MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 242
Chapter 242: ผมอนุญาตให้นายเรียกผมว่า ‘ลุงกระทิง’!
แม้ว่าเขาจะเป็นคนนอกของโลกศิลปะการต่อสู้ ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นก็เป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่มีความรู้มากกว่าเขา
นักแอบซุ่มนั้นเข้าใจถึงความสามารถทั้งหมดของเนียนลู่หยุนเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่พวกเขาเล่นเกมมาด้วยกันนั้นก็ไม่เคยพบเจอผู้คนที่เนียนลู่หยุนไม่สามารถเอาชนะได้มาก่อน กับความจริงที่เนียนลู่หยุนนั้นเจอกับผู้เล่นอีกคนที่ทำให้เขาจนมุมได้ในวันนี้มันเกินการคาดการณ์ของเขาไป
“ชื่อของฉันคือกระทิงเหล็ก!”หวังหยู่ตอบกลับ
“กระทิงเหล็ก?”นักแอบซุ่มประหลาดใจและก็รีบกุมมือให้กับหวังหยู่แล้วเขาก็พูดต่อ “ดังนั้นนายก็คือกระทิงเหล็กที่โด่งดังนี่เอง นายนี่สมกับชื่อเสียงอันโด่งดังของนายจริงๆ!”
“ฮ่าๆ”หวังหยู่หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจและไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! นายก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันกำลังถาม!”เนียนลู่หยุนตะโกนอย่างโกรธเคือง
“โอ้ นายหมายถึงตัวตนของผมในชีวิตจริงสินะ”หวังหยู่หัวเราะ “มันจะดีกว่าถ้านายไม่รู้มัน มิฉะนั้นนายอาจจะวิ่งร้องไห้หนีไป อย่าไปนำเรื่องเกี่ยวกับโลกแห่งศิลปะการต่อสู้เข้ามาในเกมนี้เลย ผมอนุญาตให้นายเรียกผมว่าลุงกระทิง!”
นักแอบซุ่มอ้าปากค้าง
“ผมอนุญาตให้นายเรียกผมว่าลุงกระทิง…..”เขานั้นหยิ่งยโสมากแค่ไหนกันแน่ชายคนนี้???
“เฒ่ากระทิง ฉันชอบการแสดงของนายมาก! เอาไปร้อยแต้ม!”หมิงตู่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ผมไม่ได้แสดง”หวังหยู่ตอบกลับ
“ไอ้คนโอหัง! นายกล้าดียังไงที่พูดจากับฉันแบบนี้? นายคิดเหรอว่าฉันจะไม่สามารถฆ่านายได้หน่ะ?”เนียนลู่หยุนคำรามแล้วเขาก็พุ่งเข้าใส่หวังหยู่
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาและเขาก็ร่าย [บิดเบือน] รอบๆหวังหยู่และหมิงตู่และพันพวกเขาด้วยสกิลของเขา
เนียนลู่หยุนก็รีบใช้ [เหยี่ยวเหยียบย่ำ]เพื่อเปลี่ยนทิศทางและกระแทกกับพื้นด้านข้างอย่างรุนแรง ในขณะที่รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นได้เรียกปีศาจของเขาออกมาล้อมรอบเรียบร้อยแล้ว
เนียนลู่หยุนจับไปที่หัวของหนึ่งในปีศาจและเหวี่ยงมันไปรอบๆเหมือนกับไม้เบสบอลก่อนที่จะพุ่งออกมาจากวงล้อม มันเป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเมื่อเจอผู้เล่นคนอื่น
“นายต้องการที่จะเริ่มมันตรงนี้จริงๆใช่ไหม?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิจ้องไปที่นักแอบซุ่มแล้วเขาก็ถามขึ้น
รัศมีฤดูใบไม้ผลิไม่ได้หวาดกลัวนักแอบซุ่ม ตั้งแต่ที่เขามีหวังหยู่อยู่กับเขา แต่เหตุผลหลักที่ชายสามคนนี้มายังเมืองฝนฟ้าคะนองนั้นก็เพื่อที่จะทำเควสให้เสร็จ พวกเขานั้นไม่ได้รู้ว่ามีกองกำลังของนักแอบซุ่มอยู่ที่นี่และพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาของพวกเขาให้กับคนแบบนี้
เหตุผลเดียวที่นักแอบซุ่มกล้าที่จะเริ่มทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นที่นี่ก็เพราะว่าเขานั้นมีเนียนลู่หยุนอยู่เคียงข้างเขา แต่ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายหนึ่งมีผู้เชี่ยวชาญที่หยั่งไม่ถึงและเนียนลู่หยุนก็ไม่ได้เปรียบนั้นก็ทำให้เขาไม่ต้องการที่จะใช้โชคแทนเช่นกัน
“ลู่หยุน ไปกันเถอะ พวกเราจะจัดการพวกมันในอนาคต!”นักแอบซุ่มตบไปที่หลังของเนียนลู่หยุนแล้วเขาก็แนะนำ
“ฮึ่ม!”เนียนลู่หยุนส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “กระทิงเหล็กใช่ไหม? ฉันจะจำหน้านายไว้! อย่าให้ฉันเห็นนายอยู่แถวนี้อีกครั้งละ!”
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เดินออกจากโรงเตี๊ยมไปในที่สุด
“ว้าว กระทิงเหล็ก คำพูดของนายนี่แม่งโคตรเท่ห์เลย! ‘ผมอนุญาตให้นายเรียกผมว่าลุงกระทิง’ แม่งดูดีมาก!”หมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ระเบิดเสียงหัวเราออกมาเมื่อนักแอบซุ่มจากไป
“ใครจะไปรู้กันว่านายก็มีลักษณะแบบนั้นอยู่ในตัวนายด้วย!”
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินหวังหยู่ยั่วยุใครบางคน!
“ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ มันไม่ผิดหรอก สำหรับชายหนุ่มคนนั้นที่จะเรียกผมว่าลุง”หวังหยู่ตอบกลับ
“นายรู้จักเขาในโลกความเป็นจริงงั้นเหรอ?”หมิงตู่ถามอย่างตึงเครียด
“ไม่ ผมไม่รู้จัก แต่ผมสามารถที่จะคาดเดาตัวตนของเขาได้ลางๆจากศิลปะการต่อสู้ที่เขาใช้มัน”หวังหยู่อธิบาย
ท่าการโจมตีของเสือมังกรอันโดดเดี่ยวที่เนียนลู่หยุนนั้นใช้มันก่อนหน้านี้มันเป็นท่าของศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่าปาจี๋เฉวียน มันเป็นลักษณะพิเศษของตระกูลหลี่ มันเป็นท่าที่สอนเฉพาะกับลูกศิษย์ภายใน นี่ทำให้หวังหยู่สามารถรับรู้ถึงตัวตนของเนียนลู่หยุนได้
สถานะของหวังหยู่ในวงโคจรของศิลปะการต่อสู้นั้นน่าหวาดหวั่นอย่างมาก จำนวนของผูค้นที่สามารถพิจารณาเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมได้นั้นสามารถนับได้ด้วยมือเพียงมือเดียว และพวกเขานั้นก็มาจากตระกูลใหญ่ทั้งสี่กันทั้งหมด
“แต่เด็กคนนั้นก็ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งจริงๆนั่นแหละ นายคิดว่านายจะสามารถเอาชนะเขาได้ไหม?”หมิงตู่ถาม การต่อสู้ก่อหน้านี้ทำให้เขาสนใจในเรื่องนี้
“นายหมายถึงชีวิตจริงหรือในเกมกัน?”หวังหยู่ถาม
“ทั้งคู่..”
“ถ้าพวกเราพูดถึงเกี่ยวกับชีวิตจริงแล้วละก็ แม้แต่ปู่ของเขาก็สามารถทนได้เพียงห้าสิบท่า เมื่อเผชิญหน้ากับผม ดังนั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบระหว่างพวกเราเลย แต่ในเกมนี้ ผมคิดว่าผมจะเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน…”
“เหี้…อะไรวะ นายกำลังโม้อยู่หรืออะไร?”หมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิถอนหายใจ
“นายคิดว่าผมกำลังโม้เรื่องความแข็งแกร่งของผมอยู่งั้นเหรอ? ทำไมนายไม่ถามหยางนัวเกี่ยวกับผมกันละ? นรกเอ้ย ผมสามารถที่จะคาดเดาตัวตนของเนียนลู่หยุนได้จากการแลกเปลี่ยนหมัดเพียงรอบเดียว แต่เด็กนั่นก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลยด้วยซ้ำไป!”หวังหยู่หัวเราะ
“ใครคือหยางนัวกัน?”
“หิมะอันบริสุทธิ์…”หวังหยู่ก็รีบตอบ เขานั้นเผลอเปิดเผยชื่อจริงของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจไป!
“โอ้…ดังนั้นชื่อของเธอก็คือหยางนัวนี่เอง…”รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็สว่างวาบขึ้นบนดวงตาของหมิงตู่แล้วเขาก็หัวเราะ ใครจะไปรู้กันว่าชายคนนี้วางแผนอะไรอยู่
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว พวกเราจะไปทำเควสในปราสาทหน้าผาโลหะไหม?”หวังหยู่ถาม
“เหี้…! อย่าพูดถึงมันต่อหน้าฉัน!”หมิงตู่ถอนหายใจอย่างผิดหวัง
“เกิดอะไรขึ้น? นายโดนรังแกงั้นเหรอ?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิถาม
“นายจะเข้าใจถึงความบ้าคลั่งของเควสนายเอง เมื่อนายไปยังที่นั่น! มันเป็นเควสสองด้าน!”หมิงตู่อธิบาย
“เควสสองด้าน?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิถาม
“ใช่และไม่เพียงแค่นั้น ปราสาทหน้าผาโลหะนั้นเป็นสำนักงานกิลด์ของกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฝนฟ้าคะนองอีกด้วย กฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง!”
“สำนักงานกิลด์?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิอ้าปากค้าง
แม้ว่าปราสาทหน้าผาโลหะนั้นจะมีผู้เล่นบางส่วนก็ไม่ใช่ปัญหามากสักเท่าไหร่ในการผ่านพวกเขาไปและขโมยไอเทมที่พวกเขาต้องการ แต่สำนักงานกิลด์นั้นทำให้เรื่องนี้แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน
สำนักงานกิลด์นั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยส่วนบุคคลของพวกเขา มีทางเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้นั้นก็คือพวกเขาจะต้องท้าทายกิลด์กฏสวรรค์อันบ้าคลั่งในการทำสงครามกิลด์!
ตามตำนานของ {REBIRTH} ปราสาทหน้าผาโลหะนั้นเป็นการก่อสร้างเมืองที่ดีที่สุดในเกมนี้ แม้ว่าสามเผ่าพันธุ์จะละทิ้งมันไปก็ตามที กับความจริงที่ว่าการป้องกันของปราสาทนี้เจาะทะลวงไม่ได้ก็ยังคงอยู่