MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 285
Chapter 285: ฝายเป็นกลาง
หลังจากที่หลบหนีออกมาจากโบสถ์ หวังหยู่ก็รีบออกไปจากพื้นที่บริเวณนั้น
เมื่อรู้ว่าโบสถ์แห่งแสงนั้นชั่วร้ายมาก พวกเขาอาจจะมีชื่อเสียงที่เลวร้ายยิ่งกว่าหวังหยู่อีก มันไม่ปลอดภัยสําหรับหวังหยู่ที่จะเดินเล่นรอบๆตัวโบสถ์
หวังหยู่คิดกับตัวเองในตอนที่เขากําลังวิ่งหนี ตั้งแต่ที่พวกเขาไล่เขาออกมาเพราะค่าชื่อเสียงของเขา เขาจะต้องทําเควสบางเควสให้สําเร็จเพื่อเพิ่มค่าชื่อเสียง ถ้าเขาต้องการที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามจากที่เขารู้มาจากระบบ เขาก็จะได้ค่าชื่อเสียงกลับมาอย่างน้อย 100 หน่วย สําหรับฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ที่รับเขาเข้าไป
หลังจากที่สังหารนางฟ้าและผู้บังคับบัญชาของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ไป ค่าชื่อเสียงของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ของหวังหยู่ก็ลดลงต่ำกว่าสี่ร้อยหน่วย มันเป็นเพราะว่าเขาปฏิเสธการเข้าร่วมกับฝ่ายมืดและเควสเพิ่มเติมที่เขาทําสําเร็จในเมืองรัตติกาลทําให้เขามีค่าชื่อเสียงประมาณ 200 หน่วย
ในตอนนี้ที่เขาทําเรื่องวุ่นวายในโบสถ์ ค่าชื่อเสียงของเขาก็ลดลงต่ำกว่า 300 เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยกับฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ เขาจะต้องเพิ่มค่าชื่อเสียงให้มากกว่าสองร้อยหน่วย
ค่าชื่อเสียงของฝ่ายเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มมัน เควสแต่ละเควสนั้นให้ค่าชื่อเสียงเพียงแค่ไม่กี่หน่วย มันจะต้องใช้เวลานานมากสําหรับหวังหยู่ในการทํามันให้สําเร็จ หวังหยู่จําเป็นที่จะต้องหาNPCที่มีสติปัญญาระดับสูงที่จะเพิ่มค่าชื่อเสียงของเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเมืองรัตติกาล มีNPCที่มีสติปัญญาสูงเพียงแค่สามคนที่หวังหยู่รู้ เจ้าเมือง ช่างตีเหล็กซิมบ้าและฤๅษี(ผู้ให้คําแนะนําอาชีพของหวังหยู่ ผู้แปลอังกฤษเปลี่ยนชื่อครับ)
เมื่อเป็นเมืองตัวแทนของเมืองเป็นกลาง เจ้าเมืองนั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่เป็นแบบนั้น มันก็จะเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลที่เมืองรัตติกาลจะเป็นกลาง เมื่อเจ้าเมืองนั้นนับถือพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
ช่างตีเหล็กซิมบ้าเป็นคนแคระซกมกที่ไม่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเรื่องที่พูดกันว่าคนแคระนั้นเชื่อในตัวของเทพเจ้าแห่งสงคราม ดังนั้นคนแคระนั้นก็ถูกพิจารณาว่าเป็นพวกไม่ศรัทธาต่อฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ ซิมบ้านั้นก็จะถูกรังแก เมื่อเขายังเด็ก
หวังหยู่เชื่อว่าซิมบ้าจะให้เควสที่ทําให้ค่าชื่อเสียงของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ต่ำลงแทน เมื่อคิดตามระบบแล้ว มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจ ถ้าซิมบ้าบอกผู้เล่นให้ไปทําลายรูปปั้นของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มค่าชื่อเสียงของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ให้กับพวกเขา
หลังจากที่ครุ่นคิดอย่างเนิ่นนาน หวังหยู่ก็เหลือเพียงแค่ฤๅษีเป็นตัวเลือกสุดท้าย
ถึงแม้ว่าฤๅษีไม่ดูเหมือนจะเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้า แต่ความเชื่อของเขาก็ไม่ได้ถูกเปิดเผยด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ฤๅษีมีโอกาสสูงที่สุดท่ามกลาง NPCสามคนที่จะให้เควสเพิ่มค่าชื่อเสียงกับฝ่ายศักดิ์สิทธิ์
หวังหยู่ก็เดินไปยังตําแหน่งของฤๅษีอย่างไม่รู้ตัว ในขณะที่เขาจมอยู่ในความคิด
หลังจากที่ปลุกฤษในซอยเก่าๆ ฤๅษีก็ถามออกมาอีกครั้งหนึ่ง “นายอีกแล้วงั้นเหรอ?”
“ผมเอง” หวังหยู่ยิ้มและเขาก็หยิบขวดเหล้าออกมาหลายขวดและพูดต่อ “นี่ของคุณครับ!”
ฤๅษีก็ขมวดคิ้วและพูด “ี่ม! นายจะต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ”
“ชิ ผมจะเอาพวกมันกลับไป ถ้าคุณไม่ต้องการพวกมัน!” หวังหยู่ทําตัวเหมือนกับว่าเขาจะเก็บเหล้าไป
ฤๅษีก็รีบหยุดหวังหยู่และพูดออกมา “ฉันชอบชายหนุ่มแบบนาย พูดออกมาซะ!”
“ผมต้องการเควส!” หวังหยู่พูดออกมาตรงๆ
ฤๅษีก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกและตอบกลับ “โอ้เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันสงสัยว่าอารามพลบค่ำจะเป็นนักวางแผนที่อยู่เบื้องหลังของฝายมืดที่คลืบคลานลงมา นายสามารถที่จะไปตรวจสอบมันพร้อมกับเพื่อนบางคนได้”
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับเควสเนื้อเรื่อง “อารามจากอดีตกาล” “อารามพลบค่ำ” เควสดันเจี้ยนสําเร็จ : 6/1 คําแนะนําของระบบ : ได้โปรดรวมทีมเพื่อทําเควสที่ยากลําบากนี้ให้สําเร็จ”
{คําอธิบายเควส : เมื่อเมืองรัตติกาลเพิ่งเริ่มที่จะสร้าง มันก็มีลัทธิที่เชื่อในคําว่ารัตติกาลด้วยเหตุผลบางอย่าง คนที่เชื่อถือโบสถ์รัตติกาลนั้นก็ออกไปจากเมืองและสร้างอารามรัตติกาล หลังจากที่ความมืดปกคลุมลงบนแผ่นดิน โบสถ์รัตติกาลก็จางหายไปและโบสถ์ของพวกเขาก็ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง”
“เควสเนื้อเรื่อง!”หวังหยู่ตกตะลึง เมื่อเขาเห็นเควสที่ได้รับมาจากฤๅษี เควสเนื้อเรื่องเป็นเรื่องที่สําคัญและพวกมันก็จะถูกเปิดขึ้น เมื่อผู้เล่นถึงระดับที่ต้องการ เขานั้นใช้เงินจํานวนมากเพื่อซื้อเหล้าให้กับฤๅษี เพื่อที่จะให้ฤๅษีหลอกเขาโดยการให้เควสเนื้อเรื่อง!”
“อย่าทําตัวแกล้งโง่ไปหน่อยเลย! นายก็รู้ว่าผมไม่ได้มองหาเควสนี้!” หวังหยู่อุทานออกมาด้วยความโกรธเคือง
“ถ้างั้น นายต้องการเควสอะไรละ?”ฤๅษีถาม
“เควสที่สามารถเพิ่มค่าชื่อเสียงของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์! อย่างน้อยก็สองร้อยหน่วย!”
“เอิ่ม…ฉันไม่มีมัน…”ฤๅษีส่ายหัว
หวังหยู่ก็หยิบขวดเหล้าออกมาเพิ่มและถาม “แล้วตอนนี้ละ?”
ฤๅษีก็เก็บเหล้าไปและพูดออกมา “ฉันไม่ได้มีเควสแบบนั้นให้นายจริงๆ ถ้านายต้องการเควสแบบนั้น ทําไมนายถึงไม่ไปหานักบวชของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ละ?”
“เหี้..เอ้ย! ถ้าผมสามารถทํามันได้แล้วละก็ ทําไมผมจะต้องจ่ายเงินมาขอความช่วยเหลือจากนายอีกละ?”หวังหยู่ตอบกลับอย่างหงุดหงิด
“ก็จริง”ฤๅษีบ่นพึมพํา “ทําไมนายรีบร้อนต้องการแต้มชื่อเสียงของฝ่ายศักดิ์สิทธิ์กันละ?”
“เพื่อเข้าฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ยังไงละ!”
ฤๅษีก็ทําตัวเหมือนว่าเขาเข้าใจแล้ว “โอ้ เป็นแบบนี้นี่เอง…แล้วทําไมนายไม่เข้าฝายอื่นแทนละ?”
“ฝายมืด? ไม่ละ เพื่อนของผมทั้งหมดอยู่ฝ่ายศักดิ์สิทธิ์กัน…”
“นายไม่สามารถเข้าร่วมฝายมีดได้ ถ้านายทํามันแล้วละก็คนแรกที่จะไปตามหานายก็คือฉัน!”
“เชี่ยอะไรวะ จริงดิ?” หวังหยู่ประหลาดใจ
“แน่นอน ความมืดนั้นปกคลุมลงมาในเมืองรัตติกาลเนื่องจากฝายมืด เมื่อเป็นลูกศิษย์ของฉัน ถ้านายกล้าที่จะเข้าร่วมกับฝายมีด ฉันก็จะเตะนายออกไป! ทั้งอาชีพและอาวุธของนายก็จะถูกริบ”
“นรกอะไรวะ!” หวังหยู่สาปแช่งอย่างเงียบงัน โชคดีที่เขาไม่ได้ฟังคําพูดของดเวย์นและเข้าร่ วมกับฝ่ายมืด หรือไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะถูกฆ่าโดยๆษีไปแล้ว
ไอ้เชี่ยนี่แม่งเป็นกับดักเต็มไปหมด การคํานวณผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะทําให้โดนกําจัดได้
“แล้วให้ผมทํายังไงละ? ถ้าผมไม่สามารถที่จะเข้าร่วมฝ่ายไหน ผมก็จะต้องเป็นพวกคิดนอกกรอบงั้นเหรอ?” หวังหยู่หงุดหงิด การเป็นพวกคิดนอกกรอบนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าการเข้าร่วมกับฝ่าย สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ต้องการที่จะเป็นพวกคิดนอกกรอบเลยแม้แต่น้อย
“ไม่จําเป็น” ฤๅษีหัวเราะ “เอาเงินมาให้ฉัน สิบเหรียญทองและฉันให้เควสลับกับนาย”
“ผมรู้ว่าคุณจะต้องมีบางสิ่งบางอย่างให้ผม!” หวังหยู่มีความสุขและเขาก็ส่งเงินสิบเหรียญทองให้กับฤๅษีโดยปราศจากความลังเลใดๆ
หลังจากที่ฤๅษีรับเงินไป เขาก็หัวเราะและพูด “นายรู้จักเพียงแค่ฝ่ายศักดิ์สิทธิ์และฝ่ายมืดสินะ นายไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับฝ่ายเป็นกลางมาก่อนเลยงั้นเหรอ?”
{แจ้งเตือนระบบ :คุณได้กระตุ้นเควสลับ “การยอมรับของราชา” เควสระดับ S คุณจะรับมันหรือไม่?”