MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 296
Chapter 296: นักดาบผู้เชี่ยวชาญ ก็อบลินทอง
หลังจากที่เก็บหอกเหล่านั้นไปแล้ว ทีมนี้ก็ถามหวังหยู่ออกมาอย่างตื่นเต้น“พี่กระทิง พี่จะไปเก็บของดรอปจากมอนสเตอร์งั้นเหรอ?”
“พวกนายไปเก็บมันได้เลย…”หวังหยู่โบกมือของเขา
หวังหยู่ไม่ได้นิสัยในการเก็บของดรอปจากลูกสมุน ไม่ต้องพูดถึงว่าของดรอปจะมีอุปกรณ์ธรรมดาทั่วไปที่เขาไม่สนใจมัน ตั้งแต่ที่ทีมพายุมาช่วยเขา เขาก็ตัดสินใจที่จะให้พวกเขาได้มันไป
หวังหยู่ไม่ใช่คนขี้เหนียว นอกจากนี้กระเป๋าของหวังหยู่ก็ไม่ได้เหลือช่องมากสักเท่าไหร่หลังจากที่ซื้อของในร้านค้าจนเกลี้ยง ถ้าเขาเก็บอุปกรณ์ขยะเหล่านี้มาแล้วละก็ เขาก็อาจจะไม่มีช่องพอในการเก็บของดรอปจากบอสในภายหลัง
พร้อมกับคําอนุญาตของหวังหยู่แล้ว นักธนูก็รีบเก็บของดรอปมอนสเตอร์ที่เขาสังหารไปและก็ได้รับขวานมาเพิ่มอีสี่เล่มและหอกมาอีกจํานวนมาก
“ดันเจี้ยนลับมีอัตราดรอปที่สูงจริงๆด้วย!”ทั้งทีมประหลาดใจ
อัตราดรอปของมอนสเตอร์ในพื้นที่เก็บระดับธรรมดาทั่วไปนั้นน้อยมาก นอกจากไอเทมเควสแล้วพวกมันแทบจะไม่ดรอปอย่างอื่นออกมาอีกเลย แม้กระทั่งดันเจี้ยนโหมดนรกก็ตามทีอัตราดรอปของอุปกรณ์ก็เรียกว่าดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามอัตราดรอปในปาวันเดอแลนด์นั้นมีอัตราดรอป 100% อย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
หลังจากที่พวกเขาเก็บอุปกรณ์ดรอปไปแล้ว ทีมนี้ก็เดินทางตามเส้นทางต่อ หลังจากที่ผ่านลูกสมุนไปสามกลุ่มแล้ว ตัวตนสีทองที่ถือโล่และดาบก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้
มอนสเตอร์ตัวนี้ตัวเล็กและเล็กยิ่งกว่าโนมส์ที่ลุ่มหลงเสียอีก แต่รูปลักษณ์ของมันทําให้ดูแข็งแกร่ง เขาถูกสร้างขึ้นมาจากทองล้วนๆตั้งแต่หัวจรดตีน ออร่าสีทองนั้นสว่างมากเกินไปสําหรับกลุ่มหวังหยู่ที่จะมองเขาตรงๆ แม้แต่ดาบและโล่ของเขาก็ถูกสร้างขึ้นมาจากทองบริสุทธิ์ รูปลักษณ์ของเขานั้นดูดีกว่าโยดาอย่างมาก
(ก็อบลินทองเลเกอร์ (ระดับ35)(ทอง)(ชั้นยอด)
พลังชีวิต : 300,000
มานา : 20,000
สกิล : [ฟันสามจุด] เฟ้นรูปกากบาท]โฟาดโล่สวนกลับ]
สถานะ : ถูกกระตุ้น (ความเร็วเพิ่มขึ้น 400%)
คําอธิบายมอนสเตอร์ : เลเกอร์เคยเป็นหนึ่งในก็อบลินนักดาบผู้เชี่ยวชาญ ในการตามล่าหาความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะมาเป็นลูกน้องของเทพยดา สาวกที่เจ็ด ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่สามารถที่จะวัดได้
เมื่อทั้งกลุ่มเห็นค่าสถานะของเลเกอร์ พวกเขาก็หัวเราะออกมากันทั้งหมด “ฮ่าๆ พวกเราไม่สามารถที่จะบอกได้เลยว่าชายคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจ” พวกเขาต่างคุ้นเคยกับก็อบบลินธรรมดาทั่วไปที่สกปรกและน่าขํา มันเป็นภาพที่สดใหม่สําหรับพวกเขาที่เห็นก็อบลินที่ดูแข็งแกร่งเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ก็อบลินเป็นตัวตนสําหรับผู้ที่อ่อนแอ แม้กระทั่งบอสก็อบลินก็จะไม่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
“ฉันจะจับพวกที่น่ารังเกียจอย่างพวกนายให้กลายเป็นทาสกันทั้งหมด จิตวิญญาณของพวกโสมมจะกลายมาเป็นทาสของท่านสาวก!”
จากการแสดงออกของก็อบลินทองแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะบอกได้ว่ามอนสเตอร์ที่พวก เขาสังหารมานั้นเป็นลูกน้องของมัน ก็อบลินทองก็ซ่อนดาบไว้ด้านหลังโล่และพุ่งเข้าใส่พวกหวังหยู่
ในชั่วพริบตา เลเกอร์ก็อยู่ด้านข้างพันสีม่วงแล้วและดาบของเลเกอร์ก็ตัดผ่านอากาศและเธอก็ตายลง
“เหี้อะไรวะนั่น!! มันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ!!”
ทั้งกลุ่มตกตะลึง เมื่อพวกเขาเห็นหนึ่งในทีมของพวกเขาหายไปและก็ได้รับข้อความมาว่าพันสีม่วงถูกสังหาร
เมื่อเป็นนักบวช พันสีม่วงก็ยืนอยู่ด้านหลังของเพื่อนพ้องอยู่เสมอๆ อย่างไรก็ตามก็อบลินทองนั้นอยู่ห่างจากด้านหน้าของทั้งทีมอย่างน้อยก็สิบเมตร การที่จะเคลื่อนย้าย สิบเมตรได้ในชั่วพริบตานั้นเกือบจะเหมือนกับการเป็นเทเลพอร์ตยังไงยังงั้น
ในขณะที่ทุกคนกําลังมึนงงอยู่ เลเกอร์ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อก็อบลินสว่างวาบในสายตาของพวกเขาสามครั้ง พันสีไวโอเล็ตและนักฆ่าที่อยู่ข้างเธอก็ถูกสังหารกันทั้งคู่
พายุที่ยืนอยู่ด้านข้างพันสีไวโอเล็ตก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องโชคดีที่เขาเป็นแท็งค์ ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกจัดการโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามเขาก็ได้รับบาดเจ็บหนักพลังชีวิตของเขาหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งจากการโดนโจมตีเพียงครั้งเดียวพายุก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน เลเกอร์ก็เหวี่ยงดาบและลําแสงก็ตัดผ่านเป็นรูปกากบาทและสังหารนักฆ่าอีกสองคนไปในทันที
หวังหยู่ก็ตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ “ใจเย็นก่อนและอยู่ใกล้กับผมไว้!” ก็อบลินเป็นบอสประเภทคล่องแคล่วเหมือนกับโนมส์ แต่เลเกอร์นั้นเป็นบอสจึงมีค่าสถานะที่สูงกว่าพวกลูกสมุนอยู่แล้วพร้อมกับค่าสถานะที่ได้รับการเพิ่มขึ้นไปอีก 4009% มันก็ไม่มีทางที่ผู้เล่นจะสามารถตามมันได้ทัน
ถ้าทีมพายุถูกตั้งขึ้นมาด้วยอาชีพอื่นแล้วละก็ มันคงเป็นเรื่องปกติดี ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มของแท็งค์ที่ปกป้องนักบวชเพียงคนเดียว พวกเขาก็สามารถที่จะจัดการลดพลังชีวิตของบอสได้โดยไม่ต้องเคลื่อนไหวใดๆ หมอผีก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายดาย พวกเขาก็สามารถที่จะจับก็อบลินทองได้โดย[บาเรียแห่งความมืด]
อย่างไรก็ตามทีมพายุเต็มไปด้วยอาชีพที่มีพลังชีวิตระดับต่ําและไม่มีสกิลที่ทําให้เกิดสถานะผิดปกติแล้วละก็ มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายสําหรับบอสที่จะสังหารพวกเขาทิ้งทั้งหมด
มันเป็นธรรมเนียมที่จะรับฟังคําสั่งจากผู้เล่นที่ดีกว่าในเกม โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าหวังหยู่นั้นเป็นดั่งแกนนําของคนที่เหลือ
พร้อมกับคําสั่งของเขา คนที่เหลือของทีมพายุก็มายืนอยู่ด้านของหวังหยู่อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทําได้
หลังจากที่ป้องกันพายุและคนที่เหลือที่อยู่ด้านหลังของเขาแล้วหวังหยู่ก็จ้องไปที่ก็อบลินทอง และมองการเคลื่อนไหวของมัน
ก็อบลินทองก็หัวเราะออกมาและพุ่งเข้าใส่พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
ในศิลปะการต่อสู้ มันมีสิ่งที่พูดกันว่า “ความเร็วคืออาวุธที่ดีที่สุด”เมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในการ ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หวังหยู่ก็ฝึกฝนปฏิกิริยาความเร็วและสายตาของเขาตั้งแต่ยังเด็ก
เมื่อหวังหยู่และน้องชายของเขา หวังเฟยฝึกฝนสายตาของพวกเขาพ่อของพวกเขาก็จะแขวนแมลงวันไว้ด้านหน้าพวกเขาและให้พวกเขานับจํานวนที่แมลงวันกระพือปีก หวังหยู่ก็ตอบผิดอยู่เสมอๆ แต่หวังเฟยที่เป็นน้องชายของเขาก็ตอบถูกอยู่ตลอด หวังหยู่ก็สับสนและถามหวังเฟยเกี่ยว กับเรื่องนี้และก็พบว่าหวังเฟยได้ทําการค้นคว้าเกี่ยวกับการกระพือปีกของแมลงวันว่ากระพือปีกบ่ อยครั้งแค่ไหน
แต่เขาก็ไม่เหมือนกับหวังเฟย หวังหยู่เป็นชายที่ดื้อรั้น เมื่อเขาเติบโตขึ้น ในที่สุดเขาก็สามารถที่จะมองเห็นได้ว่าแมลงวันกระพือปีกได้รวดเร็วขนาดไหน แต่หลังจากนั้นพ่อของเขาก็บอกกับเขาว่าเขาก็รู้จํานวนของมันจากการค้นคว้าบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน หวังหยู่ก็รู้สึกหงุดหงิดไปเป็นเวลานาน
ถึงแม้ว่าเขาจะถูกหลอกมาเป็นเวลานานก็ตามที หวังหยู่ก็ได้ฝึกฝนสายตาของเขาและปฏิกิริยาความเร็วของเขามาจนถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อ
สําหรับทีมพายุแล้ว ก็อบลินทองเหมือนกับเป็นแสงสว่างวาบสีทอง แต่หวังหยู่สามารถที่จะมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนและรู้ถึงสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้น
“อยู่ที่นี้นี่เอง!!” หวังหยู่ตะโกนออกมาและแทงพลองยาวของเขาไป
ในขณะที่คนที่เหลือยังสับสนเกี่ยวกับการกระทําอันแปลกประหลาดของหวังหยู่ มันก็มีเสียง“ปีก” เกิดขึ้น พลองยาวของหวังหยู่ก็กระแทกเข้ากับโล่ของก็อบลินทองอย่างแม่นยํา
ก็อบลินทองก็แทงหวังหยู่ด้วยดาบเกือบจะพร้อมกัน
หวังหยู่ก็บิดพลองยาวและเปลี่ยนทิศทางของดาบก็อบลินไป เนื่องจากแรงเฉื่อยนั้นทําให้ร่างของก็อบลินทองบิดตัวและมันก็แทงเข้าใส่พายุที่กําลังดูการต่อสู้อยู่ด้านข้างของหวังหยู่
“เดี๋” พายุยังพูดไม่จบประโยค ก่อนที่เขาจะตายไป