MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 293
Chapter 293: จดหมายรับรองของอลิส
[ล้วงกระเป๋า] : สกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป อนุญาตให้ผู้ใช้ขโมยอุปกรณ์เฉพาะของเป้าหมายได้โดยมีโอกาสสําเร็จ 30% มีโอกาสเพิ่มเติม 10% ที่จะสําเร็จ ถ้าเป้าหมายมีระดับที่ต่ํากว่าผู้ใช้ ถ้าระดับของเป้าหมายสูงกว่าผู้ใช้จะลดอัตราความสําเร็จลง 10% จะทําให้ไม่สามารถขยับตัวได้ 1.5 วินาทีถ้าล้มเหลว ความต้องการของอาชีพ : ไม่มี (สกิลนี้ไม่สามารถที่จะใช้งานได้กับเป้าหมายที่ไม่ได้มีรูปร่างมนุษย์)
“ผมรู้ว่ามันเป็น [ล้วงกระเป๋า]!!” หวังหยู่พูดออกมาอย่างตื่นเต้น หลังจากที่ได้รับหนังสือสกิลนี้
ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะดูถูกโยดาสําหรับการขโมยของโดยการใช้สกิลนี้ก็ตามที่ สกิลนี้ก็ทําให้เขารู้สึกว่ามันแข็งแกร่งมาก สําหรับการที่จะถอดอุปกรณ์ของใครบางคนโดยเพียงแค่โบกมือก็เป็นหลักฐานแล้วว่าสกิลนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้นี่เอง หวังหยู่จึงคิดไว้แล้วว่าโยดาจะดรอปหนังสือสกิล [ล้วงกระเป๋า] ในการต่อสู้เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าระบบจะใจกว้างและดรอปสิ่งที่เขาต้องการเช่นนี้
ผู้เล่นในทีมพายุต่างมองไปที่หวังหยู่อย่างอิจฉาในแผงสกิลของโจรใน {REBIRTH} ไม่ได้มีสกิลอย่างเช่น [ล้วงกระเป๋า] แม้กระทั่งอาชีพสาขาลับก็ไม่ได้มีสกิลเช่นนี้
เนื่องจากถูกเรียกว่า “โจร” ทั้งหมดที่อาชีพสามารถทําได้ก็คือการไขกุญแจ แม้กระทั่งอาชีพสาขาอย่าง “มือเทพเจ้า” ก็แค่ไขกุญแจได้ดีกว่าแค่นั้น สกิลอย่าง [ล้วงกระเป๋า] เป็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยกล้าจะคิดถึงมันเลยแม้แต่น้อย
[ล้วงกระเป๋า] เป็นสกิลที่อนุญาตให้ใครก็ตามขโมยไอเทมที่เขาต้องการได้ เพียงแค่เสี่ยงลดค่าประสบการณ์สําหรับการล้มเหลวเพียงแค่เล็กน้อย มันไม่ได้แตกต่างไปจากการแฮคไอดีของคนอื่นโดยตรงสักเท่าไหร่ พร้อมกับสกิลนี้ ไอ้โง่เง่าที่ล้มเหลวก็สามารถที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ดันเจี้ยนลับสมกับชื่อของมันจริงๆ แม้กระทั่งบอสเริ่มต้นก็สามารถที่จะดรอปบางสิ่งบางอย่างอย่าง [ล้วงกระเป๋า] ได้ ไม่ต้องพูดถึงไอเทมระดับพระเจ้าชิ้นต่อไปของบอสตัวต่อมาที่จะดรอปได้เลย
หวังหยู่ก็เหลือบตามองไปที่หนังสือสกิลอยู่หลายรอบและเริ่มที่จะมองหาของดรอปจากร่างของโยดาต่อไป
ทีมพายุก็ไม่กล้าที่จะบ่นหวังหยู่ในการเก็บหนังสือสกิลไป ถ้าไม่มีหวังหยู่แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทําเควสได้สําเร็จและไม่ต้องพูดถึงการที่จะได้รับอุปกรณ์ของพวกเขาคืนได้เลย พวกเขาก็รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขาดี
ไอเทมชิ้นสุดท้ายเป็นไอเทมเควสที่ถูกเรียกว่า “จดหมายรับรองของราชินีเอลฟ์” มันไม่ได้มีคําอธิบายในการใช้มัน ดังนั้นหวังหยู่จึงเก็บมันไว้กับตัวเอง
หลังจากที่เขาทํามันเสร็จ หวังหยู่ก็จ้องไปที่บอสโยดาอย่างดุร้าย สําหรับการเป็นบอส มันก็ดรอปไอเทมที่มีค่าเพียงชิ้นเดียว โยดามันงกอย่างมาก
อย่างไรก็ตามจากการจัดตั้งของระบบ บอสของดันเจี้ยนลับจะดรอปอุปกรณ์ทั้งหมดที่พวกมันมีและมันก็มีการตั้งระบบไว้ป้องกันพวกผู้เล่นโรคจิตอย่างหวังหยู่ที่จะปล้นอุปกรณ์ของบอสไปตรงๆ ด้วยเหตุนี้ อุปกรณ์ที่ปล้นมาจากบอสก็จะไม่มีคุณสมบัติและไม่สามารถที่จะใช้งานได้
ตั้งแต่ที่เขาเป็นแกะดําอยู่เสมอๆในฝูงแกะ ระบบก็ได้ป้องกันผู้เล่นอย่างหวังหยู่ไม่ให้ทําสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ถ้าหวังหยู่ไม่เอาอาวุธจากโยดาด้วยกําลังไปสองเล่มแล้วละก็ เขาก็จะได้รับอุปกรณ์ระดับทองจากร่างของโยดามากกว่านี้สองชิ้น
แต่การที่ไม่รู้ก็ไม่ได้ทําให้หวังหยู่โศกเศร้าอะไร แต่ถ้าเขารู้เกี่ยวกับระบบที่ถูกตั้งค่าไว้แล้วละก็เขาก็คงเสียใจจากการกระทําของเขา
หลังจากโยดาถูกสังหาร เควสของทีมพายุก็เสร็จสิ้น
เพื่อที่จะขอบคุณการช่วยเหลือของหวังหยู่ พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะช่วยหวังหยู่ทําภารกิจของเขาด้วยเช่นกัน
หวังหยู่ต้องการบอกพวกเขาว่าพวกเขาจะกลายเป็นภาระกับเขา แต่มันก็เป็นการไม่ดีสําหรับเขา หวังหยู่ก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องรับการช่วยเหลือจากพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อทั้งกลุ่มเข้าไปในหมู่บ้านของปาวันเดอแลนด์ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาเข้ามาในอีกโลกใบหนึ่ง
หมู่บ้านนี้ทั้งกว้างขวางและถูกปกคลุมไปด้วยแสงอาทิตย์ มันสวยงามยิ่งกว่าต้นไม้ของเอลฟ์เสียอีก ที่ที่ซึ่งเป็นพวกคนที่หยิ่งยโสอาศัยอยู่
พืชอันเขียวขจีที่งดงาม กลีบดอกไม้ที่ลอยไปตามลมและแมลงที่มีชีวิตชีวาทําให้หมู่บ้านดูสดใสและเต็มไปด้วยพลังงาน
ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านต่างเป็นโนมส์กันทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่น่าสับสนที่ NPC ในหมู่บ้านปรากฏเป็นประชาชนธรรมดาทั่วไป มันหมายความว่าผู้ที่อยู่อาศัยเหล่านี้ต่างไม่ได้เป็นมอนสเตอร์และไม่สามารถที่จะถูกโจมตีได้
หลังจากที่เดินไปรอบๆหมู่บ้านและไม่พบกับมอนสเตอร์ตัวไหนเลย หวังหยู่ก็จับไปที่โมส์และถามออกมา “คุณรู้ที่อยู่ของราชาโกเลมหินไหมครับ?”
โนมส์ตนนั้นเหลือบมองไปที่หวังหยู่และตอบกลับมาด้วยเสียงแบบเดียว “นายสามารถที่จะไปถามหัวหน้าหมู่บ้านคารอนได้นะ เขาเป็นคนที่มีความรู้มากที่สุดในที่แห่งนี้เลยละ”
“หัวหน้าหมู่บ้านอยู่ไหนกันครับ?”
“ตรงศูนย์กลางของหมู่บ้าน”
“พวกนายเป็นประชาชนโนมส์ธรรมดากันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ?” พายุพูดขัดการสนทนาของพวกเขาและถามออกมา เขาไม่พึงพอใจที่ดันเจี้ยนลับที่หาได้ยากนั้นจะเต็มไปด้วย NPC ที่เขาไม่สามารถฆ่าได้
โนมส์ตนนั้นก็มองไปที่พายุเหมือนกับกําลังมองไปที่พวกโง่เง่าและพูดซ้ํา “นายสามารถที่จะไปถามหัวหน้าหมู่บ้านได้”
มันเหมือนกับว่าพวกเขาต่างเป็น NPC ธรรมดาทั่วไปโดยปราศจากสติปัญญาใดๆ ทั้งกลุ่มก็ไม่ได้มีทางเลือก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปล่อยโนมส์ไปและก็มุ่งตรงไปยังส่วนกลางของหมู่บ้าน
ส่วนกลางของหมู่บ้านนั้นเหมือนกับถนนหลักของเมืองรัตติกาล มันเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยการค้าและเต็มไปด้วยโนมส์พ่อค้าที่พยายามขายสินค้าของพวกเขา
“ดูสิ นายอาจจะต้องการ…”
“เผ่าโนมส์ที่ยอดเยี่ยมนั้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
เสียงของพ่อค้าที่พยายามโฆษณาไอเทมของพวกดังออกมาอย่างต่อเนื่อง หวังหยู่และคนที่เหลือก็เดินมาด้านไปหาโนมส์เฒ่าที่สวมชุดคลุมและถือคทาอยู่
“คุณคือหัวหน้าหมู่บ้านคารอนใช่ไหม?”หวังหยู่ถาม
“สวัสดี คนต่างถิ่น ฉันได้กลิ่นคนของพวกเราอยู่ในตัวของท่าน..”คารอนพูดออกมาอย่างช้าๆ
หวังหยู่พึ่งจะสังหารบอสโนมส์ไป ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
“ท่านเห็นโยดาบ้างไหม?”คารอนถามออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“เอิ่ม ใครคือโยดากันครับ…” หวังหยู่แกล้งโง่
ถ้าเขายอมรับว่าเขาเห็นโยดาแล้วละก็มันจะทําให้เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดอย่างมาก
“โยดาเป็นโนมส์อัจฉริยะและเป็นหนึ่งในแปดผู้เฒ่าของพวกเรา….”คารอนพูดอย่างช้าๆ
“ไม่ละ ผมไม่เคยเห็นเขามาก่อน!” หวังหยู่ส่ายหัวรัวๆ เขาพูดออกมาในหัวของเขาและปลอบประโลมตัวของเขาเอง “พวกเขาเป็นโนมส์ ไม่ใช่มนุษย์ มันเป็นเรื่องที่โอเคดีที่จะโกหกพวกเขา…”
“เฮ้อ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่โยดาทรยศพวกเราไป ฉันได้ยินมาว่าเขาได้ก่ออาชญากรรมในเมืองเอลฟ์โดยการขโมยจดหมายรับรองของราชินีเอลฟ์อลิสที่เขียนมันมาให้กับฉัน เขากําลังเดินเล่นอยู่รอบๆป่าวันเดอแลนด์อย่างแน่นอน ถ้าท่านพบเขาแล้วละก็ ท่านสามารถที่จะนําจดหมายคืนมาได้ไหม?”คารอนพูดต่อ “โยดาเป็นคนดี ฉันมั่นใจได้เลยว่าเขาแค่ขโมยจดหมายมาเพราะว่าเขาต้องการที่จะทดแทนบุญคุณกับการช่วยพวกเรา…”
“เขาไม่ได้เป็นคนแย่เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่โรคจิตมากเกินไปแค่นั้นเอง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เขาจากไปแล้ว” หวังหยู่พิมพ์
“ท่านพูดว่าอะไรนะ?”คารอนเป็นคนที่ได้ยินเสียงที่ดี แม้ว่าจะอายุเท่านี้ก็ตามที เขาก็ได้ยินสิ่งที่หวังหยู่พูดและจ้องไปที่เขาตรงๆ
หวังหยู่หยุดคิดและพูดออกมา “เอิ่ม…ผมหมายถึงว่า ผมไม่ได้เห็นโยดา แต่ผมมีจุด หมายรับรองนั่น…”