MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 249

Chapter 249: การเล่นคำ
เมื่อพวกเขาทั้งสามคนเห็นว่าพวกเขาต่างแปลงร่างไปกันทั้งหมดนั้น พวกเขาก็รีบแชร์รายละเอียดของเควสของพวกเขาต่อกันและกันและเริ่มต้นที่จะด่าคนสร้างเกดม

ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นอยู่ในดันเจี้ยนเนื้อเรื่องกันทั้งหมด มันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขานั้นจะเป็นทีมเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขานั้นเปรียบเทียบกับเควสของพวกเขาแล้วนั้น พวกเขาสามคนนั้นก็สังเกตเห็นว่าพวกเขานั้นทำเควสตรงกันข้ามกันและกัน!

หมิงตู่นั้นก็เปลี่ยนไปเป็นไรอันและมีหน้าที่ช่วยเหลือเผ่าพันธุ์เอลฟ์ให้เอาชนะโนมส์และคนแคระ

รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซนต์หลุยส์และมีหน้าที่ช่วยเหลือเผ่าพันธุ์โนมส์ในเอาชนะเอลฟ์และคนแคระ

ในชั่วพริบตานั้นพวกเขาก็เปลี่ยนไปจากเพื่อนร่วมทีมกลายเป็นศัตรู!

สิ่งที่พวกเขานั้นไม่เข้าใจก็คือ ทำไมกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งนั้นยังคงเกี่ยวข้อง ถ้าพวกเขานั้นกำลังทำเควสสามทางอยู่แล้ว!

“ทีงี้เอาไงกัน? พวกเราจะจัดการเรื่องนี้ด้วยการใช้การเป่ายิ้งฉุบไหม?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิแนะนำ

ตั้งแต่ที่มีเพียงพวกเขาเพียงแค่คนเดียวที่สามารถทำเควสให้สำเร็จได้นั้น มันก็จะดีกว่าสำหรับพวกเขาที่จะรวมตัวช่วยคนเพียงคนเดียวให้สำเร็จเควสแทนที่จะเสียเวลามาสู้กันเอง

รางวัลของรัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นอาชีพลับ ดังนั้นในเรื่องของรางวัลพวกเขาแล้วนั้น รางวัลของเขานั้นมีค่ามากที่สุดระหว่างพวกเขาทั้งสามคน มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลถ้าพวกเขาร่วมมือกันช่วยรัศมีฤดูใบไม้ผลิให้สำเร็จเควสของเขา ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นใกล้ชิดกันจนไม่มีใครรู้สึกเสียใจ ถ้ารัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นต้องการที่จะได้รางวัลนี้ไป อีกสองคนก็จะปล่อยให้เขาทำเควสให้สำเร็จ

เหตุผลหลักที่รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเสนอเรื่องนี้ก็เพราะว่าเขารู้สึกแย่ที่จะใช้รางวัลเควสของเขาผลักดันให้หวังหยู่และหมิงตู่นั้นต้องยกเลิกของรางวัลและให้กับเขาแทน สุดท้ายแล้ว อาชีพลับสาขาของหมิงตู่ก็ไม่ได้อ่อนแออีกด้วยและหวังหยู่นั้นก็จ่ายเงินในราคาที่สูงเพื่อที่จะเริ่มต้นเควสของเขา…

“ลืมมันไปซะ ยกให้พี่ชายฤดูใบไม้ผลิละกัน! อาชีพลับของนายมันดีที่สุดแล้ว! อย่าลืมให้ค่าตอบแทนกับฉันในภายหลังละกัน โอเคไหม? นายก็เอาแบบฉันใช่ไหมกระทิงเหล็ก?”

“ไม่…ผมรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเควสเหล่านี้…”หวังหยู่ขมวดคิ้วและพึมพำ

“หื้อ? นายหมายความว่าอะไรที่มันผิดปกติ?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิรีบถาม

“เอ่อ ผมหมายถึงพวกเรานั้นก็เผชิญหน้ากฏสวรรค์อันบ้าคลั่งกันทั้งหมดอยู่แล้วใช่ไหม? ดังนั้นพวกเราควรที่จะอยู่ทีมเดียวกันนะสิ”หวังหยู่ถาม

“ใช่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ”รัศมีฤดูใบไม้ผลิพยักหน้า

“ถ้าแบบนั้นมันก็ไม่มีทางที่ที่ระบบจะทำให้พวกเราเป็นศัตรูต่อกันและกันใช่ไหมละ?”หวังหยู่ถามอีกครั้ง

“ในทางทฤษฏีมันไม่มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะทำมัน แต่ถ้าพวกเราช่วยเหลือฝ่ายหนึ่งให้ชนะแล้วละก็ นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราก็ทำให้ฝ่ายอื่นแพ้ด้วยเช่นกันงั้นเหรอ?”หมิงตู่ส่ายหัว

“ถ้ามันเป็นแบบนั้นละก็ ระบบก็จะไม่จำเป็นที่จะต้องให้มันข้องเกี่ยวกับกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งด้วยสิ…สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเควสนั้นไม่ได้บอกให้พวกเราทำร้ายกันและกันสักหน่อย! สิ่งที่พวกมันบอกก็คือกำจัดNPCสามตัวต่างหาก!”หวังหยู่อธิบาย

“เหี้..เอ้ย นายจริงจังใช่ไหม? พวกเขาพยายามที่จะหลอกพวกเราด้วยเรื่องแบบนี้สินะ??”หมิงตู่อ้าปากค้าง หมิงตู๋นั้นก็จัดการกับNPCเอไอระดับสูงมานับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม หวังหยู่ก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในการจัดการกับคำพูดของระบบและผู้สร้างเกมมาก่อน

“ฉันรู้สึกว่าคำพูดของน้องกระทิงนั้นสมเหตุสมผล”รัศมีฤดูใบไม้ผลิพึมพำ “ระบบไม่ควรที่จะหาเหตุผลในการแยกสมาชิกของทีมเดียวกันออกไป ถ้ามันเป็นความตั้งใจจริงๆแล้วละก็ มันก็จะเป็นเควสสี่เส้นทางตั้งแต่ตอนเริ่มต้น! นอกจากนี้แล้ว เควสของพวกนายมีเงื่อนไขในการล้มเหลวไหม?”

“มันไม่มีเลย…’หมิงตู่ส่ายหัว

ดันเจี้ยนทั่วไปนั้นมีเงื่อนไขในการล้มเหลวสำหรับเควสดันเจี้ยนหลักและดันเจี้ยนเนื้อเรื่องนั้นก็มีเงื่อนไขในการล้มเหลวที่ชัดเจนยิ่งกว่า

เมื่อเห็นหมิงตู่ยังคงลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังหยู่ก็พูดตรงๆ “ตั้งแต่ที่พวกเรานั้นอาจะจเป็นศัตรูกันและกันอยู่ดี พวกเราก็สามารถที่จะลองฆ่าเป้าหมายของรัศมีฤดูใบไม้ผลิก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าพวกเราทั้งคู่ไม่ล้มเหลวละก็ พวกเราก็จะรู้อย่างชัดเจนว่าพวกเราไม่ได้ทำเควสตรงกันข้ามกัน! หลังจากนั้น พวกเราก็สามารถที่จะฆ่าอีกสองตัวได้!”

“ดี พวกเรานั้นก็จะทำตามแผนนี้!”หมิงตู่พยักหน้า

แผนของหวังหยู่นั้นเป็นที่ชื่นชอบของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นเขาจึงตกลงมันด้วยเช่นกัน

ตั้งแต่ที่หมิงตู่นั้นก็ทำเควสนี้ได้สำเร็จ เขานั้นก็รู้ว่าเส้นทางที่ถูกต้องที่จะเข้าไปด้านในของดันเจี้ยน เพียงเวลาสั้นๆไม่กี่นาที ทั้งสามคนก็มาถึงพื้นที่ของบอส

“ทันทีที่พวกเราเข้ามาในห้องประชุม ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งนั้นก็จะได้รับการแจ้งเตือนในทันที พวกเราไม่ได้มีเวลามากสักเท่าไหร่”

เมื่อเขาพูดเสร็จ หมิงตู่ก็เปิดประตูและทั้งสามก็เข้าไปในห้องประชุม

สิ่งแรกที่พวกเขาทั้งสามเห็นก็คือNPCสามคนนั้นกำลังโต้เถียงกันและกัน ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยก็ตามที มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ NPCทั้งสามเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจะเริ่มสู้กันได้ในทุกชั่วขณะ

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งที่กำลังทำสงครามกับพันธมิตรปึกแผ่นก็ได้ยินการแจ้งเตือนของเควสกิลด์ขึ้น

{แจ้งเตือนระบบ : เควส “การปิดกั้นปราสาทหน้าผาโลหะ”ได้ถูกเริ่มต้น ได้โปรดกลับไปยังสำนักงานกิลด์เพื่อป้องกันปราสาทหน้าผาโลหะจากการถูกปิดกั้น}

“เหี้..!”

เมื่ออ่านการแจ้งเตือน ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็รู้สึกเหมือนกับว่าถังน้ำเย็นสาดลงมาบนใบหน้าของพวกเขาและก็สาปแช่งในทันที “เป็นไอ้แม่เย็..นั่นอีกแล้วแน่ๆเลย! เขานั้นใช้ประโยชน์จากพวกเราในเวลานี้อะนะ??”

หมิงตู๋นั้นเคยใช้เวลาหลายวันในการพยายามบุกปราสาทหน้าผาโลหะในการทำเควสให้สำเร็จและถูกฆ่าโดยผู้เล่นจากกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งในการพยายามครั้งสุดท้ายของเขา ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งนั้นต่างสันนิษฐานว่าหมิงตู่นั้นก็เข้าใจได้สักทีและยอมแพ้ไป ไม่มีใครในพวกเขาจะจินตนาการว่าเขาจะพยายามทำอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

ตั้งแต่ที่ผู้เล่นในเมืองต่างตั้งค่ายตรงจุดเกิดเพื่อคอยดูเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งนั้นก็ไม่สามารถที่จะกลับไปยังสำนักงานกิลด์ได้ในตอนนี้หรือไม่อย่างงั้นพวกเขาก็จะดูเหมือนว่าพวกเขาหนีไปเพราะความกลัว!

“พวกเราควรที่จะทำยังไงกันครับบอส?”ผู้เล่นคนหนึ่งก็รีบถามเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่ง

ตั้งแต่ที่สงครามกิลด์นั้นเริ่มต้นโดยกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะกลับไปได้ มิฉะนั้นชื่อเสียงของเขาก็จะไม่มีทางฟื้นคืน ในอีกทางหนึ่ง พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเมินเฉยกับความจริงที่สำนักงานกิลด์ของพวกเขาโดนโจมตีได้ด้วย

“มันก็แค่คนเพียงแค่คนเดียว เขาจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการทำลายตัวปิดผนึกอยู่ดี ดังนั้นก็แค่ส่งคนไปไม่กี่คนก็พอ!”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งตอบกลับ

“ผมจะส่งทีมไปสองทีมละกัน..”

“ถ้างั้นก็โอเคเลย เขาก็แค่ชายเพียงคนเดียว ดังนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ได้สักหน่อย!”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งหัวเราะ

ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งได้เผชิญหน้ากับหมิงตู่มาหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หมิงตู่ทำนั้นก็มีเพียงแค่วิ่งหนีไป นอกจากนี้แล้ว ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็ต่างคิดกันว่าเขานั้นไม่ได้ต่างไปจากคนอ่อนแอคนหนึ่ง

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือหมิงตู่นั้นมีคนช่วยเขาสองคนในครั้งนี้…

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ด้านในห้องประชุมของปราสาทหน้าผาโลหะ NPCสามตัวนั้นก็หยุดโต้เถียงกันเมื่อพวกเขาเห็นหวังหญู่และคนอื่นเข้ามาในห้อง

ราชาคนแคระนั้นเดินเข้าหาด้านข้างของหวังหยู่และโต้กลับ “เพื่อนรัก นายมาได้ตรงเวลาจริงๆ! ไอ้พวกหนอนนี่แม่งกล้าที่จะดูถูกทายาทของเทพเจ้าสงครามอันทรงอำนาจ! นายสามารถที่จะช่วยฉันกำจัดพวกหน้าเหี้..นี่ได้ไหม?”ถึงแม้ว่าราชาคนแคระนั้นจะตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่ น้ำเสียงของเขาก็ยิ่งใหญ่…ทันทีที่เขาเปิดปาก เขานั้นก็พูดถึงการฆ่าผู้นำอีกสองคนที่เหลือ…

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้นำของเอลฟ์และผู้นำของโนมส์ก็เดินเข้าหารัศมีฤดูใบไม้ผลิและหมิงตู่ก็ถามคำถามเดียวกัน

หลังจากที่พวกเขาพูดเสร็จ หวังหยู่และคนอื่นก็มองไปที่ค่าสถานะของบอสเหล่านี้

{ราชาคนแคระ (ระดับ 21)(เงิน)(บอส)(ชั้นยอด)}

พลังชีวิต : 200000

มานา : 5000

สกิล : [การตบด้วยสายฟ้า] [พายุอันแข็งแกร่ง]

{ผู้นำเอลฟ์ (ระดับ 21)(เงิน)(บอส)(ชั้นยอด)}

พลังชีวิต : 150000

มานา : 15000

สกิล : [การยิงด้วยเปลวเพลิง] [เกินพิกัด]

{ผู้นำแห่งโนมส์ (ระดับ 21)(เงิน)(บอส)(ชั้นยอด)}

พลังชีวิต : 100000

มานา : 20000

สกิล : [เร็วสุดขีด] [ซัมมอน : นักรบเครื่องจักร]