MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 307
Chapter 307: พี่สะใภ้สุดสวย
ดาบน้ําแข็งสมกับเป็นนักธุรกิจจริงๆ เขาสามารถที่จะติดต่อคนอื่นและจัดการการเดินทางของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันต่อมาทุกคนก็ได้มาถึง
หยางหัวได้จ้างรถยนต์เมอซีเดสห้าประตูมารับพวกเขาทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างสําหรับเจ้าของบ้าน
โบซอนและดาบน้ําแข็งต่างอาศัยอยู่ในเมืองหลวงซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองไอ ขุนนางครอทนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณส่วนกลางซึ่งใกล้กว่าโบซอนและดาบน้ําแข็ง หมิง ความทระนงตัวรัศมีฤดูใบไม้ผลิและดาบน้ําแข็งต่างอาศัยกันอยู่ไกลกว่านั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้มาถึงเมืองไอในเวลาไม่กี่ชั่วโมงโดยการนั่งเครื่องบินซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีของประเทศชาติ
หน้าตาของทุกคนในชีวิตจริงต่างคล้ายคลึงกับรูปร่างในเกม บรรยากาศของความแปลกประหลาดของแต่ละคนนั้นเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถดูถูกได้เลย หวังหยู่ก็จดจําพวกเขาได้ทั้งหมดจากเพียงแค่กวาดสายตามองไป
ไร้ความกลัวเป็นชายที่สูง หล่อเหลาและดูเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดเลยว่าเขานั้นอยู่ในแวดวงของการศึกษา
ในอีกทางหนึ่งโบซอนก็ดูเหมือนกับพวกเด็กเนิร์ดธรรมดาทั่วไป ถึงแม้ว่าไร้ความกลัวและโบซอนจะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง ภาพลักษณ์ของพวกเขาก็แตกต่างกันอย่างลิบลับทุกคนก็สามารถที่จะบอกได้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันอยู่ดี
ดาบน้ําแข็งนั้นกําลังสวมชุดสูทอยู่และเขาก็ดูเต็มไปด้วยพลังงานเหมือนกับชายที่ประสบความสําเร็จ วิธีที่เขาพูดนั้นมีระดับ ดังนั้นเขาก็น่าจะเป็นนักธุรกิจในชีวิตจริงด้วยเช่นกัน
การแต่งตัวของรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ไม่เหมือนใคร เขานั้นสวมรองเท้าแตะเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปอย่างไรก็ตามดาบน้ําแข็งได้บอกกับหวังหยู่ว่าที่จริงแล้วเขาเป็นวิศวกร
นั่นทําให้หวังหยู่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาทั่วไปและวิศวกรนั้นเหมือนกับความแตกต่างระหว่างไร้ความกลัวโบซอน เขานั้นประหลาดใจที่นิกายซวนเฉินต่างรวบรวมพวกประหลาดเหล่านี้ไว้ได้
ขุนนางครอทในชีวิตจริงนั้นเตี้ยกว่าในเกม แต่เขานั้นเต็มไปด้วยมัดกล้าม หวังหยู่ก็พบว่าพวกเขานั้นมีความคล้ายคลึงกันเล็กน้อยระหว่างพวกเขา
ความทระนงตัวและหมิงคู่ต่างสวมชุดเหมือนกับเด็กนักเรียน อย่างไรก็ตามความทระนงตัวนั้นดูเป็นเด็กน้อยที่หล่อเหลาที่เหมือนกับนักเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่หมิงคู่นั้นเหมือนกับนักศึกษาที่พึ่งจบ
หมิงตูและขุนนางครอทมีความสูงที่เท่ากัน แต่หมิงคู่นั้นมีผิวที่คล้ํากว่าและรอยยิ้มอันชั่วร้ายของเขานั้นทําให้ใครก็ตามที่อยู่ไกลออกไปสามารถรับรู้ได้ว่าเขาเป็นพวกโรคจิตโดยปราศจากชุดที่ เหมือนกับนักศึกษาแบบนั้น เขาก็ดูไม่ได้แตกต่างไปจากพวกอันธพาลข้างถนนเลยถ้าเขานั้นเต็มไปด้วยรอยสัก
สมาชิกดั้งเดิมทั้งหกคนของนิกายซวนเฉินต่างเคยพบกันมาก่อนและก็เริ่มจะวุ่นวายไปรอบๆเพียงเวลาไม่นานที่พวกเขาพบหน้ากัน
“คุณนายฤดูใบไม้ผลิอยู่ไหนกัน?” หมิงต่ถามอย่างโรคจิต
“ใช่ คุณนายฤดูใบไม้ผลิอยู่ไหน?” ดาบน้ําแข็งพูดเพิ่มเติม
รัศมีฤดูใบไม้ผลิกรอกตาใส่พวกเขา แต่ความทระนงตัวก็เข้าร่วมด้วยกัน “คุณนายฤดูใบไม้ผลิอยู่ไหนกัน…”
เหมือนกับไอ้พวกนั้น ไร้ความกลัวก็ถามคําถามเดียวกันด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามหวังหยู่ก็ประหลาดใจ แม้กระทั่งโบซอนที่ดูจริงจังก็ยังถามเกี่ยวกับคุณนายฤดูใบไม้ผลิด้วยเช่นกัน
“ทําไมคุณนายฤดูใบไม้ผลิถึงไม่มากัน?”หวังหยู่ก็พยายามที่จะเข้าร่วมบทสนทนาด้วยเช่นกัน
รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ตอบกลับอย่างอึดอัดใจ “น้องกระทิง พวกเราพึ่งจะพบหน้ากัน ดังนั้นทําไมนายถึงเริ่มทําตัวเหมือนกับพวกเขากัน”
“เอิ่ม มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง?”หวังหยู่และคนที่เหลือต่างดูสับสน
“พวกนายรู้ไหมว่าทําไมพวกเราถึงเป็นเพื่อนกับพี่ชายฤดูใบไม้ผลิ?”ไร้ความกลัวถาม
“ทําไมละ?”
“เพราะว่าคุณนายฤดูใบไม้ผลินั้นสวยมากยังไงละ!”
ทั้งห้าคนอุทานออกมาพร้อมๆกัน
“ ”คนที่เหลือต่างขมวดคิ้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทําไมแม้กระทั่งรัศมีฤดูใบไม้ผลิที่ใจเย็นและเรียบร้อยต่างตื่นตระหนก เมื่อเขาพบกับพวกโรคจิตนี้
“เอาละ เข้ามาในรถเถอะ” หยางหัวเห็นว่าการพูดจาไร้สาระมันไม่จบไม่สิ้น เธอจึงรีบพูดขัดขึ้น “พี่สาวเซียนกําลังทําอาหารอยู่ พวกเราไม่ควรที่จะสายไปกว่านี้แล้ว”
รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็พูดกับหวังหยู่อย่างโรคจิตด้วยเช่นกัน “บอกน้องสะใภ้ให้อดทนหน่อยพี่ชายของเธอต่างรอคอยเธออย่างอดทนด้วยเช่นกัน”
หวังหยู่ก็ตอบกลับด้วยน้ําเสียงอันแหบแห้ง “นายมันน่าสงสารแต่ก็ยังทําตัวน่ารังเกียจ!”
หยางหัวก็ไม่เข้าใจถึงบทสนทนาของรัศมีฤดูใบไม้ผลิและหวังหยู่และเธอก็พูดต่อ “พี่เซียนไม่ได้เป็นคนเดียวที่รอ สี่สาวก็ยังรอด้วยเช่นกัน…”
“รีบไปกันเถอะ!”ไร้ความกลังและหมิงไม่สามารถที่จะรอได้อีกต่อไป เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลี่ซัวและสาวที่เหลือต่างอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
“รอก่อน ทําไมฉันรู้สึกว่ามันมีใครบางคนมันหายไปกัน?” หยางนัวเป็นผู้หญิงที่ช่างสังเกตและเธอก็สังเกตเห็นว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างนั้นผิดไป
“ซื้อ? ใครหายไปกัน?”
“ไอ้พวกเหี้… ใครเป็นคนล็อคประตูรถกัน…”ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ได้ยินใครบางคนกําลังทุบประตูรถอยู่ ไร้ความกลัวก็เหลือบตามองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์กําลังกระโดดไปมาอย่างโกรธเคือง
ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ดูธรรมดาทั่วไปเหมือนกับตัวละครเขาในเกม เขาเพียงแค่พยักหน้ากับหวังหยู่และยืนอยู่ที่ด้านข้าง หวังหยู่ก็คิดว่าเขาเป็นแค่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาและทักทายผิดคนหลังจากที่ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์เข้าไปในรถ เขาก็ชี้ไปที่หมิงและตะโกนออกมา “ไอ้เหี้หลี่ นายพยายามที่จะแอบทําไมกัน นายเป็นคนที่ทิ้งฉันไว้ข้างนอกสินะ!”
หมิงคู่ก็แกล้งเป็นประหลาดใจและตอบกลับ “ตามที่คาดคิดสําหรับผู้เชี่ยวชาญที่เล่นอาชีพโจรมาหลายปี นายสามารถที่จะทําให้พวกเราสามารถเป็นตัวตนของนายได้ในขณะที่นายยืนอยู่ข้างพวกเรานี่คือโจรที่มีระดับที่น่านับถืออย่างแท้จริง!”
“เหี้!”ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ยกนิ้วกลางให้กับหมิงตู
เมืองไอนั้นเป็นเมืองที่เล็กและตั้งแต่ที่มันเป็นช่วงวันหยุด ถนนมันจึงโล่งด้วยเช่นกัน พวกเขาก็มาถึงพื้นที่บริเวณบ้านพักของหวังหยู่อย่างรวดเร็ว
“กระทิง นี่บ้านของนายงั้นเหรอ? ทําไมนายถึงโกหกพวกเราว่านายยากจนกัน?”
ทุกคนประหลาดใจกับความใหญ่ของบ้านหยางหัวและดาบน้ําแข็งก็เริ่มตั้งคําถามกับหวังหยู่
“บ้านนี้มันใหญ่งั้นเหรอ? ฉันรู้สึกหงุดหงิดที่เพดานมันต่ํามากนะ” หยางหัวอุทานออกมา
4” ทุกคนต่างพูดไม่ออก แต่ก็คิดเหมือนกันว่า “เธอนี่แกล้งทําตัวเป็นคนร่ํารวยได้ยอดเยี่ยมจริงๆ บ้านใหญ่เช่นนี้จะต้องใช้เงินกว่าสิบล้านดอลลาร์ในการซื้อมัน แม้ว่ามันจะเป็นแค่เมืองไอที่เป็นเมืองระดับสามก็ตาม”
หวังหยู่ก็มองเห็นความคิดของพวกเขาและอธิบายออกมา “นี่คือบ้านของหยางหัว บ้านของผมอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่น”
“เออ…เธอรวยมากจริงๆ” พวกเขาเริ่มตื่นตระหนกอีกครั้งหนึ่งและเปลี่ยนความคิดของพวกเขากับหยางทั่วไป
“คุณนายกระทิงอยู่ไหนกัน?” หมิงต่ถามอย่างตื่นเต้น
“ใช่เลย กระทิง ภรรยาของนายอยู่ไหน?” ทุกคนเริ่มที่จะถามออกมาพร้อมๆกันอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับว่าความตั้งใจหลักในการเดินทางมาก็เพื่อที่จะพบกับเธอ
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นคนที่มีความสุขที่สุด เขาถูกปฏิบัติแบบนี้มานานมากแล้ว ในตอนนี้หวังหยู่ก็อยู่ในเรือลําเดียวกับเขา เขาก็เป็นคนที่พูดเสียงดังที่สุด อย่างไรก็ตามความสุขของเขาก็ถูกทําลายลงเมื่อไร้ความกลัวเตือนเขาว่าหวังหยู่นั้นเด็กกว่าเขา ดังนั้นเขาจําเป็นที่จะต้องปฏิบัติกับน้องสะใภ้ด้วยความเคารพ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็อยู่ตรงมุมมืดและรู้สึกผิดหวัง
“เธอกําลังยุ่งอยู่ในครัวพร้อมกับอีกสี่สาวนะ” หยางนัวชี้ไปที่ห้องครัวและตอบกลับ
“งั้นเหรอ?”ทั้งกลุ่มเริ่มคิดที่จะเข้าไปในห้องครัวและไปดูพี่สะใภ้ของพวกเขา แต่มู่ลี่เซียนและสี่สาวก็เอาอาหารออกมา
มู่จีเซียนก็ไม่ลืมที่จะทักทายพวกเขา “เลิกยืนเฉยๆได้แล้ว มาช่วยฉันเอาอาหารอ อกไปหน่อย!”
ภาพลักษณ์ของมู่จีเซียนนั้นดูมีอํานาจอย่างมากจนทําให้ทุกคนตกตะลึง กลุ่มที่โรคจิตต่างสูญเสียจิตวิญญาณของพวกเขาและเข้าไปในห้องครัวและช่วยเธออย่างเชื่อฟัง
ในช่วงเวลาที่อยู่ในห้องครัว ไร้ความกลัวถามหวังหยู่อย่างนุ่มนวล “พวกเธอสี่คนต่างอาศัยอยู่กับหิมะบริสุทธิ์งั้นเหรอ?”
“ไม่ พวกเธอนั้นอาศัยอยู่กับพวกเราสองคน…”
“เหี้อะไรวะเนี่ย!”ไร้ความกลัวมึนงง เขาก็ยกนิ้วโป้งให้กับหวังหยู่และพูดออกมา “ในนิกายซวนเฉินทั้งหมด คนเดียวที่ฉันนับถือก็คือนายจริงๆ”