Martial God Space - ตอนที่ 333
Martial god space ตอนที่ 333 ท้าทายด่านภัยพิบัติสวรรค์
ในตอนแรกจุดตันเถียนของ เย่ ซีหวิน เป็นสีดำมืดสนิท แต่ตอนนี้มีแสงของดวงอาทิตย์ส่องสว่างไปทั่วทั้งจุดตันเถียน แสงสว่างของดวงอาทิตย์ทำให้มองเห็นรอยแตกร้าวของจุดตันเถียนภายในร่างกายของเขา
หากจุดตันเถียนของ เย่ ซีหวิน เปรียบเสมือนจักรวาลขนาดเล็ก ดวงอาทิตย์ดวงนี้ก็น่าจะเป็นศูนย์กลางของจักรวาล และมันยังเป็นจุดกำเนิดของจักรวาลอีกด้วย
จุดตันเถียนในร่างกายของมนุษย์เป็นเหมือนกับจักรวาล ด้วยเคล็ดวิชาที่ เย่ ซีหวิน สร้างขึ้น คัมภีร์เนตรส่องวิถี จะช่วยให้แนวทางการฝึกวรยุทธของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในอดีตอันห่างไกล ผู้ฝึกวรยุทธที่ทรงพลังเชื่อว่าร่างกายของมนุษย์เป็นเหมือนกับจักรวาลขนาดเล็ก แต่ไม่มีใครเคยเห็นจริงๆ ว่าร่างกายของมนุษย์มีจักรวาลขนาดเล็กอยู่ภายใน
แต่ เย่ ซีหวิน กล้าจะทำสิ่งนี้ หลังจากเข้าใจเคล็ดวิชา คัมภีร์ดาราลี้ลับ ส่งผลให้ เย่ ซีหวิน สามารถเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลทั้งหมด มันเป็นแนวคิดที่บ้ามากๆ โดยการจำลองจักรวาลขึ้นภายในร่างกาย และหลอมรวมร่างกายเข้ากับจักรวาลขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน กล้าทำอะไรที่บ้าระห่ำแบบนี้ ก็เพราะเขาสร้างเคล็ดวิชา คัมภีร์เนตรส่องวิถี ขึ้นมาได้สำเร็จ จากนั้น เย่ ซีหวิน ก็ตัดสินใจระเบิดจุดตันเถียนของตัวเอง การระเบิดของจุดตันเถียนเหมือนกับการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาล รอยแตกร้าวมากมายในจุดตันเถียนค่อยๆ ประสานตัว ความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ช่วยหลอมจุดตันเถียนที่เสียหายให้ผสานเป็นเนื้อเดียวกัน
จักรวาลขนาดเล็กในจุดตันเถียนเป็นจุดเริ่มต้นของ เย่ ซีหวิน ต่อมา คัมภีร์เนตรส่องวิถี ของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จักรวาลขนาดเล็กในร่างกายของเขาค่อยๆ สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ จาก จักรวาลเนบิวลา [ฝุ่นจักรวาล จากบิ๊กแบง] ค่อยๆ พัฒนากลายเป็นจักรวาลที่แท้จริง และ คัมภีร์เนตรส่องวิถี ของ เย่ ซีหวิน อาจกลายเป็นคัมภีร์โบราณอันน่าทึ่งภายหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม คัมภีร์เนตรส่องวิถี ยังอยู่ในขั้นแรก ความพิเศษอื่นๆ ของมันยังไม่เป็นที่แน่ชัด เย่ ซีหวิน นำเอาสิ่งต่างๆ ที่เขาได้เรียนรู้จาก คัมภีร์ดาราลี้ลับ นำมาสร้างจักรวาลขนาดเล็กในแบบของเขาเอง
คัมภีร์ดาราลี้ลับ มีเคล็ดลับหลายสิ่งที่มีค่า เย่ ซีหวิน ใช้มันเป็นข้อมูลอ้างอิง และพลิกแผลงรูปแบบภายหลังได้ พลังของดวงดาวเหล่านี้สามารถนำมาปรับแต่งร่างกายของเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น มันยังช่วยเสริมพลังให้กับ กายาแห่งราชันย์สีทอง ของเขาอีกด้วย
แม้ว่า เย่ ซีหวิน ไม่ต้องการฝึกวรยุทธแนวทางสายนี้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้เรียนรู้หลายสิ่งจากมัน
อาจกล่าวได้ว่า คราวนี้ เย่ ซีหวิน ได้รับผลประโยชน์อย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ เย่ ซีหวิน สามารถเดินตามเส้นทางที่เขาตั้งใจเอาไว้ แม้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดแนวทางของตนเอง แต่ เย่ ซีหวิน ก็จะฝ่าฟันอุปสรรคขวางหนามต่างๆ และเอาชนะมันให้จงได้
เย่ ซีหวิน ลืมตาขึ้น ก็พบ ไป่ เจี้ยนสง ยืนมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า ” ศิษย์น้องหก! เจ้าสามารถเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ใช่หรือไม่? “
เย่ ซีหวิน พยักหน้า โดยไม่ปิดบัง ความลับที่แท้จริงของเขาไม่ใช่ คัมภีร์ดาราลี้ลับ แต่เป็น คัมภีร์เนตรส่องวิถี ถึงแม้มันจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ขนาดนักปราชญ์โบราณยังสามารถสร้างคัมภีร์โบราณที่ทำให้โลกต้องสะเทือน และตอนนี้เขาก็ทำได้เช่นกัน เย่ ซีหวิน มั่นใจว่าเคล็ดวิชาของเขาจะสามารถเลื่อนระดับได้อย่างต่อเนื่อง
” เยี่ยมมาก! ตอนนี้มีพวกเราสามคนที่สามารถเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ความฝันที่จะกู้คืน คัมภีร์ดาราลี้ลับฉบับสมบูรณ์ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม! ” ไป่ เจี้ยนสง หลังจากได้ฟังข่าวดีจาก เย่ ซีหวิน อารมณ์ความรู้สึกหลากหลายโหมเข้ามาอย่างฉับพลัน ตอนนี้เขาแทบจะสะกดอารมณ์ของตนเองไว้ไม่ได้ นานมาแล้วที่ผู้สืบทอดแต่ละรุ่นรวบรวมความเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ คนละเล็กคนละน้อย เพื่อปรับปรุงและแก้ไขจนนำไปสู่ความรุ่งเรืองของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ
คัมภีร์ดาราลี้ลับ เป็นรากฐานอันยิ่งใหญ่ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ การสูญหายของคัมภีร์ทำให้อันดับของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ ร่วงลงมาอยู่อันดับสุดท้ายของมรดก 100 อันดับแรก ที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้มันเป็นที่รู้จักว่าเป็นเพียงมรดกเล็กๆ ที่มีสาวกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
” ข้าได้ส่งข้อความไปถึง ท่านปรมาจารย์ และศิษย์พี่ใหญ่แล้ว! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าว
ไป่ เจี้ยนสง เล่ารายละเอียดให้ เย่ ซีหวิน ฟังว่า ท่านอาจารย์ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ และศิษย์พี่ใหญ่ ได้ออกไปยังสนามรบระหว่างดินแดน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านบรรพบุรุษของพวกเขาถูกสังหารในสงคราม พวกเขาหวังว่าจะพบเบาะแสของ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ที่ถูกทิ้งไว้โดยปรมาจารย์รุ่นก่อนๆ ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ เมื่อครั้งอดีต แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย
” ด้วยความเข้าใจ คัมภีร์ดาราลี้ลับ ของศิษย์น้องหก พวกเราจะสามารถฟื้นฟู คัมภีร์ดาราลี้ลับ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้เร็วขึ้นมาก! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไป่ เจี้ยนสง ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อ เย่ ซีหวิน เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็รู้สึกชื่นชมในใจทันที เพราะรอยยิ้มของเขาออกมาจากใจไม่ใช่การเสแสร้ง
” ท่านปรมาจารย์ และศิษย์พี่ใหญ่ น่าจะกลับมาถึง หลังจากเสร็จสิ้น ภารกิจทดสอบศิษย์ใหม่ของเจ้า! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าว
” ภารกิจทดสอบศิษย์ใหม่? ” เย่ ซีหวิน กล่าวขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าสงสัย
” ใช่! เจ้าฟังไม่ผิด! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ต่ออีกว่า ” ภารกิจทดสอบศิษย์ใหม่ เป็นการแข่งขันที่สำคัญมากๆ ของยอดขุนเขา เพราะมันเป็นตัวกำหนดทรัพยากรที่พวกเราจะได้รับ ยิ่งเจ้าทำคะแนนออกมาได้ดีเท่าไหร่ พวกเราก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรมากขึ้น! “
” เนื่องจากเวลาเหลือน้อยกว่าหนึ่งเดือนก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ข้าจะให้เจ้ามีเวลาเตรียมความพร้อม นอกจากนี้เจ้าต้องระวังคนของหอตุลาการด้วย! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวต่ออีกว่า ” พวกเขามักใช้แต่อารมณ์ และจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ล้างแค้น แม้เพียงเรื่องขุ่นเคืองเล็กน้อยพวกเขาไม่ยอมปล่อยเจ้าให้หลุดมือไปแน่นอน! “
” อืม! ” เย่ ซีหวิน พยักหน้า โดยไม่จำเป็นต้องพูด หากสาวกของหอตุลาการใช้โอกาสนี้เล่นงานเขา เขาจะไม่ทนนิ่งเฉยยอมเป็นฝ่ายถูกรังแก
” ภารกิจทดสอบศิษย์ใหม่นี้อยู่ในดินแดนนอกเขตปกครอง มันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากมาย หลายครั้งพวกมันพยายามบุกรุกเข้ามาในโลกแห่งวรยุทธของเรา ในการทดสอบเจ้าจะต้องกำจัดสัตว์ประหลาดที่พยายามจะบุกเข้ามา! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าวเสริมอีกว่า ” แน่นอน! สัตว์ประหลาดเหล่านี้แข็งแกร่งมาก ยากที่เจ้าจะรับมือพวกมันได้! “
” ในครั้งนี้ ศิษย์ใหม่ทั้งหมดหลายล้านคนจะเข้าร่วมภารกิจ โดยปกติศิษย์ใหม่จะมีขอบเขตลมปราณเพียงระดับ 3 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน หรือสี่เท่านั้น ” ไป่ เจี้ยนสง หยุดครู่หนึ่ง และกล่าวต่ออีกว่า ” แต่ข้าได้ยินมาว่า ศิษย์ใหม่ในปีนี้ บางคนมีร่างกายพิเศษ และอยู่ในระดับ 8 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน คนเหล่านี้น่ากลัวจริงๆ สถาบันยอดยุทธให้ความสำคัญกับสาวกเหล่านั้นเป็นพิเศษ “
เย่ ซีหวิน ประหลาดใจทันที เมื่อได้ยินเรื่องนี้ จอมยุทธลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 8 และ 9 นั่นหมายความว่า พวกเขาเข้าใกล้ขอบเขตลมปราณระดับตำนานแล้ว จอมยุทธเหล่านี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัว ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพียงพอที่จะสร้างวุ่นวายให้กับดินแดนทางใต้
เย่ ซีหวิน ไม่คาดว่าจะพบจอมยุทธผู้ทรงพลังระดับนี้ในหมู่ศิษย์ใหม่ ตอนนี้ขอบเขตลมปราณของเขาอยู่ในระดับ 5 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานเท่านั้น ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับจอมยุทธระดับ 6 ลมปราณครึ่งก้าวตำนาน
ศิษย์ใหม่ปีนี้แท้จริงแล้วคือ พยัคหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น โดยเฉพาะผู้มีร่างกายพิเศษ แต่การปรากฏตัวของสาวกที่แข็งแกร่งเหล่านี้ จริงๆ แล้วไม่ใช่ปัญหา
” พรสวรรค์ของเจ้านับว่าไม่เลว ข้ากล้าพูดได้เลยว่าอนาคตของเจ้าจะไร้ขีดจำกัด เจ้าจะไม่ถูกปฏิบัติเหมือนหินก้าวข้ามสระน้ำของเหล่าสาวกเหล่านั้น! ” ไป่ เจี้ยนสง กล่าว
ตอนนี้ท่านปรมาจารย์ของ ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ และศิษย์พี่ใหญ่ อยู่ในดินแดนนอกเขตปกครอง และศิษย์พี่รอง ก็ยังอยู่ในระหว่างปิดด่านฝึกตน ดังนั้นมีเพียง ไป่ เจี้ยนสง เท่านั้นที่รับผิดชอบ และคอยดูแล เย่ ซีหวิน เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
ทันใดนั้น ดวงตาของ เย่ ซีหวิน ส่องเป็นประกาย สูงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เย่ ซีหวิน มองเห็นก้อนเมฆสีดำทมิฬ กำลังก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าที่ห่างไกล
เย่ ซีหวิน กำลังจะเผชิญหน้ากับด่านภัยพิบัติสวรรค์!
” เอ๊ะ! เจ้ากำลังจะเผชิญหน้ากับด่านภัยพิบัติสวรรค์! ” ไป่ เจี้ยนสง สังเกตเห็นก้อนเมฆสีดำกำลังก่อตัวขึ้นจากระยะไกล เขาก็รู้ได้ทันทีว่าด่านภัยพิบัติสวรรค์นั้นต้องเป็นของ เย่ ซีหวิน
ไม่มีสัญญาณบ่งบอกของ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ทันใดนั้น ด่านภัยพิบัติสวรรค์ ก็ปรากฏขึ้นหลังจากสภาวะหยั่งรู้สิ้นสุดลง เย่ ซีหวิน ได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากสภาวะหยั่งรู้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เขากำลังเผชิญกับด่านภัยพิบัติสวรรค์ในตอนนี้
ไป่ เจี้ยนสง ถอนหายใจยาวด้วยอารมณ์ซับซ้อน สภาวะหยั่งรู้นั้นมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ แต่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ทั้งชีวิตของพวกเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสภาวะหยั่งรู้
เย่ ซีหวิน ลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมจะบินออกไปจากสถาบันยอดยุทธ เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับด่านภัยพิบัติสวรรค์ที่นี่ อย่างไรก็ตาม ไป่ เจี้ยนสง ก้าวมาขวางเขาเอาไว้ และพูดว่า ” เจ้าสามารถเผชิญหน้ากับด่านภัยพิบัติสวรรค์ที่นี่ได้โดยไม่ต้องกังวล ข้าจะคอยคุ้มกันให้เจ้าเอง “
เย่ ซีหวิน ลืมไปแล้วว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในสำนักยี่หยวนอีกต่อไป เขาแค่กลัวว่าสาวกทั้งนิกายจะตื่นตระหนก แต่เมื่ออยู่ในสถาบันยอดยุทธ เขาไม่มีอะไรต้องกังวล ศิษย์ใหม่นับล้านคน โดยไม่ต้องพูดถึงบรรดาศิษย์เก่ารวมไปถึงผู้อาวุโสของสถาบัน อาจกล่าวได้ว่า มีคนเผชิญหน้ากับด่านภัยพิบัติสวรรค์เกือบจะตลอดทุกช่วงเวลา
เย่ ซีหวิน แค่ต้องการหาสถานที่ปลอดภัย เพราะเขากลัวว่าจะถูกใครบางคนรบกวน แม้ว่า ไป่ เจี้ยนสง จะม่านพลังป้องกันที่นี่เอาไว้ มันอาจดึงดูดความสนใจของผู้คน ทำให้พวกเขาได้รับอันตราย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดอีกต่อไปแล้ว เพราะด่านภัยพิบัติสวรรค์กำลังเริ่มขึ้นแล้ว
ด่านภัยพิบัติสวรรค์ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องราวกับเกิดพายุฝนขนาดใหญ่ อาวุธสายฟ้าทั้ง 18 ชนิด อัดแน่นไปด้วยพลังของสายฟ้าอันเข้มข้นพุ่งตรงเข้าไปหา เย่ ซีหวิน เหมือนกันสายฝน เสียงน่ากลัวของอาวุธสายฟ้ากระแทกเข้ากับร่างของ เย่ ซีหวิน
” เปรี้ยงง! “
” เปรี้ยงง! “
” เปรี้ยงง! “
ไป่ เจี้ยนสง ยืนถอยห่างออกมาจาก เย่ ซีหวิน ก่อนจะเค้นเสียงคำรามออกมาพร้อมกับวางม่านพลังป้องขนาดใหญ่ล้อมยอดขุนเขาดาราลี้ลับอีกครั้ง เพื่อปิดกั้นไม่ให้ยอดขุนเขาอื่นๆ สามารถใช้ ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ของ เย่ ซีหวิน ทำให้เขาถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง มันแตกต่างไม่เหมือนกับด่านภัยพิบัติสวรรค์ทั่วไป พลังทำลายล้างของมันน่าสะพรึงกลัวมาก จอมยุทธทั่วไปไม่สามารถรับมือกับมันได้