MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 297
Chapter 297: วิธีการสวนกลับที่ดีที่สุดในการเจอกับบอสที่มีความคล่องแคล่วก็คือการหยุดการเคลื่อนไหวของมัน
มันมีคำพูดที่พูดกันในเกมที่ว่า “ถ้านายกำลังจะตายก็อย่าไปยืนในตำแหน่งที่มันอันตราย”
พายุที่น่าเศร้าไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนและก็โดนลูกหลงจนตายไป
ถึงแม้ว่านักบวชจะตายไปแล้ว พายุก็ยังมียาฟื้นฟูอยู่ แต่เขาต้องการที่จะประหยัดเงินจำนวนเล็กน้อยนั่นและสุดท้ายก็จบลงด้วยความตาย
คนที่เหลืออยู่ด้านหลังของทีมพายุรีบยืนอยู่ห่างจากด้านหลังของหวังหยู่ในทันที หลังจากที่เห็นดาบที่ปัดมาจากหวังหยู่ไปฆ่าพายุตาย พวกเขาก็หวาดกลัวว่าพวกเขาจะเป็นรายต่อไปที่จะตาย
ในเชิงดาบแล้ว แม้กระทั่งก็อบลินทองร้อยตัวก็ไม่สามารถที่จะเทียบกับหวังหยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ก็อบลินทองนั้นรวดเร็วมากและโจมตีหวังหยู่ในหลายต่อหลายต่อตำแหน่ง แม้กระทั่งหวังหยู่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรกับมันได้เลย
ดาบของก็อบลินทองเป็นกระบี่สไตล์ตะวันตกที่มีหน้าที่หลักในการแทง มันก็แทงเข้ามาที่เป้าของหวังหยู่ด้วยความเร็วสูง
หวังหยู่นั้นช้ากว่าก็อบลินทอง ดังนั้นเขาสามารถที่จะโฟกัสในการป้องกันได้ คนที่เหลือก็สามารถที่จะได้ยินเสียงของอาวุธที่ปะทะเข้าหากัน แต่ก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย โชคดีที่หวังหยู่นั้นเก่งกาจในด้านเชิงดาบควบคู่ไปกับการเคลื่อนที่แขนได้อย่างรวดเร็ว เขาก็สามารถที่จะป้องกันเป้าของเขาจากการโดนทำร้ายได้
“เฮ้ พวกนายไม่สามารถจะช่วยอะไรผมได้เลยงั้นเหรอ?”
หวังหยู่สามารถที่จะทำได้แค่ป้องกันตัวเอง เนื่องจากว่ามันจะเปิดมุม ถ้าเขาตอบโต้ ควบคู่ไปกับความเร็วของก็อบลินทอง เขาก็จะโดนมันดีแน่นอน ถ้าเขาต้องการที่จะตอบโต้กลับไป
อย่างไรก็ตาม การป้องกันของหวังหยู่นั้นไม่มีที่ติและมันไม่จำเป็นต้องใช้ความสนใจของเขาทั้งหมดไปที่มัน ด้วยเหตุนี้นี่เอง หวังหยู่จึงสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้
“เนื้อะไรวะเนี่ย…” ชายทั้งสี่คนไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากนับถือในตัวของหวังหยู่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหวังหยู่กำลังคุยกับพวกเขาอยู่ในตอนที่สู้กับบอสตัวต่อตัวเช่นนี้
“มันเร็วเกินไป พวกเราไม่สามารถที่จะยิงมันได้อย่างแม่นยำ” ลมหมุนพูดออกมาหลังจากที่พยายามเล็งธนูไปที่บอสมาเป็นเวลานาน
คนธรรมดาอย่างพวกเขาไม่กล้าที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ตรงๆ ถึงแม้ว่าการต่อสู้นี้จะไม่ได้น่าดึงดูดก็ตามที แต่ภาพที่พวกเขาเห็นมันน่าหวาดกลัวอย่างมาก ความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถที่จะทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตายแล้ว นักฆ่าก็ยิ่งไม่กล้าช่วยต่อสู้ตรงๆอีกด้วยเช่นกัน ดังนั้นมีเพียงแค่นักธนูที่สามารถช่วยเหลือหวังหยู่ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นนั้นก็คือภาพติดตาของก็อบลินทองเพียงเท่านั้น ถ้าพวกเขายิงมันอย่างไม่ระมัดระวังแล้วละก็ หวังหยู่อาจจะได้รับการบาดเจ็บก็เป็นได้
“คูลดาวน์ของสกิลนี้จะหมดลงในไม่ช้า รอช่วงเวลาที่มันใช้สกิลโจมตีและโจมตีมันด้วยสกิลที่มีคุณสมบัติผูกมัดกับมัน!” หวังหยู่แนะนำนักธนูทั้งสองคน
ทั้งสี่คนก็ประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักธนูคนไหนก็จะหวาดกลัวกับช่วงเวลาที่คูลดาวน์ของบอสหมดลงมากที่สุด แต่หวังหยู่กำลังรอช่วงเวลาที่บอสกำลังใช้สกิลอยู่ มันเป็นการคาดเดาว่าความคิดของผู้เชี่ยวชาญนั้นแตกต่างไปจากผู้เล่นธรรมดาทั่วไป
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ สำหรับผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อย่างหวังหยู่แล้ว การโจมตีธรรมดาทั่วไปจากบอสเป็นเรื่องยากที่สุดในการจัดการด้วย ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับโหมดของบอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบอสที่เป็นพวกคล่องแคล่วอย่างก็อบลินทอง ถึงแม้ว่าการโจมตีของมันจะเหมือนเดิมอยู่ตลอด แต่ความเร็วการโจมตีของมันเพียงอย่างเดียวก็เป็นเรื่องยากแล้วที่จะจัดการด้วย
ในอีกทางหนึ่ง ท่าทางการร่ายสกิลของมัน เมื่อมันใช้สกิลและช่วงเวลาที่ขยับตัวไม่ได้ หลังจากที่ร่ายสกิลเป็นช่องว่างที่ใหญ่ที่สุด
หวังหยู่ถูกสอนมาโดยตลอดตั้งแต่ยังเยาว์วัยว่า หลังจากที่มันเกิดช่องว่างขึ้นจะต้องจัดการกับคู่ต่อสู้โดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว บอสในเกมนี้มีพลังชีวิตหลายแสนหน่วย ดังนั้นเขาไม่สามารถที่จะฆ่ามันโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถที่จะหาจุดอ่อนในการโจมตีหรือการยับยั้งบอสไว้ได้
หลังจากแลกเปลี่ยนการโจมตีอีกครั้งหนึ่ง ก็อบลินทองก็กระโดดถอยหลังอย่างฉับพลันและก็พุ่งเข้าใส่หวังหยู่พร้อมกับเงาสีทอง
หวังหยู่เหล่ตาและก็ฝักดาบไว้ที่ด้านหลังของเขา พร้อมกับเสียง “บิ๊ก” ก็อบลินทองก็ล้มเหลวในการโจมตีหวังหยู่ หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนมาที่ตำแหน่งด้านหลังของหวังหยู่ เพื่อที่จะลอบโจมที่ด้านหลังของเขา อย่างไรก็ตาม หวังหยู่ก็ได้ป้องกันหลังของเขาด้วยฝักดาบแล้ว
หลังจากนั้นก็เกิดเสียงเสียง “ปีก” ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หวังหยู่ก็หันกลับไปและฟันตัดกันเป็นรูปกากบาทด้วยดาบและฝักดาบของเขา
“ปัง!”
ดาบของก็อบลินทองก็กระแทกเข้าระหว่างดาบและฝักดาบของหวังหยู่ [ฟันสามจุด] ของมันก็ถูกหยุดลง
เขาก็ใช้โอกาสนี้ หวังหยู่ก็เคลื่อนย้ายตัวไปด้านหลังของก็อบลินทองและฟันไปที่ลำคอของมันเขาก็ทำความเสียหายมากกว่า 10,000 หน่วยด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หวังหยู่ก็ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน “ยิ่งมันซะ!”
ก่อนที่เขาจะพูดเสร็จ ลูกธนูสองดอกก็ยิ่งเข้าไปที่หน้าอกของก็อบลินทองแล้ว แสงสีเขียวก็สว่างวาบขึ้นและมันก็ถูกผูกมัด
เนื่องจากว่าการต้านทานธรรมชาติของบอสระหว่างสกิลควบคุมสถานะผิดปกติ ลูกธนูก็สามารถที่จะผูกมัดมอนสเตอร์ได้ 1.5 วินาที แต่มันส่งผลกระทบกับแค่ก็อบลินทองแค่ 0.5 วินาที ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงมีเวลาที่มากเกินพอสำหรับหวังหยู่
อาวุธของหวังหยู่ก็เปลี่ยนกลับเป็นอาวุธประเภทถุงมือ เขาก็บีบคอของก็อบลินทองด้วยแรงทั้งหมดและใช้ [ขย้ำอันรุนแรง] ทุ่มมันลงไปบนพื้น
นักต่อสู้มีสกิลที่ทำให้เกิดสถานะผิดปกติสองสกิลก็คือ [จบ] และ [หมัดเสย] [หมัดเสย] เป็นเรื่องง่ายดายที่จะฟื้นตัว ตั้งแต่ที่บอสประเภทคล่องแคล่วมีโอกาสสูงที่จะฟื้นตัวได้ หวังหยู่ก็ใช้ [จับ] ลากมันลงไปบนพื้น
บอสตัวนี้มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่สุดในการฟื้นตัวจากการถูกทุ่มลงไปบนพื้น อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีผลกระทบอย่างล้มลงน็อคลงไปบนพื้นใน {REBIRTH} เพื่อที่จะทำแบบนั้นได้แล้วละก็จะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่นล้วนๆ หวังหยู่เป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้บอสล้มน็อคลงไปบนพื้นได้ด้วยวิธีอะไรก็ตามที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม ก็อบลินทองได้รับความเร็วเพิ่มขึ้น 400% หลังจากที่มันถูกล้มลงไปบนพื้น มันก็พยายามที่จะลุกขึ้นโดยการใช้ดาบเป็นตัวค้ำ
หวังหยู่ก็จับไปที่ขาของมันในทันทีและใช้ [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำ] หลังจากนั้นเขาก็บิดแขนของมันและพลิกตัวมันแล้วเขาก็กดลงไปบนมันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งและใบหน้าของก็อบลินกระแทกลงไปกับพื้น
“แทงมันซะ!” หวังหยู่ตะโกนออกมาอีกครั้งหนึ่ง นักฆ่าสองคนก็รีบแทงลงไปที่ด้านหลังหัวของมันอย่างรุนแรง หลังจากนั้นพวกเขาก็แทงลงไปที่มันอย่างต่อเนื่อง
เหตุผลเดียวที่ก็อบลินทองเป็นเรื่องยากที่จะจัดการด้วยก็คือความเร็วของมัน ในตอนนี้มันถูกกักขังโดยหวังหยู่แล้ว มันก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีได้อีกต่อไป
ก็อบลินทองไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ ดังนั้นมันก็ดิ้นรนอย่างยากลำบาก ภายใต้การกักขังของหวังหยู่ การโจมตีของพวกเขาก็ซัดเข้าใส่หลังของมันอย่างต่อเนื่อง
ใน {REBIRTH} มันมีโบสนัสความเสียหายจากการโจมตีหลัง นักฆ่าก็ยิ่งโจมตีได้รุนแรงกว่าคนที่เหลือ การโจมตีด้านหลังของมอนสเตอร์ต่างเป็นความใฝ่ฝันของนักฆ่าทุกคน ในวันนี้ ความฝันก็กลับกลายเป็นจริงสำหรับนักฆ่าทั้งสองคนจากทีมพายุ
พลังชีวิต 300,000 หน่วยไม่ได้มากสักเท่าไหร่ ภายใต้การยับยั้งของหวังหยู่ อีกสี่คนที่เหลือก็สามารถที่จะทำความเสียหายได้อย่างอิสระ หลังจากผ่านไปสักครู่หนึ่ง ก็อบลินทองก็ตายลงในที่สุด