MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 279
Chapter 279: จุดสิ้นสุดของการป้องกัน
เมื่อทําตามคําสั่งของไร้ความกลัว ทุกคนก็อยู่ตําแหน่งของพวกเขาเอง หวังหยู่และหยางหัวก็กลับมายังสํานักงานกิลด์ในขณะที่งนั้นกําลังรวมตัวกันอย่างวุ่นวาย
ในเวลาเดียวกัน งูก็เริ่มโจมตีครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน
เมื่อพวกเขาปะทะกับมันอีกครั้งหนึ่ง ผู้เล่นจากพันธมิตรอันนองเลือดก็ตระหนักได้ว่ามันง่ายกว่าที่พวกเขาคิดไว้
เนื่องจากการออกแบบของประตู มันจึงเป็นเรื่องง่ายอย่างมากในการป้องกันหลังจากที่ทุกคนกลับมาป้องกันประตู
งูบางตัวก็พยายามที่จะสู้กับผู้เล่นตรงๆ นอกจากการโจมตีอันรุนแรงของงูแล้วนั้น แท็งค์ก็สามารถที่จะป้องกันทางเข้าสํานักงานกิลด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและหยุดงูทั้งหมดไม่ให้เข้ามาได้ พร้อมกับการช่วยเหลือจากครูเซเดอร์ทั้งสี่สิบคนที่อยู่ด้านหลังและหมอผีที่ใช้สกิลที่ทําให้เกิดสถานะผิดปกติจากด้านบน แท็งค์ก็สามารถที่จะยืนได้
การจู่โจมครั้งสุดท้ายมันเหมือนกับเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายกับผู้เล่นคนอื่น แต่สําหรับผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินและพันธมิตรอันนองเลือดแล้ว มันเหมือนโอกาสสุดท้ายในการเก็บของดรอป
จํานวนที่มากมายของงูนั้นมากจนไม่สามารถที่จะจินตนาการออกมาได้ ตัวทําความเสียหายก็ไม่จําเป็นที่จะต้องเล็ง พวกเขาก็แค่ขว้างสกิลของพวกเขาและยิงลูกศรลงไปแค่นั้น
นักเวทย์ก็สามารถที่จะทําความเสียหายหมู่ได้ในบริเวณเล็กๆและนักธนูก็มีคุณสมบัติในการเจาะทะลุ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพของสกิลหมู่ แม้ว่าพวกเขาจะมีสกิลเดี่ยวก็ตาม
หมิงตู่นั้นมีความสนุกมากที่สุด เขาไม่สนใจที่จะแย่งสังหารอีกต่อไปและก็โจมตีไปทั่วๆแทน
คนที่กล้าหาญอย่างหวังหยู่นั้นจะไม่แอบอยู่ด้านหลังคนอื่น ในขณะที่คนอื่นนั้นเก็บค่าประสบการณ์กัน พวกเขาหลายคนที่อยู่ใกล้กับการโจมตีระยะไกลก็รวมตัวกันและพุ่งเข้าไปในฝูงของมอนสเตอร์ภายใต้การคุ้มครองของโบซอนและขุนนางครอท
[พุ่งเข้าชน] [ยั่วยุแบบกลุ่ม] [วายุสลาตัน] [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ํา] เมื่อสกิลเหล่านี้คอมโบเข้าด้วยกัน มันก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถยืนต้านทานพวกเขาได้ ค่าประสบการณ์ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างคงที่
นอกจากค่าประสบการณ์จํานวนมากแล้วนั้น มอนสเตอร์ก็ดรอปอุปกรณ์จํานวนมากด้วยเช่นกัน อุปกรณ์เหล่านี้มีทั้งระดับทองแดงและระดับเงินและพวกมันก็ต่างมีคุณภาพ ตั้งแต่ที่พวกมันดรอปมาจากมอนสเตอร์จากดันเจี้ยน ผู้เล่นของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นกําลังวุ่นวายกับการป้องกันและพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเก็บอุปกรณ์ได้เลย ดังนั้นสมาชิกของนิกายซวนเฉินจึงเก็บพวกมันมาทั้งหมด
ไม่มีใครในนิกายซวนเฉินที่มีช่องเก็บของที่ใหญ่เท่ากับหวังหยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต่างมองไปที่หวังหยู่อย่างประหลาดใจหลังจากที่เขาเก็บอุปกรณ์ชิ้นแล้วชิ้นเล่า
เมื่อมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายตายลง การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
แจ้งเตือนระบบ : พันธมิตรอันนองเลือดป้องกันสํานักงานกิลด์ของพวกเขาได้สําเร็จ พวกเขาจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์
ตั้งแต่ที่พวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มแรกในการทําเควสป้องกันสํานักงานกิลด์ได้สําเร็จและได้รับการช่วยเหลือจากนิกายซวนเฉิน การแจ้งเตือนนั้นก็ดังออกมาแค่ภายในเมือง ไม่ใช่ทั้งโลก
“พวกเราทํามันได้จริงๆ”
สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดที่ไม่ได้เข้าร่วมในการป้องกันนั้นต่างอึ้งไปเป็นเวลานาน
พวกเขาไม่สามารถที่จะเชื่อได้ว่า สมาชิกแค่แปดร้อยคนจะสามารถป้องกันได้สําเร็จ
ผู้เล่นที่ป้องกันสํานักงานกิลด์ต่างมีความสุขและเฉลิมฉลองกัน พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเชื่อตัวของพวกเขาได้ว่าพวกเขาจะทํามันได้สําเร็จเหมือนกัน เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่พวกเขาสําเร็จได้นั้นไม่ใช่เป็นเพราะโชค แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่แท้จริง พร้อมกับการสั่งการของไร้ความกลัวและความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อของสมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉิน
ใครจะไปคิดกันว่าสมาชิกจํานวนเท่าเดิมและเปลี่ยนแค่รูปแบบแค่เล็กน้อยจะสามารถตัดสินผลลัพธ์ของทั้งการต่อสู้ได้กัน?
ใครจะไปคิดกันว่าสมาชิกแค่สิบคนจะสามารถล่อบอสและจัดการสังหารบอสทั้งสี่ตัวได้ ท่ามกลางมอนสเตอร์นับหมื่นตัวกัน?
ผู้เล่นที่อยู่ประตูหลักนั้นต่างประทับใจ พวกเขาไม่สามารถที่จะลืมได้เลยกับสิ่งที่หวังหยู่นั้นจัดการบอสอัคนีระดับ 40 ได้อย่างสบายๆ การเคลื่อนไหวอันรวดเร็วและยอดเยี่ยมนั้นแสดงให้กับทุกคนที่ดูถูกอาชีพนักต่อสู้ ได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของอาชีพนี้
ในเวลาเดียวกัน การแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง {แจ้งเตือนระบบ ยินดีด้วย คุณได้ทําเควสลับป้องกันสํานักงานกิลด์ “ศักดิ์ศรีของงู การจู่โจมครั้งสุดท้าย” ระดับของกิลด์คุณเพิ่มขึ้น 1 ระดับเป็นของรางวัล}
ฝูงชนนั้นบ้าคลั่งกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เห็นการแจ้งเตือน
ระดับกิลด์เพิ่ม 1 ระดับนั้นหมายความว่าพันธมิตรอันนองเลือดนั้นมีระดับ 4 แล้วในตอนนี้ และสามารถที่จะรับสมาชิกเพิ่มได้ 1,000 คน พวกเขาน่าจะเป็นกิลด์แรกที่สามารถทํามันได้
แม้กระทั่งสมาชิกของนิกายซวนเฉินก็ได้รับผลกระทบไปกับความตื่นเต้นของพันธมิตรอันนองเลือดไปด้วย
“นี่มันบรรยากาศที่ดีเยี่ยมอะไรเช่นนี้ มันยอดเยี่ยมจริงๆที่มีคนจํานวนมากเช่นนี้” พวกเขาทั้งหมดต่างรู้สึกเหมือนกัน
“ใช่ คนปัญญาอ่อนนั้นจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด…”ไร้ความกลัวเหลือบตามองไปยังสมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือด
คนที่เหลือก็เริ่มดูถูกไร้ความกลัว “เหี้… นายไม่สามารถที่จะเป็นเหมือนกับคนธรรมดาได้งั้นเหรอ?”
ไร้ความกลัวโต้กลับ “พวกนายก็ไม่ได้เป็นคนปกติเหมือนกันละ ใช่ไหมละ เด็กน้อยแห่งศิลปะการต่อสู้?”ไร้ความกลัวเหลือบตามองไปที่หวังหยู่อย่างยั่วยุ
เมื่อใบหน้าของหวังหยู่จืดคล้ํา คนอื่นก็รีบเตือนไร้ความกลัว “เหีี้* ระวังปากของนายให้ดีๆเถอะและอย่าเริ่มการต่อสู้นี้ขึ้นมา ไม่อย่างงั้นพวกเราจะลบตําแหน่งนายออกไปจากผู้นํากิลด์!”
“ถูกแล้ว กิลด์ของพวกเรานั้นมีบรรยากาศที่แย่ๆก็เป็นเพราะเขา ฉันคิดว่าไอ้ขี้งกคนนี้ต้องลงจากตําแหน่งก่อนกําหนดแล้วละ แล้วฉันเป็นผู้นํากิลด์แทนเป็นไง?” หมิงตู่รีบเสนอตัวของเขาขึ้น
“เอิ่ม…”คนอื่นเงียบกริบ หวังหยู่หยุดคิดและหลังจากนั้นก็พูดเพิ่ม “ไม่เป็นไร ผมคิดว่าไร้ความกลัวเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า”
“พวกโง่”ไร้ความกลัวยกนิ้วกลางให้กับพวกเขา
“เหี้*เอ้ย!”
ธงสงครามอันนองเลือดเข้ามาหาทีมของนิกายซวนเฉินอย่างตื่นเต้นและเห็นทุกคนยกนิ้วกลางให้กับไร้ความกลัวและดูโกรธเคือง
“นองเลือด นายมาแล้ว…”ไร้ความกลัวทักทายเขา
“เอิ่ม ใช่…” ธงสงครามอันนองเลือดใจเย็นลงและพูดต่อ “พวกนายกําลังทําอะไรอยู่?”
“มันเป็นแค่พวกไอ้โง่แค่นั้นแหละ เมินพวกเขาไปเถอะ”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“จริงเหรอ?”ธงสงครามอันนองเลือดพูด เมื่อเขามองไปที่กลุ่มคนข้างหน้าพวกเขาที่เริ่มชักอาวุธออกมา
ไร้ความกลัวชี้ไปที่ธงสงครามอันนองเลือดและถามออกมา “พวกนายยังต้องการเงินอยู่ไหม?”
“…” ทุกคนหยุดอยู่กับที่และหลังจากนั้นก็รีบเก็บอาวุธลงไปและเริ่มที่จะประจบไร้ความกลัว “ไร้ความกลัว ฉันคิดว่านายเป็นบอสที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยละ”
“ถูกแล้ว!” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน
“เห็นไหม มันโอเคดี…”ไร้ความกลัวโบกมือให้กับธงสงครามอันนองเลือด แต่ธงสงครามอันนองเลือดนั้นเหงื่อไหลออกมาอย่างเย็นยะเยียบ