Martial God Space - ตอนที่ 348
Martial god space ตอนที่ 348 การมาถึงของภัยพิบัติสวรรค์
เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว โลกใต้พิภพมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา จํานวนคนที่เข้ามาในครั้งแรกลดลงเสียชีวิตไปอย่างน้อยหนึ่งในสาม พวกเขาไม่ได้ถูกฆ่าตายโดยสัตว์อสูร แต่พวกเขาถูกฆ่าตายโดยศิษย์สาวกของวิหารซวนหยวน
แน่นอนว่า มีเพียง เย่ ซีหวิน เท่านั้นที่รู้ว่าคนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นคนของวิหารซวนหยวน คนอื่นๆ คิดว่าพวกเขาเป็นคนของสถาบันยอดยุทธเช่นเดียวกัน เพราะที่นี้คือเขตปกครองของสถาบันยอดยุทธ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีกองกําลังจากที่อื่นๆ แทรกซึมแฝงตัวเข้ามาได้
หากสลับตัว เย่ ซีหวิน เป็นคนอื่นแทนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากไม่เห็นพวกเขาเดินออกมาจากประตูมิติด้วยตาตนเอง คงไม่มีใครเชื่อว่าจะมีคนนอกแอบแฝงตัวเข้ามาที่นี่โดยการเปิดใช้ประตูมิติอย่างลับๆ มันเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของทุกคน
พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ มีบางคนย้อนกลับไปที่ปากหลุมเพื่อกลับออกไป แต่พวกเขากลับพบว่าปากหลุมทางออกจากโลกใต้พิภพหายไป มันถูกปิดตายโดยสมบูรณ์ สิ่งนี้ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับเหล่าจอมยุทธเป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
มีเพียง เย่ ซีหวิน เท่านั้นที่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของศิษย์สาวกของวิหารซวนหยวน แต่ความคิดของพวกเขาช่างโอหังนัก พวกเขากล้าทําสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร หากสถาบันยอดยุทธรู้ว่าเบื้องหลังทั้งหมดมาจากวิหารซวนหยวน พวกเขาจะต้องแบกรับความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดของสถาบันยอดยุทธ อย่างไรก็ตามสถาบันยอดยุทธเป็นถึงผู้นําของภูมิภาคทางใต้ และมีกองกําลังที่แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าภูมิภาคอื่นๆ มันก็เพียงพอที่จะสร้างปัญหาให้กับวิหารซวนหยวน
ถึงแม้สถานการณ์ตอนนี้จะวุ่นวายเพียงใดก็ตาม เย่ ซีหวิน มีความคิดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น คือการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่กําลังจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะสาวกของวิหารซวนหยวนเป็นศัตรูคนสําคัญที่เขาจะต้องรับมือ เขารู้ว่าวิหารชวนหยวนกําลังวางแผนที่จะกําจัดบรรดาศิษย์สาวกของสถาบันยอดยุทธทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ธรรมดาเนื่องจากพวกเขามีจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 ซึ่งเหนือกว่าศิษย์ของสถาบันยอดยุทธ มีเพียง หลัว ยี่หาน และปรมาจารย์กระปีเท่านั้นที่ สามารถต่อสู้กับจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 นอกจากนี้ยังมี ศิษย์พี่ฝาน ที่อยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานขั้นลึกซึ้ง
สถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถพึ่งพาผู้อื่นได้ มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้
ตลอดเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมาในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็สามารถสะสมพลังแห่งดวงดาวได้มากพอที่จะควบแน่นดาวโลกขึ้นในจักรวาลภายในจุดตันเถียน เขาต้องการให้มันออกมาในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเพิ่มขึ้นนี้มีสถานะที่แตกต่างภายในจุดตันเถียนของเขา
ทันใดนั้น มีเสียงดังกระหมตั้งมาจากที่ห่างไกล สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายกับภูเขาหินขนาดใหญ่กําลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา
สัตว์ประหลาดเหล่านี้เรียกว่ายักษ์ภูเขา สัตว์ประหลาดเผ่าพันธุ์นี้มักจะเกิดตามสถานที่ที่อุดมไปด้วยพลังแห่งดวงดาว ยักษ์ภูเขาเหล่านี้มีพลังมากกว่ายักษ์ภูเขาที่อยู่ภายนอกร่างกายของพวกมันมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก
จํานวนของพวกมันมีมากกว่าหนึ่งพันตน แต่ละก้าวที่พวกมันเคลื่อนที่ทําให้เกิดเสียงดังกึกก้อง มันเหมือนกับกองทัพภูเขาขนาดใหญ่ การเคลื่อนที่ของกองยักษ์ภูเขาจํานวนนับพันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
ยักษ์ภูเขาเหล่านี้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม พวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ไม่ถึงกลับข้ามาก ด้วยขนาดตัวอันใหญ่โตของพวกมันทําให้รู้สึกเหมือนกับกองทัพที่ยิ่งใหญ่
ยักษ์ภูเขา มีสายตาแหลมคมหลังจากสังเกตเห็น เย่ ซีหวิน มันก็ส่งเสียงร้องคํารามทันที พวกมันไม่เป็นมิตรกับสัตว์อสูรทุกชนิด โดยเฉพาะแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตพวกมันจะยิ่งดุร้ายมากกว่าปกติ การเคลื่อนไหวของพวกมันอาจจะดูเงอะงะ แต่ขาของพวกมันสามารถยืดออกและก้าวได้ไกล มองดูเหมือนภูเขาขนาดใหญ่กําลังพุ่งเข้าหา เย่ ซีหวิน
ยักษ์ภูเขาเหล่านี้ แต่ละตัวถือแท่งหินขนาดใหญ่ ทําให้พวกมันดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นดูราวกับว่ามันพร้อมบดขยี้ท้องฟ้าให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ทุกเมื่อ
“ วิดดดด! “ อากาศถูกฉีกขาดอย่างรุนแรงด้วยแรงเหวียงจากแท่งหินขนาดใหญ่ แนวหน้าของยักษ์ภูเขามาถึงแล้ว ในกลุ่มของพวกมันมียักษ์ภูเขาตัวขนาดมหึมาเป็นหัวหน้าทีม พวกมันกวัดแกว่งแท่งหินขนาดใหญ่ไปมาราวกับมีชีวิต พวกมันปิดล้อม เย่ ซีหวิน เพื่อไม่ให้หลบหนี
“ เย่ สีหวิน ฆ่ายักษ์ภูเขาเหล่านี้แล้วเจ้าจะสามารถควบแน่นดาวเคราะห์ได้อีกครั้ง ยักษ์ภูเขาเหล่านี้แตกต่างจากสัตว์อสูรทั่วไป แม้ร่างกายของพวกมันประกอบด้วยหิน แต่หินเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งดวงดาว หากเจ้าสามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด เจ้าจะสะสมพลังแห่งดวงดาวได้มากพอที่จะควบแน่นโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ! ” เยโม่ กล่าวบอกเขาอย่างรวดเร็ว
โดยทั่วไปแล้วสัตว์อสูรจะดูดซับพลังแห่งดวงดาวเก็บสะสมเอาไว้ในร่าง แต่ยักษ์ภูเขาเหล่านี้แตกต่างออกไป ร่างกายของพวกมันก็คือหินแต่กลับอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งดวงดาว
สัตว์อสูรเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาในการรวบรวมพลังแห่งดวงดาวให้กับ เย่ ซีหวิน ถึงแม้เขาจะมีพลังแห่งดวงดาวในปริมาณที่มากพอ ที่ควบแน่นดาวเคราะห์ดวงถัดไป แต่เขาจะไม่ปล่อยโอกาสที่ดีแบบนี้ให้สูญเปล่า
เย่ ซีหวิน เรียกใช้ตราประทับถล่มภูผาออกมาทันที ตราประทับถล่มภูผากลับมีพลังแห่งดวงดาวอัดแน่นอยู่ภายใน สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นโดยที่ เย่ ซีหวิน ไม่ทันได้คาดหวังเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ดูเหมือนการดูดซับพลังแห่งดวงดาวจํานวนมากมาย จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบางสิ่งโดยบังเอิญ
“ ตึ้งงงง! “ ภูเขาขนาดใหญ่หล่นลงมาจากท้องฟ้าราวกับมังกรหินยักษ์
มันพุ่งลงไปหายักษ์ภูเขาที่ยืนรวมตัวกันอยู่หลายตัว
ยักษ์ภูเขาเหล่านี้กวัดแกว่งแท่งหินในมือของพวกมันเพื่อเตรียมต้านรับตราประทับถล่มภูผาที่กําลังร่วงลงมา แท่งหินขนาดใหญ่ก่อให้เกิดเงาขนาดใหญ่ในท้องฟ้า เมื่อมันเข้าพุ่งปะทะกับตราประทับถล่มภูผาโดยตรง
“ บรึ่มมม! “
ดูเหมือนมังกรหินยักษ์สองก้อนขนกันอย่างดุเดือดในท้องฟ้า แต่ละฝ่ายต่างพยายามบดขยี้อีกฝ่ายให้แหลกสลาย
เย่ ซีหวิน กู่ร้องคําราม ปราณฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น เขาคว้ามือเข้าไปจับยักษ์ภูเขาเหล่านั้น เมื่อออกแรงบีบร่างของยักษ์ภูเขาเหล่านั้นก็เกิดรอยแตกร้าวไปทั่วร่าง ทันใดนั้นร่างของพวกมันก็ไม่ต้านรับได้อีกต่อไป ร่างของพวกมันก็แตกออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับตราประทับถล่มภูผาหล่นลงมากระแทกซ้ำอีกครั้ง
“ ตึ้งง! ”
“ ตึ้งงงง! ”
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ร่างของยักษ์ภูเขาหลายสิบตนก็ถูกบดขยี้ พวกมันไม่มีแม้โอกาสที่จะหลบหนี
ยักษ์ภูเขาแต่ละตนนั้นมีพลังมหาศาล พวกมันไม่ใช้ทักษะการต่อสู้ใดๆ ด้วยความแข็งแกร่ง และร่างกายอันใหญ่โตของพวกมันก็สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูได้นับสิบ โดยไม่ต้องพึ่งเคลีดวิชาการต่อสู้
พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายแข็งแกร่ง และสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยการทุบของแท่งหิน ก็เพียงพอจะบดขยี้ศัตรูให้แหลกละเอียดด้วยพลังกําลังอันมหาศาลของพวกมัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเคล็ดวิชาการต่อสู้ใดๆ จึงไม่จําเป็นเลยสําหรับพวกมัน
เย่ ซีหวิน บุกฝ่าเข้าไปท่ามกลางกองทัพนับพันของยักษ์ภูเขา และลงมือสังหารพวกมันตัวแล้วตัวเล่า
ยักษ์ภูเขาเหล่านี้มีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาลูกตามชื่อของพวกมัน อย่างไรก็ตามหลังจากพวกมันถูกตัดหัวโดย เย่ ซีหวิน เมื่อร่างของมันล้มลงก็ดูเหมือนกับภูเขาลูกเล็กๆ ซากศพของพวกมัน เกือบจะกลมกลืนกับภูเขาที่อยู่บริเวณรอบๆ
เย่ ซีหวิน ไล่สังหารยักษ์ภูเขาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นไม่นานยักษ์ภูเขาหลาย ร้อยตนก็ล้มตายลงภายใต้คมดาบของ เย่ ซีหวิน แต่การสังหารหมู่ครั้งนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับราชายักษ์แห่งขุนเขา
เห็นได้ชัดว่า ราชายักษ์แห่งขุนเขา มีขนาดที่ใหญ่โตกว่ายักษ์ภูเขาตัวอื่นๆ อย่างชัดเจน แม้ว่ามันจะถูกรายล้อมไปด้วยยักษ์ภูเขานับร้อยก็ตาม
แท่งหินขนาดใหญ่ในมือของมันหวดเข้าหาร่างของ เย่ ซีหวิน อย่างรวดเร็ว
เย่ ซีหวิน ตวัดดาบยาวในมือด้านการโจมตีของแท่งหินขนาดใหญ่ ในสายตายของ เย่ ซีหวิน แท่งหินในมือของราชายักษ์แห่งขุนเขานั้นไม่ต่างอะไรกับภูเขาลูกหนึ่ง
“ ปังงง! ” แม้อาวุธทั้งจะขนาดแตกต่างกันอย่างมาก แต่ก่อให้เกิดแรงสะท้อนของพลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกมา พลังป้องกันของราชายักษ์แห่งขุนเขานับว่าแข็งแกร่งมาก แต่ไม่อาจเทียบได้กับ เย่ ซีหวิน ร่างกายของเขาทรงพลังมากกว่า
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาสามารถฉีกร่างของสัตว์อสูรได้ด้วยมือเปล่า เย่ ซีหวิน ฝึกฝนเคล็ด วิชากายาทรราชย์ทองคําจนถึงขั้นสุดยอด มีเพียงจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับตํานานเท่านั้นที่พอจะหยุดเขาได้ อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเขาโดยอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของร่างกาย
บางคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายพิเศษ เช่น ไททัน พวกเขาอาจจะต่อสู้กับ เย่ ซีหวิน ได้อย่างสูสีอย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน มั่นใจว่ากายาทรราชย์ทองคําของเขานั้นเหนือกว่า แต่เขายังไม่มีโอกาสได้ทดสอบกับจอมยุทธผู้มีร่างกายพิเศษติดตัวมาตั้งแต่กําเนิด
“ ลงนรกไปซะ! ไอ้พวกมนุษย์! “ราชายักษ์แห่งขุนเขา ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว มันคาดไม่ถึงว่ามนุษย์จะสามารถรับมือการโจมตีของมันได้ อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ยังไม่ได้ออกแรงเต็มที่
เย่ ซีหวิน หัวเราะด้วยความเย้ยหยัน ครั้งนี้เขาตั้งใจหลบการโจมตีของแท่งหิน หลังจากเบียงตัวหลบเขาก็บินขึ้นไปเหนือศีรษะของราชายักษ์แห่งขุนเขาทันที
“ ครื้นน! ” เจตจํานงแห่งดาบทะยานขึ้นบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว มันก่อตัวขึ้นเป็นดาบยาวนับร้อยเมตร ก่อนจะพุ่งเสียบทะลุร่างของราชายักษ์แห่งขุนเขา
เจตจํานงแห่งดาบครั้งนี้ทรงพลังกว่าครั้งที่แล้วมา ร่างของราชายักษ์แห่งขุนเขาถึงกับแตกสลายในทันที หลงเหลือเพียงแกนผลึกปีศาจขนาดใหญ่วางอยู่เหนือกองเศษหินเท่ากับเป็นเขาลูก เล็กๆ เย่ ซีหวิน รีบเก็บมันเอาไว้ช่องเก็บทันที
เมื่อราชายักษ์แห่งขุนเขาถูกสังหารโดย เย่ ซีหวิน ยักษ์ภูเขาตัวอื่นๆ ก็ไม่คู่มือของเขาอีกต่อไป ใช้เวลาไม่นานเขาก็สามารถกวาดล้างพวกมันได้ทั้งหมด
หลังจากดูดซับพลังแห่งดวงดาวมากมาย ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็สัมผัสได้ว่า ขอบเขตลมปราณขั้นกลางของเขาได้สะสมพลังลมปราณจนถึงขีดสูงสุดแล้ว จักรวาลภายในจุดตันเถียนของเขามีแสงสว่างจุดหนึ่งเริ่มเปล่งแสงออกมา ทันใดนั้นมันก็ดูดเอาพลังแห่งดวงดาวนับไม่ถ้วนเข้าหาตัวมันเอง
[ระดับของขอบเขตลมปราณ]
ขอบเขตลมปราณ ขั้นต้น ระดับ 1 – 5
ขอบเขตลมปราณ ขั้นกลาง (ของเก่าเคยใช้คําว่า ปฐมบท)
ขอบเขตลมปราณ ขั้นปลาย ระดับ 6 – 9
ขอบเขตลมปราณ ขั้นลึกซึ้ง
บนท้องฟ้าในเวลานี้ มีก้อนเมฆสีดําก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ มันขยายตัวออกไปทั่วทุกทิศทางโดยมี เย่ ซีหวิน เป็นจุดศูนย์กลาง
เย่ ซีหวิน เงยหน้าขึ้นมองก้อนเมฆสีดําในท้องฟ้า มันเป็นเรื่องปกติที่ด่านภัยพิบัติสวรรค์จะปรากฏขึ้น หลังจากจอมยุทธเหล่านั้นมาถึงจุดสิ้นสุดของขอบเขตลมปราณ
เย่ ซีหวิน กําหมัดทั้งสองข้างเอาไว้แน่น พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ เข้ามาเลย! ”