MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 287
Chapter 287: เข็มทิศ
สัญชาตญาณอันแหลมคมของเจียงลู่ฉีนั้นมาจากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มานานหลายปี เขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าเสียงนั้นดังมาจากทางไหนและมุ่งหน้าไปยังต้นกําเนิดของเสียง
หลังจากมุ่งหน้าไปหลายสิบเมตรหรือมากกว่านั้น หวังหยู่ก็สามารถที่จะเห็นทีมที่กําลังมุ่งหน้ามายังเขา
ทีมที่มนี้กําลังเร่งรีบและหลบมอนสเตอร์มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะหลบได้และกําจัดมอนสเตอร์ทุกตัวให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่ทําได้ ถ้าพวกเขาไม่สามารถหลบมันได้
หวังหยู่ก็เดินหลงอยู่ในพื้นที่นี้มานานมากแล้วและรู้ว่ามอนสเตอร์ที่นี่เป็นแมงปองหางแหลมที่มีระดับประมาณระดับ 30 พร้อมกับพลังโจมตีและพลังป้องกันที่สูง ผู้เล่นส่วนใหญ่มีระดับประมาณ 20 ในตอนนี้ ตั้งแต่ที่ทีมนี้สามารถที่จะกําจัดมอนสเตอร์ได้อย่างง่ายดาย พวกเขาก็จะต้องแข็งแกร่งอย่างมาก
“พี่ชาย ทําไมฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนตามพวกเราอยู่กัน?” หญิงสาวในชุดม่วงพิมพ์กับพี่ใหญ่ที่อยู่ข้างเธอ
พี่ใหญ่เหลือบตามองไปด้านหลังของเขาและพูดออกมา “ไร้สาระหน่า นี่มันพื้นที่ระดับ 30 นะ จะมีใครกล้าตามพวกเรามากัน? เธอก็รู้นี่นา…”
“เฮ้ นายมา…”
“เหี้…อะไรวะ!!”
หวังหยู่กระโดดออกมาก่อนที่ชายตัวใหญ่จะพูดเสร็จประโยคและทําให้ทั้งทีมตื่นตระหนก
“นายคือใครกัน?” ทีมนี้เป็นทีมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ หลังจากที่พวกเขาตระหนักได้ว่าหวังหยู่เป็นนักต่อสู้เพียงคนเดียว พวกเขาก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็วและเล็งธนูไปที่เขา
“เอิ่ม…”หวังหยู่พูดไม่ออก เขาเพียงแค่ต้องการที่จะถามทางและก็ไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“ผมเป็นคนที่มาจากเมืองอื่น ผมหลงทางในขณะที่ผมกําลังทําเควสของผมอยู่ครับ..” หวังหยู่ตอบอย่างซื่อสัตย์
“คนนอก?” ชายตัวใหญ่มองไปที่หวังหยู่และพึมพํา “พูดตามตรงนะ ฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย”
เมืองเอลฟ์นั้นเล็กยิ่งกว่าเมืองรัตติกาลเสียอีก ตั้งแต่ที่ผู้เล่นทุกคนอาศัยอยู่บนต้นไม้ ใครก็ตามก็สามารถที่จะจดจําคนอื่นได้ นักต่อสู้เป็นอาชีพที่หาได้ยากในสถานที่นี้ ดังนั้นชายตัวโตจึงสามารถบอกได้ว่าหวังหยู่ไม่ใช่คนแถวนี้
“นายมาทําอะไรที่นี่กัน?” ชายตัวใหญ่ถามอย่างระมัดระวัง
“มาทําเควสหน่ะ…” หวังหยู่ตอบกลับ “นายพาผมไปยังปาวันเดอแลนด์ได้ไหม?”
“ปาวันเดอแลนด์? ที่ไหนกัน?” ทุกคนในทีมต่างสับสน พวกเขาไม่เคยได้ยินสถานที่นี้มาก่อน แม้ว่าจะใช้เวลาอยู่อาศัยในเมืองเอลฟ์มานานมากก็ตาม
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..” หวังหยู่สับสนอีกครั้งหนึ่งและคิดกับตัวเอง “นี่เป็นอาณาเขตของนาย ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกัน ถ้าพวกนายไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อน ราชินีเอลฟ์นี่แม่งโคตรโหดร้ายเลย ให้เควสแบบนี้มากับฉันเนี่ย?”
“ถ้างั้นนายพาผมกลับเมืองได้ไหม?” หวังหยู่อ้อนวอน
หวังหยู่รู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก ยิ่งเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งพูดเป็นธรรมชาติมากแค่นั้น
ทีมนี้ก็เห็นใจหวังหยู่กันทั้งหมดและดูเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจความรู้สึกของหวังหยู่ คนท้อง ถิ่นเหล่านี้ก็เคยหลงมาหลายต่อครั้งด้วยเช่นกัน
“โอเค..” หญิงสาวในชุดม่วงก็กําลังจะตกลง แต่ชายตัวโตปฏิเสธเขา “ไม่ละ พวกเราก็มีเควส ที่จะต้องทําด้วยเช่นกัน!”
“พี่ชาย พี่ทําแบบนี้กับเขาได้ยังไงกัน?..มันน่ากลัวมากเลยนะกับการหลงทางเนี่ย!” หญิงสาวเถียงกลับ
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ เธอลืมเป้าหมายของพวกเราไปแล้วงั้นเหรอ?” ชายตัวใหญ่ตอบกลับอย่างดุร้าย
“เอาหน่า พี่ชาย อย่าทําแบบนี้กับผมเลย ถ้าพี่มีเควสที่ต้องทําก็ทําไป ผมสามารถรอพี่ทํามันให้สําเร็จก่อนก็ได้และหลังจากนั้นก็กลับเมืองพร้อมๆกัน…บางทีผมอาจจะสามารถช่วยพี่ด้วยก็ได้”หวังหยู่อ้อนวอนอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเทียบกับการติดอยู่ที่นี่ หวังหยู่ก็ยินดีที่จะติดตามพวกเขาไปทําเควสด้วยจะดีกว่า หวังหยู่เบื่อพอแล้วกับการติดอยู่ที่ปาประหลาดๆนี้โดยปราศจากอย่างอื่นนอกจากมอนสเตอร์
สําหรับการได้รับการช่วยเหลือ หวังหยู่ก็มั่นใจอย่างมาก
ชายตัวโตก็หยุดและหลังจากนั้นก็ตอบกลับ “การช่วยเหลือมันไม่จําเป็น พวกเราไม่ต้องการให้ใครคนอื่นมาเข้าร่วมทําเควสกับพวกเรา”
“…”หวังหยู่พูดไม่ออก ชายตัวโตไม่ยอมที่จะช่วยเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจะต้องฆ่าตัวตายกลับเมืองจริงๆงั้นเหรอ?
หญิงสาวในชุดเสื้อม่วงพูดแทรกเข้ามา “พี่ชาย พี่ลืมกฏของเมืองพวกเราแล้วงั้นเหรอ? ถ้าพี่ทําแบบนั้นแล้วละก็ทุกคนก็จะรังเกียจพี่นะ…”
“ใช่ ถูกแล้ว…”สมาชิกทีมคนอื่นก็ตกลงด้วยเช่นกัน ชายตัวโตก็หงุดหงิดมาก
เมืองเอลฟ์เป็นสถานที่ที่พิเศษ เมื่อผู้เล่นถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ ทุกคนก็ต่างหลงทางและถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายกลับไปยังเมือง ทุกคนรู้ดีถึงความน่าเศร้ากับการที่หลงทาง ด้วยเหตุนี้นี่เองผู้เล่นจึงตั้งกฏที่ไม่ได้เขียนไว้ขึ้นมาว่าจะต้องช่วยเหลือใครก็ตามที่หลงทาง
พูดให้ชัดๆแล้ว เนื่องจากทุกคนตัดสินใจที่จะช่วยเหลือกันและกัน เมืองเอลฟ์จึงเป็นเมืองที่สงบสุขและสามัคคีกัน มันเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากในเกม ถ้าใครก็ตามกล้าที่จะทําลายบรรยากาศที่สามัคคีนี้ลง ทุกคนก็จะรังเกียจเขา
ชายตัวโตนั้นกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขาด้วยเช่นกันและรู้ดีถึงความสําคัญของมัน เมื่อเห็นน้องสาวของเขาและพี่น้องของเขากําลังรังเกียจเขา เขาก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “พันสีม่วง ให้เข็มทิศกับเขาซะนะ!”
“ทําไมเป็นฉันละ?” หญิงสาวในชุดชมพูถามออกมาอย่างไม่มีความสุข
“เนื่องจากว่าเธอพูดดังที่สุดแล้วในตอนนี้!”
เธอกรอกตาและอุทานออกมา “แต่น้องสาวของนายพูดดังกว่าฉันนะ!”
“เอ่อ นั่นแหละเป็นเหตุผลว่าทําไม เธอเป็นน้องสาวของฉันไง” ชายตัวโตตอบกลับ
“เชี่ยเอ้ย!” หญิงสาวในชุดม่วงจ้องไปที่ชายตัวโตอย่างดุร้ายและก็เดินไปหาหวังหยู่ เธอก็ยื่นวัตถุทรงกลมให้กับเขา
“ชื่อของฉันมีชื่อว่าพันสีม่วงค่ะ” หญิงสาวในชุดชมพูพูด
“ชื่อของผมคือ…”
หวังหยู่กําลังจะตอบชื่อของเขาออกไปอย่างสุภาพ แต่พันสีม่วงพูดขัดเขา “ชื่อนายไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอก กลับไปอย่าลืมส่งเมลล์ตอบกลับฉันด้วยนะ”
“เอิ่ม…”
หวังหยู่เกาหัวและคิดกับตัวเอง “ทีมนี้มีบุคลิกที่หลากหลายจริงๆแหะ…”
ชายตัวโตพูดต่อ “ก็ได้ พร้อมกับเข็มทิศนี้แล้ว นายก็สามารถที่จะไปทําเควสของนายได้แล้วละ…พวกเรา ไปกันเถอะ!” หลังจากนั้นเขาก็พูดกับทีมของเขา
“ขอบคุณ!” หวังหยู่พูดอย่างรู้สึกขอบคุณ
“ยินดีด้วย มันเป็นสิ่งที่พวกเราต้องทํา” หญิงสาวในชุดม่วงยิ้มให้กับหวังหยู่ หลังจากนั้นก็วิ่งกลับไปเข้าร่วมทีมของเธอ
“พี่ชาย ทําไมพี่ถึงให้ไอเทมที่สําคัญกับเขาแทนที่จะให้เขาตามพวกเรามากัน?”หญิงสาวในชุดม่วงถาม
“ชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นคนของกิลด์โดมิเนเตอร์”
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน…เขาที่ดูลุ่มง่ามแบบนั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ?” เธอหัวเราะออกมา
“เขาจะเป็นพวกไก่อ่อนได้ไง ถ้าเขาหลงทางในพื้นที่ระดับ 30?”
“เอิ่ม.จริงด้วย ทําไมพี่ถึงให้เข็มทิศกับเขา ถ้าพี่รู้ว่าเขานั้นน่าสงสัยกันละ?!”
“พวกเธอบังคับให้ฉันต้องให้เขานะสิ!”ชายตัวโตตอบกลับอย่างโกรธเคือง
หลังจากที่ใช้เข็มทิศ ในที่สุดแผนที่ของหวังหยู่และตําแหน่งที่ที่เขาอยู่ก็แสดงขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วเขาก็รู้สักทีว่าเขาอยู่ที่ไหน
เมืองเอลฟ์ตั้งอยู่ทางใต้ที่ที่หวังหยู่อยู่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่เป็นสีน้ำเงิน พื้นที่สีน้ำเงินนั้นแสดงให้เห็นว่าเป็นพื้นที่ของการทําเควส ดังนั้นมันจะต้องเป็นปาวันเดอแลนด์อย่างแน่นอน
หวังหยู่ก็กระตุ้นตัวของเขาและหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่สีน้ำเงิน