Martial God Space - ตอนที่ 344
Martial god space ตอนที่ 344 โลกใต้พิภพ
ทั้งโลกกำลังสั่นสะเทือน เหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้ทำให้ผู้คนทั้งเมืองพากันตื่นตระหนก ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รู้ว่าต้นเหตุมาจากฝั่งอนุสาวรีย์หินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก พื้นที่บริเวณรอบๆ ของอนุสาวรีย์หินทรุด และพังทลายลง เผยให้เห็นหลุมลึกขนาดใหญ่กินรัศมีเป็นวงกว้างนับ 10 ไมล์
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะนี่คืออาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา
ทำไมมีผู้คนมากมายกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ หรือเป็นเพราะ คัมภีร์กระบี่?
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วว่า เย่ ซีหวิน เป็นผู้ครอบครองคัมภีร์กระบี่ ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธ และอ้างว่ามันหายเข้าไปในอนุสาวรีย์หิน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา หลายคนเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมกับ เย่ ซีหวิน ไม่ว่าเขาสิ่งที่เขาพูดมันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ชอบ เย่ ซีหวิน พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อรับมือเขาโดยเฉพาะ
เย่ ซีหวิน รู้ดีว่าข่าวลือเกี่ยวกับคัมภีร์กระบี่จะนำปัญหามาให้เขา แต่เขาเลือกที่ไม่หลบหนีเพราะสุดท้ายเขาก็ถูกตามล่าอยู่ดี แต่ถ้าเขาจากไปจะยิ่งทำให้เมืองนี้เกิดการจลาจล จอมยุทธหลายพันคนเกือบทั้งหมดมาที่นี่ก็เพื่อคัมภีร์กระบี่
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของหลุมขนาดใหญ่บริเวณอนุสาวรีย์หิน สิ่งนี้ได้ขจัดข้อสงสัยของเหล่าจอมยุทธที่มีต่อ เย่ ซีหวิน ในความเป็นจริงแล้ว เย่ ซีหวิน จะต้องลงไปสำรวจในหลุมพร้อมกับผู้คนเหล่านั้นทั้งหมด แต่เพราะ หลัว ยี่หาน และคนของเขามาถึงก็ได้ปิดกั้นเส้นทางเขาเอาไว้
ผลลัพธ์การต่อสู้ระหว่าง เย่ ซีหวิน และ หลัว ยี่หาน ยังไม่ทันได้ตัดสินชี้ขาดแพ้ชนะ
ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดนี้ได้ดึงดูดความสนใจของ หลัว ยี่หาน, เย่ ซีหวิน รีบฉวยโอกาสนี้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างลับๆ ขอบเขตลมปราณของ หลัว ยี่หาน เหนือกว่าเขามากเกินไป แม้แต่จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 9 ทั่วไป ก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีของ หลัว ยี่หาน ได้ บางทีด้วยการโจมตีเพียงสองเพลงกระบี่ก็สามารถสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
และแม้ว่าจะเป็นจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 9 ทั่วไป ก็ไม่สามารถบังคับให้ หลัว ยี่หาน มาถึงจุดนี้ได้ เย่ ซีหวิน ต้องอาศัยทั้งเคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทอง และพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ ทำให้เขาสามารถต่อสู้ และยืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้
จอมยุทธมากมายภายในเมืองต่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้เห็นฉากการต่อสู้ระหว่าง เย่ ซีหวิน และ หลัว ยี่หาน อย่างใกล้ชิด พวกเขาจับตาดูการต่อสู้ครั้งนี้ตั้งแต่แรก ก็เพราะต้องการอยากรู้ว่า คัมภีร์กระบี่ อยู่ในมือของ เย่ ซีหวิน จริงๆ หรือไม่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ต้องรอคำตอบ
หลังจากมีปรากฏการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในสมรภูมิรบต่างโลก ทุกคนต่างแน่ใจแล้วว่า คัมภีร์กระบี่ อาจไม่อยู่ในมือของ เย่ ซีหวิน นอกจากนี้ไม่ว่าผลลัพท์จะเป็นอย่างไร สุดท้ายทุกอย่างก็จะตกเป็นของ หลัว ยี่หาน
การปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันของหลุมขนาดใหญ่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก จากข่าวลือ คัมภีร์กระบี่ และม้ามังกร หายเข้าไปในบริเวณอนุสาวรีย์หินนี้ และเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจซ่อนตัวอยู่ในหลุมยักษ์
ผู้คนภายในเมืองต่างพากันโห่ร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้รู้ความจริงว่าเหตุการณ์อันแปลกประหลาดแท้จริงแล้วมาจากอนุสาวรีย์หิน จากนั้นพวกเขาก็พร้อมใจบินออกไปนอกเมือง กลายเป็นลำแสงจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์หิน
ทันใดนั้น มีลำแสงคู่หนึ่งบินตัดข้ามท้องฟ้ามาด้วยความเร็วสูง บุคคลลึกลับทั้งสองได้บินตรงเข้าไปในหลุมยักษ์ทันที
จอมยุทธบางคนมีสายตาอันแหลมคม เขาจดจำได้ในทันทีว่าบุคคลลึกลับหนึ่งในนั้นเป็นใคร
” นั่นคือ ปรมาจารย์กระบี่ เขาเป็นผู้นำของพรรค สุสานกระบี่ ข้าไม่คาดว่าจะได้เห็นเขาปรากฏตัวที่นี่! “
” แม้แต่จอมยุทธระดับชั้นผู้นำก็มาถึงที่นี่แล้ว แม้ว่าสถานที่แห่งนี้พึ่งจะถูกค้นพบ ข้าไม่คาดว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนคนของ สุสานกระบี่ จะรู้เรื่องนี้แล้ว! “
ทันทีที่ หลัว ยี่หาน เห็นร่างนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาจะไม่รู้จัก ปรมาจารย์กระบี่ ได้อย่างไร? ในสายตาของเขาคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งนี้เขาได้นำสาวกจากหอตุลาการมาด้วยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เหล่าบรรดาสาวกของพรรคสุสานกระบี่ ก็เดินทางถึงด้วยเช่นกัน เพลงกระบี่ของพวกเขาได้รับการยกย่องว่ามีความโดดเด่นมาก ดังนั้นสาวกของพรรคสุสานกระบี่ก็แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่ากัน ยิ่งกว่านั้น การมาถึงของผู้นำพรรคสุสานกระบี่มันทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันที
หลัว ยี่หาน มองไปทางหลุมยักษ์แล้วพบว่า ในเวลานี้เริ่มมีจอมยุทธมากมายกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเขาหันกลับมามองที่ เย่ ซีหวิน ดูเหมือนเขากำลังฟื้นตัวคืนกลับเกือบจะสมบูรณ์แล้ว ท้ายที่สุด หลัว ยี่หาน ก็ต้องตัดสินใจ เขาหันหลังให้กับการต่อสู้ และบินตรงไปยังหลุมยักษ์โดยไม่หันกลับมามอง เย่ ซีหวิน
ในความคิดของเขา หากใช้เวลาอีกไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะสามารถฆ่า เย่ ซีหวิน ได้ แต่ถ้าในหลุมนั้นมีสมบัติแล้วตกอยู่ในมือของ ปรมาจารย์กระบี่ ทั้งหมด นับเป็นการสูญเสียที่ไม่อาจชดเชยได้ มันไม่คุ้มค่าเลยสำหรับเขาถ้าเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไป
เขาไม่กลัวการเติบโตในอนาคตของ เย่ ซีหวิน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครสามารถก้าวขึ้นถึงระดับเดียวกับเขาในเวลานี้ เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเองเป็นอย่างมาก อนาคตของเขาจะเป็นผู้นำของศิษย์ใหม่ เย่ ซีหวิน ไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะทำให้เขารู้สึกกลัว
แน่นอนว่า เย่ ซีหวิน นั้นสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่า เย่ ซีหวิน จะเติบโตเร็วได้แค่ไหน ขอบเขตลมปราณของเขาก็ยังเหนือกว่า เย่ ซีหวิน เขาไม่เชื่อว่า เย่ ซีหวิน จะสามารถเติบโตจนแซงหน้าเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้น หลัว ยี่หาน ได้เห็นแล้วว่า เย่ ซีหวิน มีทักษะการรักษาที่น่าสนใจ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ และเขาจะไม่ได้รับอะไรเลยจากหลุมยักษ์
เมื่อเห็นว่า หลัว ยี่หาน จากไปแล้ว เย่ ซีหวิน ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขารีบนั่งโคจรพลังลมปราณและเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องฟ้า
” เย่ ซีหวิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง! ” เจียน วู่เฉิน และคนอื่นๆ บินขึ้นมาถามด้วยความกังวล
” ข้ายังไหว! ” เย่ ซีหวิน ส่ายหัวของเขา ในความเป็นจริง การต่อสู้ครั้งนี้ผลลัพธ์ของมันต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ เขาตั้งใจจะหลอกล่อให้ หลัว ยี่หาน ใช้พลังลมปราณจนหมดแล้วค่อยสังหารเขา แต่มันกลับตรงกันข้าม เย่ ซีหวิน ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หลัว ยี่หาน ไม่มีท่าทีอ่อนกำลังลงเลย
ในตอนแรก เย่ ซีหวิน คิดจะทุ่มเทพลังทั้งหมดโจมตีไปที่ หลัว ยี่หาน หากไม่ได้ผลเขาจะใช้ปีกมารเพื่อหลบหนี แต่มันไม่ง่ายที่จะหลบหนีหาก หลัว ยี่หาน อยู่ในสภาวะสูงสุด แต่ถ้าเขาบาดเจ็บมันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะหลบหนี
หลังจากทะลวงขอบเขตลมปราณอีกครั้ง เย่ ซีหวิน มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ แม้ว่า หลัว ยี่หาน ไม่มาหาเขาด้วยตัวเอง เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าได้ทุกเมื่อ
” พวกเจ้าทุกคนไปสำรวจหลุมยักษ์กันก่อน เขารักษาอาการบาดเจ็บเสร็จแล้ว จะตามเข้าไปทีหลัง! ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น พวกเราจะเข้าไปก่อน! ” พวกเขาเองก็เป็นหนึ่งในสาวกของ สุสานกระบี่ และได้รับคำสั่งให้ออกตามหา คัมภีร์กระบี่ อีกด้วย
เมื่อเห็นว่า เย่ ซีหวิน ไม่เป็นอะไรมาก พวกเขาทั้งสองและลูกหมาป่า ก็บินตรงไปที่หลุมยักษ์นั่นทันที
เย่ ซีหวิน ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะฟื้นฟูร่างกายกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม แม้อาการบาดเจ็บของเขาจะไม่สาหัสมาก แต่ก่อนจะเข้าไปในหลุมยักษ์ ควรจะเตรียมความพร้อมของร่างกายให้สมบูรณ์มากที่สุด
ในเวลานี้ ไม่มีผู้คนหลงเหลืออยู่ในเมืองอีกแล้ว พวกเขาทั้งหมดรีบบินตรงไปยังหลุมยักษ์ เย่ ซีหวิน ใช้เวลาไม่นานก็บินมาถึงอนุสาวรีย์หิน
อนุสาวรีย์หินที่เขาเห็นในตอนแรก ลักษณะภายนอกของมันดูเหมือนกับก้อนหินธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ในเวลานี้มันกลับเปล่งแสงประหลาดออกมา ราวกับเวทมนต์ และแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามจากยุคโบราณ
” อนุสาวรีย์หินก้อนนี้ มีบางอย่างแปลกๆ! ” เยโม่ มันปรากฏตัวขึ้นบนไหล่ของ เย่ ซีหวิน พร้อมกับพูด ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
” แต่ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของดวงดาวจำนวนมากมายอยู่ภายใน! ” ประสาทสัมผัสของ เย่ ซีหวิน คมชัดมากขึ้น หลังจากสร้างจักรวาลภายในจุดตันเถียน พลังของดวงดาวคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด แม้ว่าพลังงานอื่นๆ สามารถใช้สร้างจักรวาลได้ แต่ประสิทธิภาพของพวกมันน้อยกว่าพลังของดวงดาว ตราบใดที่เขารวบรวมพลังของดวงดาวได้มากพอ เย่ ซีหวิน จะสามารถพัฒนาตัวเองจนแซงหน้า และเอาชนะบรรดาเหล่าจอมยุทธที่มีพรสวรรค์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
” ข้าคิดว่าสมรภูมิรบต่างโลกแห่งนี้ อาจจะเป็นชิ้นส่วนของดวงดาว ไม่เช่นนั้นมันคงไม่มีพลังของดวงดาวที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้! ” เยโม่ กล่าว
” ชิ้นส่วนของดวงดาว? เจ้าหมายถึงดวงดาวขนาดใหญ่ใช่มั้ย! ” เย่ ซีหวิน ค่อนข้างตกใจกับคำพูดของ เยโม่
” ใช่! บางทีดวงดาวนี้อาจเคยเป็นใช้สนามรบมาก่อน สมรภูมิรบต่างโลกแห่งนี้คงเป็นเศษชิ้นส่วนที่แยกออกมา! ” เยโม่ กล่าว
เย่ ซีหวิน สูดลมหายใจยาวเฮือกใหญ่ จินตนาการถึงดวงดาวที่ถูกใช้เป็นสนามรบ พลังที่สามารถทำลายดวงดาวได้ทั้งดวง สิ่งนี้ไม่อาจทำได้โดยจอมยุทธขอบเขตลมปราณนักปราชญ์
จอมยุทธที่น่าสะพรึงกลัวระดับไหนกันถึงจะสามารถระเบิดดวงดาวได้ทั้งดวง?
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังของดวงดาวที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สำหรับ เย่ ซีหวิน แล้ว มันเป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปในหลุมยักษ์
เย่ ซีหวิน ตระหนักดีว่า หลังจากเข้าไปในหลุมยักษ์นี้เขาจะพบโลกใต้พิภพขนาดใหญ่ที่ไม่อาจจินตนาการถึง มันเป็นโลกอีกหนึ่งดินแดนที่กว้างใหญ่ นอกจากจะไม่มีท้องฟ้าแล้ว สัตว์ประหลาดจำนวนมากที่เกิดจากพลังของดวงดาว พวกมันคงแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าพวกที่อาศัยอยู่บนพื้นผิวโลก
” ข้าสัมผัสถึงออร่าของสัตว์ประหลาด มันอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก! ” เยโม่ กล่าว
เย่ ซีหวิน เพิ่งเข้ามาในโลกใต้พิภพก็เจอสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังทันที เปรียบเทียบกับพวกที่อาศัยอยู่บนพื้นผิวโลกแล้วพวกมันแข็งแกร่งมาก แม้จะเป็นเพียงสัตว์ประหลาดขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 7 แม้แต่จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 7 หรือ 8 ร่วมมือกันก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้
” กร๊าซซซ! ” สัตว์ประหลาดคำรามเสียงดัง ในขณะที่มันพุ่งตรงเข้ามาหา เย่ ซีหวิน อย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อว่าทุกการเคลื่อนไหวของมันจะผสานไปด้วยพลังของกฏแห่งโลก
เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่อาศัยอยู่บนพื้นผิวโลก พวกมันดุร้ายและแข็งแกร่งกว่ามาก!
เย่ ซีหวิน แสยะยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะส่งปราณฝ่ามือขนาดใหญ่คว้าจับตัวมันเอาไว้ ต่อให้จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 7 หลายคนร่วมมือกันยังไม่สามารถรับมือกับมันได้ มีเพียงจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 8 ขั้นสูงสุด ที่จะพอต่อสู้กับมันได้อย่างสูสี แม้ว่า เย่ ซีหวิน จะยังไม่ได้อยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานระดับ 8 อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาก็เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับขนมหวานชิ้นหนึ่งสำหรับเขา
สัตว์ประหลาดตัวนี้หลังจากถูก เย่ ซีหวิน จับได้มันก็กรีดร้อง และพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการจับกุม แต่ก็ไม่สามารถหลุดรอดจากเงื้อมมือของ เย่ ซีหวิน ไปได้
” โผละ! ” เย่ ซีหวิน บดขยี้สัตว์ประหลาดจนร่างของมันระเบิดออกมา เลือดและเนื้อของมันถูกดูดกลืนโดยกระจกเทียนหยวนในทันที หลงเหลือเพียงแกนผลึกปีศาจ และถูกดูดซับโดย เย่ ซีหวิน
ในที่สุดกระจกเทียนหยวนที่ซ่อนอยู่ภายในร่างของ เย่ ซีหวิน ก็ดูดซับพลังหมดสิ้น ทันใดนั้นมันก็เปล่งแสงเป็นประกายส่องสว่างปกคลุมไปครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า
” ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่ ซีหวิน ข้าสามารถกู้คืนพลังของกระจกเทียนหยวนได้สำเร็จแล้ว พลังของมันในตอนนี้ถือว่าเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับนักปราชญ์ ในที่สุดบ่อโลหิตมารก็สามารถเปิดใช้งานได้อีกครั้ง! “