน ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ พลังของดวงดาวบนท้องฟ้าเกิดการผันผวนอย่างรุนแรง ลำแสงที่ส่องลงมาสว่างไสวจนร่างของ เย่ ซีหวิน กลืนหายไปในลำแสงเหล่านั้น แต่ทันใดนั้น มีลมพายุขนาดใหญ่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
พลังของดวงดาว ก่อตัวกลายเป็นลมพายุของมวลพลังงาน
ไป่ เจี้ยนสง มองเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เย่ ซีหวิน เขาตกตะลึง และค่อยๆ เดินถอยหลังห่างออกมาจาก เย่ ซีหวิน เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาตั้งสติได้ก็รีบกางอาณาเขตเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่ขึ้น ม่านพลังป้องกันขนาดใหญ่ปิดล้อม เย่ ซีหวิน บนผาชมดาวเอาไว้จากทุกทิศทาง เขาไม่ต้องการเปิดเผยให้คนภายนอกล่วงรู้ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบน ผาชมดาว
ไป่ เจี้ยนสง เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ ใบหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความปีติยินดี เพราะเห็นได้ชัดว่า เย่ ซีหวิน เข้าใจเคล็ดวิชาจากคัมภีร์ดาราลี้ลับ หลังจากเขาโคจรพลังของคัมภีร์ดาราลี้ลับแล้ว พลังของดวงดาวก็สาดส่องลงมาอย่างบ้าคลั่ง
หากจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือ เย่ ซีหวิน สามารถเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ และความเข้าใจของเขาอาจถึงระดับขั้นลึกซึ้ง เย่ ซีหวิน ไม่เพียงกู้คืนมรดกอันยิ่งใหญ่ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ได้เท่านั้น แต่คัมภีร์ดาราลี้ลับของเขาอาจเป็นคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ และอาจเหนือกว่าของท่านผู้ก่อตั้งยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ด้วยความช่วยเหลือของ เย่ ซีหวิน ทำให้ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ มีความหวังขึ้นอีกครั้ง หลังจากพวกเขาตกต่ำมาตลอดหลายพันปี
ไป่ เจี้ยนสง พยายามข่มอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ เขาพยายามเงียบให้มากที่สุด เพราะไม่ต้องการรบกวน เย่ ซีหวิน ในระหว่างที่เขาติดอยู่ในสภาวะหยั่งรู้ อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากจนน้ำตาคลอ
อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ดาราลี้ลับ เป็นแค่ทางผ่านสำหรับ เย่ ซีหวิน ถึงแม้มันจะเป็นมรดกอันยิ่งใหญ่ก็ตาม
เมื่อฝึก คัมภีร์ดาราลี้ลับ จนบรรลุขั้นสุดยอด เขาสามารถหยิบยืมพลังแห่งสวรรค์ เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ที่ขวางหน้า แต่เส้นทางที่รอเขาอยู่ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ มันเต็มไปด้วยขวางหนาม และจอมยุทธผู้ทรงพลังมากมาย แต่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของ เย่ ซีหวิน มันเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้ เขาจะต้องทำลายห่วงโซ่ทั้งหมด เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง และกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
ในความเป็นจริงแล้วเคล็ดวิชาทั้งสองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง คัมภีร์ดาราลี้ลับ เป็นวรยุทธสายจิตวิญญาณ แต่มันไม่สอดคล้องกับแนวทางการฝึกวรยุทธของ เย่ ซีหวิน แม้ว่า คัมภีร์ดาราลี้ลับ จะมีวิธีทำให้ร่างกายแข็งแกร่งโดยอาศัยพลังของดวงดาว แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นวรยุทธสายจิตวิญญาณ
สำหรับคนอื่นๆ อาจมองว่าไม่สำคัญเลย เนื่องจากขอบเขตลมปราณของพวกเขายังไม่ถึงระดับนี้ แต่สำหรับ เย่ ซีหวิน การเลือกแนวทางการฝึกวรยุทธเป็นสิ่งที่จำเป็น
แม้ว่า เยโม่ จะเป็นเพียงวิญญาณ แต่มันเคยเป็นผู้รับใช้ของราชาปีศาจ และติดตามเขาเป็นเวลานาน มันได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย หลายสิ่งเป็นเรื่องที่ลึกลับสำหรับคนอื่นๆ แต่ เยโม่ กลับรู้ทุกอย่าง
เย่ ซีหวิน ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจาก เยโม่ รวมไปถึงข้อมูลลับหลายสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้
ในอดีตอันห่างไกล มีผู้ฝึกวรยุทธที่ทรงพลัง พวกเขาฝึกวรยุทธสายจิตวิญญาณ และอาศัยความช่วยเหลือจากกฏแห่งสวรรค์ ในที่สุดพวกเขาก็กลายเป็นเทพเจ้าของตัวเองบนอาณาจักรสวรรค์ และบรรลุเป้าหมายของความเป็นอมตะ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นได้หายไปตามกาลเวลา หากหลงเหลืออยู่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในโลกแห่งวรยุทธพวกเขาถูกแทนที่ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ ซึ่งแนวทางการฝึกวรยุทธของพวกเขานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้ฝึกวรยุทธเหล่านั้น มองว่าทั้งจักรวาลเป็นแค่วงกลมหนึ่งวง พวกเขาผสานตัวเองเข้ากับกฏแห่งสวรรค์เพื่อให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน และเหล่าบรรดาปรมาจารย์ และจอมยุทธส่วนใหญ่ ต่างมองร่างกายของพวกเขาเป็นเหมือนกับ วงกลมขนาดเล็ก และเป็นจักรวาลขนาดเล็กของตนเอง
นี่เป็นแนวทางการฝึกวรยุทธที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง แม้ว่า คัมภีร์ดาราลี้ลับ ฉบับสมบูรณ์จะทรงพลังมาก แต่ เย่ ซีหวิน กลับฝึกวรยุทธบนแนวทางที่แตกต่างจากพวกเขา
” เย่ ซีหวิน! นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยม ตอนนี้เจ้ายังอยู่ในสภาวะหยั่งรู้ที่หายาก! ” เยโม่ กล่าวต่ออีกว่า ” หากเจ้าไม่ได้วางแผนจะฝึก คัมภีร์ดาราลี้ลับในตอนนี้ ข้าแนะนำว่า เจ้าควรใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ สร้างเทคนิคการโคจรพลังลมปราณในแบบของเจ้าขึ้นมา! “
เย่ ซีหวิน เข้าใจในสิ่ง เยโม่ ต้องการจะสื่อ อันที่จริงแล้ว เย่ ซีหวิน เคยฝึกเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ ในตอนแรก แน่นอนว่าเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ ที่เขาฝึกไม่ใช่คัมภีร์ต้นฉบับ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็มาจากการฝึกเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ มาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน เย่ ซีหวิน มองเห็นจุดเด่นของเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ ไม่ว่าจะฝึกเทคนิคการโคจรพลังลมปราณแบบใด มันสามารถผสาน และหลอมรวมเข้ากับเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ แม้ว่า เย่ ซีหวิน จะเรียนรู้เคล็ดวิชาที่หลากหลาย บางครั้งก็ไม่ใช่เคล็ดวิชาของมนุษย์ แต่เขาก็สามารถโคจรพลังได้อย่างอิสระโดยไม่มีผลกระทบ เช่น ลมปราณไหลย้อนกลับ หรือ ธาตุไฟเข้าแทรก ต้องขอบคุณความพิเศษของเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์
เคล็ดวิชาของ เย่ ซีหวิน ค่อนข้างหลากหลาย หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ เส้นชีพจรของเขาอาจได้รับบาดเจ็บ หรือลมปราณแตกซ่าน สิ่งนี้ทำให้ เย่ ซีหวิน ได้รับโอกาสมากมายในการฝึกฝนเคล็ดวิชาต่างๆ เทคนิคการโคจรพลังลมปราณของเขาทรงพลัง และน่ากลัวมากยิ่งขึ้น โดยที่แนวทางการฝึกวรยุทธของเขาพลังเหล่านั้นไม่หักล้าง หรือข่มกันเอง
อย่างไรก็ตาม ระดับของเคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ นั้นต่ำเกินไป มันเป็นเทคนิคการโคจรพลังลมปราณแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับจอมยุทธระดับลมปราณก่อเกิด แม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ฝึกวรยุทธ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระดับของมันได้ เคล็ดวิชา หยกพิสุทธิ์ เปรียบพลังของมันเหมือนกับ แก้วน้ำ ที่ไม่อาจทำให้กลายเป็นมหาสมุทรได้
สิ่งเหล่านี้คอยฉุดรั้งความก้าวหน้าของเขา ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
ด้านนอกในเวลานี้ แสงของดวงอาทิตย์กำลังสาดส่องจากเส้นขอบฟ้า แสงของดวงดาวบนท้องฟ้าค่อยๆ จางหายไป พลังของดวงดาวที่รวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง และส่องลงบน ผาชมดาว ก็ค่อย ๆ สลายไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับ เย่ ซีหวิน ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่มันกลับตรงกันข้าม มีอีกหนึ่งปรากฏการณ์เกิดขึ้น ในตอนแรกมีเพียงพลังของดวงดาวเท่านั้นที่ถูกดูดซับโดย เย่ ซีหวิน แต่ตอนนี้มีพลังของจักรวาลแผ่กระจายออกมาจากร่างของ เย่ ซีหวิน เขาไม่ดูดซับพลังของดวงดาวเข้าไปร่างอีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม ตอนนี้ร่างของเขากลับเปล่งพลังของดวงดาวออกมาแทน
ร่างกายของ เย่ ซีหวิน ค่อยๆ เปล่งแสงที่ทรงพลังออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับดวงดาวขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงออกมาไม่สิ้นสุดราวกับสามารถส่องไปทั่วทั้งจักรวาล
รัศมีของแสงอันเจิดจ้าของ เย่ ซีหวิน เปล่งแสงจนมาถึงขีดสูงสุด ในเวลานี้ม่านพลังป้องกันที่ ไป่ เจี้ยนสง ปิดล้อมเขาเอาไว้เกิดการสั่นไหว ทันใดนั้น เย่ ซีหวิน ก็ลืมตาขึ้น
” ในที่สุดก็ทำได้! คัมภีร์เนตรส่องวิถี ขั้นแรก! “
ภายในจุดตันเถียนของ เย่ ซีหวิน มีดวงอาทิตย์ขนาดเล็กลอยอยู่ใจกลางของจุดตันเถียนอย่างเงียบๆ มันเปล่งแสงสว่างไปทั่วทั้งจุดตันเถียนของ เย่ ซีหวิน