MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 251
Chapter 251: นักต่อสู้ที่ก้าวข้ามตำนาน
“พวกเขาอยู่ที่นี่แล้วงั้นเหรอ??”เมื่อพวกเขาทั้งสามคนเห็นการแจ้งเตือนของระบบ พวกเขาก็รีบจ้องไปที่ผู้นำโนมส์ในทันที
พวกเขาเคยคิดว่าพันธมิตรปึกแผ่นจะสามารถต้านทานกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งได้นานกว่านี้ อย่างไรก็ตาม มันเหมือนกับว่าพันธมิตรปึกแผ่นยังคงย่ำแย่กว่า เมื่อเทียบกับกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง
ตั้งแต่ที่มันเหลือบอสเพียงตัวเดียวจากทั้งสามตัว มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมแพ้มันโดยปราศจากการต่อสู้
หวังหยู่นั้นมีปัญหาอยู่เสมอๆกับการจัดการบอสประเภทคล่องแคล่วทั่วไป พร้อมกับผู้นำโนมส์ที่เพิ่มความสามารถบินไปอีกด้วยมันก็ไม่มีทางที่เขาจะช่วยในการต่อสู้นี้ได้เลย!
ถึงแม้ว่าผู้นำโนมส์นั้นจะมีพลังชีวิตแค่ราวๆ 100000 หน่วย มันก็มีความสามารถในการหลบหลีกที่สูงมาก หมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ตามความเคลื่อนไหวของมันได้อย่างยากลำบากด้วยดวงตาของพวกเขา!
สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดก็คือความเร็วของผู้นำโนมส์ มันมีความเหนือชั้นทางด้านการบินบนอากาศด้วยเช่นกัน ทุกการโจมตีของทุกคนนั้นมีระยะอยู่ที่สิบเมตร ถ้าไม่มีอุบัติเหตุหรือการปะทะกันแล้วละก็ มันก็ไม่มีทางสำหรับเวทย์ของหมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิที่จะโจมตีโดนมัน
โชคดีที่พื้นที่ของห้องประชุมนั้นไม่ใหญ่มาก มิฉะนั้นละก็ ถ้าผู้นำโนมส์ตัดสินใจที่จะหลบหนี มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถหยุดมันได้
ในขณะที่ทั้งสามคนฆ่าบอสอีกสองตัวไป พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าผู้นำโนมส์นั้นก็จะพุ่งลงมาโจมตีเป็นครั้งคราว หลังจากที่สังเกตมาสักพักหนึ่ง พวกเขาก็ตระหนักว่ามันมีเงื่อนไขที่เขาจะทำมัน
เพื่อที่จะเรียกนักรบเครื่องจักรออกมา ผู้นำโนมส์จะต้องพุ่งตัวลงไปหาพื้นดินเพื่อใช้สกิลของเขา ช่วงเวลาเดียวที่เขาจะพุ่งลงพื้นดินนั้นก็เป็นตอนที่นักรบเครื่องจักรที่เขาเรียกออกมาถูกสังหาร
ด้วยเหตุนี้นี่เอง พวกเขาก็หลบการโจมตีทางอากาศของผู้นำโนมส์อย่างต่อเนื่องและจดจ่อในการฆ่านักรบเครื่องจักรเพื่อล่อให้เขาลงมา ถึงแม้ว่านักรบเครื่องจักรจะมีพลังชีวิตที่สูงและการต้านทานที่สูง พวกเขาก็ถูกจัดการได้อย่างง่ายดายโดยการผสมผสานเวทย์ของหมู่หมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิ
เพียงแค่พวกเขาฆ่านักรบเครื่องจักรไปสองตัว ประตูของห้องประชุมก็ถูกเปิดออกและกลุ่มของผู้เล่นจากกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็พุ่งเข้ามาด้านใน
ผู้นำของกลุ่มผู้เล่นนี้เป็นผู้ออกคำสั่งอันดับสองในกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่ง เพียงแค่ชื่อของเขาเพียงอย่างเดียว มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะอธิบายว่าเขานั้นเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดของเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่ง นั่นหมายความว่าเขาจะเข้าถึงทรัพยากรที่ดีที่สุดและอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในกิลด์ที่จะสามารถแบ่งปันได้และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่น้อยไปกว่าเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งเลย
เมื่อจักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งเข้ามาในห้องประชุม เขาก็ตื่นตระหนกจนถึงจุดที่วิญญาณของเขาแทบจะหลุดไปออกจากร่าง
“เมินนักต่อสู้ไป รีบหยุดหมอผีและนักเวทย์เร็วเข้า!”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งร้องออกมา เมื่อได้ยินคำสั่งของเขา ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็รีบตั้งทีมในทันทีและพุ่งเข้าใส่หวังหยู่และคนอื่น
ตั้งแต่ที่หวังหยู่แทบจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับบอส จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งก็ตัดสินใจว่าการฆ่าผู้เล่นทั้งสองคนนั้นที่จะฆ่าบอสได้นั้นสำคัญกว่า
เมื่อรัศมีฤดูใบไม้ผลิเห็นผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งพุ่งเข้ามาหา เขาก็เรียกปีศาจออกมาหกตัวและตั้งกำแพงขวางเส้นทางของพวกเขาไว้
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หมิงตู่ก็ร่าย [เพลิงนรก] ด้านหน้าปีศาจและบังคับให้ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งต้องล่าถอย
“พวกเขาสามารถที่จะใช้เวทย์หมู่และเวทย์ซัมมอนได้! อย่าพุ่งเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า!”
เมื่อจักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งตระหนักได้ว่าหมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิมีความสามารถ เขาก็ใจเย็นลงในทันทีและประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ศัตรูที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถใช้สกิลควบคุมผิดปกติและเวทย์ซัมมอนได้ ในขณะที่อีกคนมีความสามารถในการใช้เวทย์หมู่ระดับสูง…
ตั้งแต่ที่มันเป็นห้องประชุมของปราสาทหน้าผาโลหะที่มีเวทียกขึ้นสูง หวังหยู่และคนอื่นก็ต่างอยู่บนพื้นสูง ถ้าผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งพยายามที่จะพุ่งมาหาพวกเขาอย่างมั่วซั่ว พวกเขาก็จะเสียเปรียบ
มันไม่ใช่ว่าทีมของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งไม่มีนักเวทย์ ผู้เล่นทุกคนที่กลับมาป้องกันนั้นต่างเป็นผู้เล่นชั้นยอดของกิลด์ ถ้าพวกเขาไม่กลับมาพร้อมไม่มีรอยขีดข่วนจากการต่อสู้สี่สิบต่อสามแล้วละก็ ศักดิ์ศรีของพวกเขาก็จะถูกทำลาย
“พวกเราจะดึงการโจมตีไว้ ในขณะที่โจรไปลอบสังหารพวกเขา!” จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งตัดสินใจ
เมื่อพวกเขาเป็นอาชีพสวมเกราะผ้า นักเวทย์และนักบวชนั้นจะมีพลังชีวิตราวๆ 800 หน่วยในระดับนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่มแต้มไปยังค่าพละกำลังไป พลังชีวิตของพวกเขาก็มีมากที่สุดแค่ 1600 หน่วย
พร้อมกับการระเบิดการโจมตีที่สูงของพวกเขา โจรนั้นเป็นศัตรูตามธรรมชาติของอาชีพที่บอบบางทั้งหมด การโจมตีติดคริติคอลของพวกเขาก็จะทำความเสียหายได้ราวๆ 1500 หน่วย ถ้าพวกเขาส่งโจรออกไปหกคน มันก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าพวกเขาจะไม่สามารถฆ่าผู้บุกรุกไม่ได้!
“ครับท่าน!”เมื่อพวกเขาได้รับการแนะนำ โจรทั้งหกก็ใช้งาน [หลบซ่อน] และพวกเขาก็เดินหน้าเข้าไป
“หื้ม? ผู้พิทักษ์ หกคน นักเวทย์ยี่สิบคน นักบวชสี่คน หมอผีสี่คน…ไม่ใช่ว่าพวกเขามีแค่ยี่สิบคนงั้นเหรอ?”
พร้อมกับการเหลือบตามองไปอย่างรวดเร็ว รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็สังเกตว่าผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งหายไป
“พวกเขาอยู่ที่นี่!”หวังหยู่ตะโกนแล้วเขาก็พุ่งไปด้านหน้าหมิงตู่และกวาดพลองยาวของเขา
ในขณะที่ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งกำลังสงสัยหวังหยู่กำลังทำอะไร โจรทั้งหกที่ถูกส่งไปก็ปรากฏตัวขึ้นใหม่อย่างฉับพลัน!
“มันเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจจับคนลอบโจมตีได้!”หนึ่งในผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งร้องออกมา
แม้ว่าพวกเขาจะถูกเปิดเผยตัว โจรพวกนี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีกลัวออกมา ตั้งแต่ที่พวกเขาได้เปรียบเรื่องจำนวน พวกเขาก็รีบล้อมหวังหยู่
“ไม่!!! กลับมาก่อนที่หมอผีจะร่ายเวทย์ควบคุมสถานะผิดปกติกับพวกนาย!”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งรีบออกคำสั่ง
ในตอนนี้ โจรทั้งหกคนยืนอยู่ในระยะของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ ตราบเท่าที่เขาร่าย [บิดเบือน] พวกเขาก็จะตกลงไปในกับดักในทันที หลังจากนั้น สิ่งที่หมิงตู่จำเป็นต้องทำก็คือร่ายเวทย์หมู่และพวกเขาก็จะเหมือนกับตายไปแล้ว
อย่างไรก็ตามมันก็เหมือนกับว่ารัศมีฤดูใบไม้ผลิและหมิงตู่ไม่สังเกตเห็นคนทั้งหกคนและก็โจมตีใส่นักรบเครื่องจักรต่อ
เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่สนใจหวังหยู่ จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งก็หัวเราะออกมา “มันเหมือนกับว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่มีสัญชาตญาณในการต่อสู้…”
ก่อนที่จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งจะหัวเราะเสร็จ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็ทำให้เขากลืนกินคำพูดของเขาไป
ในการเผชิญหน้าโจรทั้งหกคน หวังหยู่ไม่จำเป็นที่จะต้องหลบเลยแม้แต่นิดเดียว เขาแทงมือทั้งคู่ของเขาออกไปอย่างแหลมคมและจับไปที่ลำคอของพวกเขาทั้งคู่ พร้อมกับการเหวี่ยงแขนควบคู่ไปกับ [ขย้ำอันรุนแรง] หวังหยู่ก็เหวี่ยงโจรทั้งสองคนเข้าใส่คนที่เหลืออีกสี่คน
โดยปราศจากการหยุดรอ หวังหยู่ก็พุ่งตัวไปด้านหน้าและใช้งาน [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำ]
“บูม!’
ในระยะเวลาที่น้อยกว่าห้าวินาที โจรทั้งหกคนก็ถูกสังหารกันอย่างง่ายดาย
“เหี้..! มันเป็นเนียนลู่หยุน!!!”
เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่หวังหยู่ทำ ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งทั้งหมดก็เหงื่อไหลออกมาอย่างเย็นยะเยียบ…
ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งเห็นหมิงตู่พยายามที่จะลอบเข้ามาหลายครั้ง ในขณะที่เปลี่ยนร่างเป็นไรอัน ด้วยเหตุนี้นี่เอง พวกเขาจึงรู้ว่าผู้เล่นทั้งสามคนที่สู้กันอยู่นี้นั้นปลอมแปลงตัวเป็นNPC พวกเขาก็พยายามครุ่นคิดอย่างมากที่จะคิดว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญสามคนถึงบ้าพอที่จะท้าทายกิลด์ของพวกเขาด้วยตัวคนเดียว
หลังจากที่พวกเขาเห็นหวังหยู่ฆ่าสหายของพวกเขาไปอย่างง่ายดาย พวกเขาก็สันนิษฐานในทันทีว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในเมืองฝนฟ้าคะนอง
ชื่อเสียงของเนียนลู่หยุนนั้นโด่งดังมาก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าเขานั้นจัดการผู้เล่นสิบสองคนด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว
สิ่งที่ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งคิดมากที่สุดนั้นก็คือข่าวลือนั้นแพร่กระจายออกมาเพื่อข่มขู่พวกเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้ผ่านไป พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเมืองฝนฟ้าคะนองนั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
ในขณะที่พวกเขายังยืนแข็งค้างด้วยความตกตะลึง หวังหยู่ก็คว้าโอกาสไว้และพุ่งตัวใส่ทีมของพวกเขา
“เทพเจ้าสายฟ้ากลับมา! มันเป็นเนียนลู่หยุน! พวกเราไม่สามารถต้านพวกเขาได้นานกว่านี้!!!”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งส่งข้อความไปในแชทกิลด์อย่างบ้าคลั่ง