Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 82
“เธอหายไปไหนแล้ว?”
หลังจากซู่เจินลงถึงพื้น เขาก็พบว่าบริ๊งค์ได้หายตัวไปแล้ว
เมื่อซู่เจินมองไปรอบ ๆ เขาก็พบว่าที่นี่คือลานจอดรถที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ซึ่งมันเต็มไปด้วยเศษซากรถจำนวนมากมายหลายคัน ทำให้ซู่เจินรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าบริ๊งค์จะมาที่นี่ทำไม ? เพราะโดยปกติแล้วเวลานี้บริ๊งค์น่าจะอยู่ที่ฐานไม่ใช่หรอ ?
และถ้าหากว่าเธอไม่ต้องการให้ใครรู้จริง ๆ ทำไมเธอถึงไม่เปิดประตูพอร์ทัลมาที่นี่เลยล่ะ ?
ซู่เจินที่กำลังมึนงงอยู่ในตอนนี้ และกำลังจะโทรไปหาบริ๊งค์เพื่อถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังเขา และเมื่อเขาหันไปมองเขาก็พบเข้ากับบริ๊งค์ที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
“เธอมาทำอะไรที่นี่ ? มาซื้อของงั้นหรอ ?” เนื่องจากความสามารถของบริ๊งค์นั้นมันสามารถนำมาใช้ในการส่งของได้ ทำให้เธอมีหน้าที่ในการซื้อของต่าง ๆ ไปโดยปริยาย ดังนั้นซู่เจินจึงเลือกถามคำถามนี้ขึ้นมา
“ใช่” บริ๊งค์พยักหน้าเบา ๆ และเดินเข้ามาใกล้ซู่เจินเรื่อย ๆ
ซู่เจินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาบริ๊งค์เจอเขาเธอจะเรียกเขาว่าบอสทันทีที่เธอเห็นเขา แต่ตอนนี้การตอบสนองของเธอมันกับนิ่งเฉยเกินไป ทำให้เขาคิดว่ามันไม่น่าจะใช่เธออย่างแน่นอน ยกเว้นว่า …
ซู่เจินขมวดคิ้วและตะโกนขึ้นมาว่า “เธอไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม ?”
“ฉัน ? แน่นอนว่าฉันสบายดี ?” บริ๊งค์พูดขึ้นมาด้วยความมึนงงเล็กน้อย
“ไม่! เธอมีอะไรบางอย่างแปลกไป!“
ปฏิกิริยาของเธอเมื่อกี้ทำให้ซู่เจินเริ่มมั่นใจในการคาดเดาของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ค่อย ๆ จ้องมองไปที่เธอด้วยความระมัดระวังและพูดขึ้นมาด้วยความเยาะเย้ยว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันคือภาพลวงตาหรือการควบคุมจิตใจ แต่ผมก็มั่นใจได้ว่าเธอไม่ใช่บริ๊งค์อย่างแน่นอน และไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าให้รีบออกมาซะ! ไม่งั้นผมจะเป็นคนไปหาคุณด้วยเองและบอกให้คุณรู้ว่าผลของการที่คุณกล้ามายั่วยุผมมันเป็นยังไง!“
“ฉันอยากรู้ว่าคุณรู้มันได้ยังไง?”
ทันใดนั้นการแสดงออกของบริ๊งค์ก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหันกลายเป็นคนขี้เล่นทันทีพร้อมกับน้ำเสียงของเธอที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“การควบคุมจิตใจ?”
นี่มันไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างแน่นอน แต่เป็นบริ๊งค์ที่ถูกควบคุมอยู่แทน
ซึ่งมันก็มีหลายคนมากที่มีความสามารถในการควบคุมจิตใจแบบนี้ และซู่เจินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ควบคุมบริ๊งค์อยู่ในตอนนี้
“มันง่ายมากแม้ว่าคุณจะควบคุมบริ๊งค์อยู่ แต่คุณก็ไม่ใช่เธออย่างแน่นอน เพราะว่าผมค่อนข้างจะรู้ลักษณะนิสัยของเธอดี“ ซู่เจินมองไปเธออย่างเย็นชาและพูดขึ้นมาช้า ๆ
“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะสนิทกันมากเลยนะ ไม่งั้นคุณคงไม่รู้ได้เร็วแบบนี้หลังจากที่ฉันพูดไปไม่กี่คำ“ บริ๊งค์ยิ้มขึ้นมาเบา ๆ และพูดว่า “คุณอยากรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ? แน่จริงก็ตามมาสิ!“
เมื่อบริ๊งค์พูดจบเธอก็เปิดประตูพอร์ทัลทันที พร้อมกับเหลือบมองไปที่ซู่เจินด้วยสายตายั่วยวนเล็กน้อย
“คิดว่าผมไม่กล้างั้นหรอ?”
ซู่เจินหัวเราะเยาะเย้ยเธอขึ้นมาเบา ๆ และกระโดดเข้าไปในประตูพอร์ทัลทันที ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีกับดักอยู่ก็ตาม
หลังจากที่เขากระโดดเข้าไปในพอร์ทัล ทันใดนั้นฉากเบื้องหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เขาปรากฏตัวขึ้นมาในห้องที่มีการจัดวางกันอย่างสวยงาม โดยที่บนโซฟามีผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งกำลังนั่งถือแก้วไวน์และสิ่งยิ้มให้กับซู่เจินเบา ๆ ส่วนด้านหลังของเธอก็มีผู้ชายผิวสีแดงอีกคนหนึ่งยืนอยู่
และยังไม่หมดแค่นี้เพราะว่ายังมีอีกคนหนึ่งที่กำลังยืนพิงประตูอยู่ด้านหลังของซู่เจิน
ผมที่ยาวเรียวสลวยพร้อมกับดวงตาสีดำทมิฬ และมีดสั้นทั้งสองเล่มที่อยู่ในมือของเขาที่มาพร้อมกับหน้าตาค่อนข้างเย็นชา!
“ยินดีต้อนรับสู่ เฮลไฟร์“
หญิงสาวผมบลอนด์พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับยกแก้วขึ้นชูให้ซู่เจินเล็กน้อย
เฮลไฟร์คลับ?
ซู่เจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะว่าเฮลไฟร์คลับเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงและทรงพลังมากในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์ โดยที่ X-Men นั้นพยายามที่จะหาวิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับมนุษย์ และบราเธอร์ฮูดออฟมิวแทนต์นั้นพยายามที่จะยึดครองโลก เพื่อให้โลกรู้ว่ามนุษย์กลายพันธ์นั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน ส่วนเฮลไฟร์คลับนั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่รวบรวมยอดฝีมือของมนุษย์กลายพันธ์ไว้มากมาย
เมื่อมองไปยังผู้หญิงผมบลอนด์ที่สวมใส่ชุดสีขาวที่อยู่ตรงหน้าของเขา ซู่เจินก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอเป็นใคร
ซู่เจินกวาดสายตาไปรอบ ๆ และพูดว่า “ราชินีสีขาว , ปีศาจแดง , และนั่นก็คือ … เจอร์นี่?”
“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จัก เฮลไฟร์คลับ ของพวกเราเป็นอย่างดี ดังนั้นฉันขอเขาเรื่องเลยก็แล้วกัน … จุดประสงค์ที่พวกเราเชิญคุณมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อเชิญคุณให้เข้าร่วมกับเฮลไฟร์คลับของพวกเรา!” ราชินีสีขาวพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยและพูดว่า “คุณควบคุมลูกน้องของผมเพื่อมาเชิญผม ? มันช่างเป็นคำเชิญที่จริงใจจริง ๆ!“
“แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณ ดังนั้นคุณซู่เจิน … คุณก็ต้องเข้าใจฉันด้วยว่าฉันไม่อยากส่งคนของฉันไปตายเหมือนกับคนของแม็กนีโต้ ” ราชินีสีขาวสะบัดผมของเธออย่างเกียจคร้านพร้อมกับชี้ไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเธอแล้วพูดว่า “คุณนั่งก่อนสิ ฉันไม่ทำอะไรกับคุณหรอก!“
“จริงเหรอ ? ไม่ใช่ว่าคุณกำลังคิดที่จะใช้พลังจิตของคุณควบคุมผมอยู่งั้นหรอ ? ” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและค่อย ๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟาอย่างช้า ๆ
ทันใดนั้นซู่เจินก็รู้สึกว่ามีพลังจิตพุ่งเข้ามาในสมองของเขาอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ถูกป้องกันเอาไว้ด้วยพลังของแหวนอีเทอร์อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่าราชินีสีขาวกำลังพยายามควบคุมเขาอยู่!
“ฉันลองแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผล!“ ราชินีสีขาวพูดยอมรับขึ้นมาตรง ๆ ด้วยความสงบ ราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อย ๆเท่านั้น!
“เอาล่ะ! ไหนคุณลองบอกจุดประสงค์ของคุณมาหน่อยสิว่าทำไมคุณถึงอยากเชิญผมมาที่นี่มากขนาดนี้!”
“เพื่อเชิญคุณเข้าร่วมกับเฮลไฟร์คลับ!”
“เพราะ ? ไม่ใช่ว่าพวกคุณจะรับแต่พวกมนุษย์กลายพันธ์ไม่ใช่หรอ ? แล้วทำไมคุณถึงได้มาเชิญผม และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ … ทำไมผมจะต้องเข้าร่วมกับพวกคุณ“ ซู่เจินพูดขึ้นมาเบา ๆ
“จริง ๆ แล้วฉันเริ่มให้ความสำคัญกับคุณตั้งแต่ที่คุณกลืนกินความสามารถของ ‘ปีศาจเพลิงจอห์นนี่’ เข้าไป ซึ่งในตอนแรกฉันก็คิดว่าคุณเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แต่หลังจากที่คุณได้กลืนกินความสามารถของ ‘คนพลังไฟ’ หนึ่งในแฟนแทสติกโฟร์เข้าไป ฉันก็รู้ได้ทันทีเลยว่าคุณไม่ใช่มนุษย์กลายพันธ์อย่างแน่นอน และความสามารถของคุณก็แข็งแกร่งและน่ากลัวมาก น่ากลัวจนทุกคนอยากจะฆ่าคุณทิ้งให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันความปลอดภัยของพวกเขา ซึ่งในอีกแง่หนึ่งคุณก็เป็นคนที่มั่นคงมาก เพราะว่าความแข็งแกร่งของคุณส่วนหนึ่งนั้นมันมาจากการฝึกฝนของคุณ และเมื่อไหร่ที่คนอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของคุณพวกเขาจะกำจัดคุณทิ้งอย่างแน่นอน เช่น … แม็กนีโต้!”
คำพูดของราชินีสีขาวทำให้ริมฝีปากของซู่เจินโค้งขึ้นเล็กน้อย แน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะว่าคนที่มีความสามารถในการกลืนกินความสามารถของคนอื่นได้นั้น ย่อมเป็นที่หวาดกลัวสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาอาจจะตอบตกลงกับราชินีสีขาวทันทีเลยก็ได้ แต่มันไม่ใช่กับซู่เจิน เพราะว่าเขาไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย
“แล้วไงล่ะ ? ด้วยความแข็งแกร่งของผมในตอนนี้ มันก็ไม่ง่ายอยู่แล้วที่จะจัดการผมได้!“ ซู่เจินพูดขึ้นมาเบา ๆ
“ฉันรู้! และฉันก็เชื่อว่าคุณจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะเหตุนี้ฉันจึงอยากชวนคุณให้เข้าร่วมกับเฮลไฟร์คลับ! แถมฉันยังสามารถช่วยคุณลดปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาและช่วยหาในสิ่งที่คุณต้องการได้“ ราชินีสีขาวพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “ฉันสามารถช่วยคุณค้นหาคนที่มีความสามารถที่คุณต้องการได้ ขอแค่คุณบอกมาว่าคุณต้องการความสามารถแบบไหน … ฉันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นมาในเวลาอันสั้น!”
“มันก็ฟังดูดีนะ แต่บนโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ อย่างแน่นอน ดังนั้นคุณบอกผมมาดีกว่าว่า … ผมจะต้องจ่ายอะไรบ้างถ้าเกิดว่าผมให้คุณช่วย?” ซู่เจินถามขึ้นมาเบา ๆ
ราชินีสีขาวส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า “ไม่! คุณไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายอะไรเลย เพราะตราบใดที่คุณสามารถรับประกันความปลอดภัยและการพัฒนาของเฮลไฟร์คลับได้หลังจากที่คุณแข็งแกร่งขึ้นแล้ว แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วล่ะ … สำหรับคุณเรื่องแค่นี้มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยไม่ใช่หรอ ? “