MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 319
Chapter 319: สอนพวกเขาให้สู้กับบอสยังไง
ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของนิกายซวนเฉินก็สังเกตเห็นเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทด้วยเช่นกัน
การยิงเป็นจังหวะของเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทนั้นไม่ใช่บางสิ่งที่เหมือนกับความแม่นยําแบบเครื่องจักรแบบผู้เล่นคนอื่น แต่จังในการยิงของเขานั้นน่าประทับใจมากทั้งจังหวะในตอนใส่ลูกธนู ตอนกําลังเล็งและตอนปล่อยลูกธนูออกไป – การกระทําทั้งสามเหล่านี้ต่างเป็นจังหวะที่ราบรื่นอย่างต่อเนื่องและลูกธนูทุกดอกก็สามารถทําความเสียหายกับบอสโชคลาภได้สูงมาก
“นี่มันโหมดอิสระนี่นา!”
หวังหยู่และหยางหัวอุทานออกมา
“โหมดอิสระ? นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาสองคนพูด คนอื่นก็มีนงง
นอกจากอาชีพทั้งหมดใน {REBIRTH} โหมดอิสระของนักต่อสู้เป็นอาชีพที่เล่นให้เก่งได้ยากที่สุดแต่อย่างน้อยมันก็มีจุดให้เริ่มต้นขึ้นอยู่ดีในอีกทางหนึ่งมันก็มีอาชีพที่ไม่มีใครกล้าเล่นโหมดอิสระซึ่งก็คือนักธนู
นักธนูเป็นสิ่งที่ต้องเชี่ยวชาญมากเกินไปและมันก็เป็นอาชีพที่ทําความเสียหายจากระยะไกลมันจําเป็นต์องใช้ความสามารถในการยิงและความแม่นยําที่สูงมาก
อย่างน้อยนักต่อสู้ก็เป็นอาชีพต่อสู้ระยะใกล้ดังนั้นมันจึงมีโอกาสเพียงแค่เล็กน้อยในการต่อยพลาดเมื่ออยู่ในระยะใกล้อย่างไรก็ตามสําหรับนักธนูแล้ว มันเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการโจมตีคู่ต่อสู้ให้โดนโดยปราศจากการสนับสนุนความแม่นยําของระบบ
การโจมตีเป้าหมายให้โดนในระยะสิบเมตรหรือมากกว่านั้นก็ไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เห็น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้อย่างหยางนัวก็ยืนห่างจากเป้าหมายเพียงแค่สามเมตรเพื่อที่จะทําให้เธอคงความแม่นยําไว้ได้
แต่เจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทนั้นยืนไกลกว่านั้นมากและลูกธนูของเขาก็ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียวถ้าชายคนนี้ใช่โหมดอิสระจริงๆแล้วละก็ ความแม่นยําของเขานั้นน่าประหลาดใจอย่างมาก
“ดูเทคนิคที่เขาใช้สิ เมื่อเขายิงลูกธนูออกไป!”หวังหยู่ชี้ไปที่เจ้าพ่อแห่งการกวนประสาท
ทุกคนก็หันหัวไปตามทิศที่หวังหยู่และเห็นว่าเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทกําลังดึงสายธนูมือขวาแทนที่จะใช้มันในการชักธนู ก่อนที่จะยิง
“มันมีความหมายอะไรในการทําแบบนั้น?”คนอื่นก็ถามออกมา เมื่อพวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หวังหยู่อธิบาย “การทําแบบนั้นเพื่อทําให้ลูกธนูมันหมุนเพื่อที่จะเพิ่มความเสียหายของมัน ระบบของเกมไม่ ด้ทําแบบนี้อย่างแน่นอน”
“เชี่ย มันได้ด้วยเหรอ?”หลังจากฟังคําอธิบายของหวังหยู่แล้ว ทุกคนก็มีนงงไปชั่วขณะและอดที่จะอุทานไม่ได้ “เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่โด่งดังจริงๆ ในตอนแรกฉันคิดว่าเขาแค่เก่งในเกมที่ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์เท่านั้นเสียอีกใครจะไปรู้กันละว่าเขานั้นทรงพลังอย่างมากในเกมเสมือนจริงด้วยเช่นกัน”
“เอาละ พี่สาวหิมะบริสุทธิ์คุณมีความมั่นใจการเอาชนะเขาไหม?”ไร้ความกลัวถามหยางหัว
ในนิกายซวนเงินแล้วนั้นมีหยางนัวเป็นนักธนูเพียงแค่คนเดียวและคําถามเจาะจงอย่างนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับคนอื่น
หยางหัวก็ตอบกลับอย่างซื่อตรง “ฉันไม่มั่นใจสักเท่าไหร่สไตล์การต่อสู้ของเขาแตกต่างกับฉันมาก…”
สไตล์ของหยางหัวก็คือการพึ่งพาการเคลื่อนไหวของเธอเป็นอย่างมากในขณะที่เจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทนั้นแข็งแกร่งในด้านความแม่นยําถึงแม้ว่าพวกเขาอดที่จะพูดไม่ได้ว่าใครนั้นเป็นคนที่มีความสามารถมากกว่าสําหรับนักธนูแล้ว หยางหัวนั้นใช้สไตล์ที่ไม่เหมือนกับใครอื่น
“ชายคนนี้มัน..”
เมื่อทั้งกลุ่มได้ยินคําอธิบายของหยางนัวผู้เชี่ยวชาญจากนิกายซวนเฉินต่างอ้าปากค้างกันอีกครั้งหนึ่งในสายตาของพวกเขาแล้วหยางหัวเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับหวังหยู่คนเหล่านี้ต่างแข็งแกร่งอย่างมากและมีการประเมินที่ดีมากด้วยเช่นกันแต่หนึ่งในพวกเขาไม่มีความมั่นใจในการจัดการกับชายคนนั้น?เขานั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหนกันแน่?
ไม่สําคัญว่าบอสโชคลาภจะแข็งแกร่งมากแค่ใด มันก็เป็นแค่กลุ่มก้อนจํานวนเท่านั้น แม้แต่บอสในโหมดอิสระก็มีวิธีในการจัดการ เมื่อผู้เล่นรับรู้ถึงจุดอ่อนของมัน
นอกจากความผิดพลาดในการโจมตีครั้งแรกของพวกเขาแล้ว พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญที่ใช้โหมดอิสระอย่างเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทและสกิลทําให้เกิดสถานะผิดปกติและผู้เล่นที่ยืนแท็งค์กดดันให้บอสโชคลาภอยู่ในจุดเดียวแล้วการต่อสู้บอสตัวนี้ก็เป็นไปอย่างราบรื่น
ความแม่นยําของเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทอาจจะไม่ได้บ้าคลั่งเท่ากับที่หวังหยู่อธิบาย แต่ความเสียหาย ที่เขาทําได้ก็สูงมาก นอกจากนี้แล้ว ความเร็วในการโจมตีของนักธนูก็มากกว่าอาชีพอื่นด้วยเหตุนี้ ภายใต้การ โจมตีกันอย่างต่อเนื่อง พลังชีวิตของบอสโชคลาภก็ลดลงเหลือน้อยกว่า30%
“ไอ้พวกมนุษย์โอหัง กล้าดียังไงที่มาท้าทายเกียรติยศของเจ้าแห่งดาบ! รับความเกรี้ยวกราดของฉันซะ!”
บอสโชคลาภก็คํารามออกมาอย่างโกรธเคืองและร่างกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นอมตะในชั่วพริบตาหลังจากนั้นแสงสีทองก็สาดส่องลงมาจากฟากฟ้าและปกคลุมบอสโชคลาภไปทั่วทั้งตัว
ผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างรู้ดีว่าบอสโชคลาภนั้นเก่งกาจขนาดไหนและมันก็ไม่มีใครกล้าที่จะโจมตีมั่วซั่วใส่มันเมื่อเป้าหมายของมันไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา สามวินาทีต่อมาแสงสีทองก็จางหายและทําให้บอส โชคลาภกลับมาอยู่ต่อหน้าทุกคนอีกครั้งหนึ่ง
“เอ๋? มันไม่เห็นมีไรเปลี่ยนเลย…”เมื่อเห็นบอสโชคลาภยังมีสภาพทรุโทรมอยู่ ทุกคนก็รีบตรวจสอบมันอย่างรวดเร็ว
บอสสามารถที่จะเปลี่ยนร่างได้เป็นเรื่องปกติ แต่บอสโชคลาภยังคงเหมือนเดิมหรือว่าสกิลของมันนั้นล้มเหลวกัน?
{บอสโชคลาภ เจ้าแห่งดาบวิลสัน (ระดับ40)(บอสโชคลาภ)(โหมดอิสระ)}
พลังชีวิต : 595,896
มานา : 31,254
สกิล : ไม่มี
สายเลือดของนักดาบศักดิ์สิทธิ์ : พลังโจมตีเพิ่มขึ้น ได้รับความสามารถ [เจาะเกราะ] และ [หลบหลีก]
สกิลทั้งหมดของเขาหายไปและพวกมันก็ถูกแทนที่โดยค่าสถานะธรรมดาทั่วไป
หลังจากที่เห็นค่าสถานะที่เปลี่ยนไปของบอสที่แปลงร่าง ทุกคนก็ต่างสับสน บอสตัวอื่นต่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแต่ทําไมมันถึงได้อ่อนแอลงกัน?
“บล็อคการโจมตีของมันต่อไป!ทุกคนอย่าหยุดโจมตี!”เจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทนั้นเป็นคนที่ทําความเสียหายได้มากที่สุดและมีเทคนิคที่มากที่สุดด้วยเช่นกันดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะกลายเป็นผู้สั่งการโดยปราศจากความลังเลใดๆเขาก็ออกคําสั่งให้โจมตีมันหลังจากที่เห็นค่าสถานะของบอสที่แปลงร่างแล้ว
ผู้พิทักษ์ที่พึ่งจะได้รับคําสั่งก็พุ่งเข้าใส่บอสโชคลาภและฟาดโล่เข้าใส่ร่างกายของมัน
ในการปะทะกันก่อนหน้านี้ทุกคนก็พบว่าบอสโชคลาภไม่เคยชนกับ[ฟาดโล่]เข้าตรงๆซึ่งมันมีผลกระทบทําให้เกิดสถานะผิดปกติด้วยเหตุนี้นี่เองนักรบจึงเริ่มใช้ [ฟาดโล่] ใส่บอสมันก็จะรีบเทเลพอร์ตหนีไป
ในการที่จะเล็งบอสโชคลาภให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แท็งค์ก็เลือกที่จะเข้าหามันจากทั้งสี่มุมดังนั้นพวกเขาจึงสามารถที่จะหยุดมันได้ถ้ามันต้องการที่จะเทเลพอร์ตหนีไป
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้บอสโชคลาภไม่ได้มีความตั้งใจที่จะหลบหลีกเลย มันเหวี่ยงดาบของมันและปลดปล่อยคลื่นปราณดาบออกมา
“ฉับ ฉับ ฉับ!”
แสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นรอบๆบอสโชคลาภ เมื่อผู้พิทักษ์สามในสี่คนนั้นถูกฆ่าในการโจมตีเพียงครั้งเดียวผู้รอดชีวิตที่เหลือรอดเพียงคนเดียวก็คือผู้กุมอํานาจที่ไร้ที่ติซึ่งค่าความคงทนของโล่เขาถูกลดลงจนเหลือศูนย์จากการระเบิดพลังปราณดาบ มันเปลี่ยนกลายเป็นเศษโลหะและล่วงหล่นลงบนพื้นในขณะที่พลังชีวิตของผู้กุมอํานาจที่ไร้ที่ติเหลือเพียงแค่หลักหน่วย
“เหี้!”
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น ทุกคนก็ตกตะลึงกันอย่างมาก ถ้าโล่มันถูกทําลายได้แล้วละก็นั่นหมายความว่าพลังโจมตีของบอสนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยก็ 300% ในตอนนี้แท็งค์ก็ไม่สามารถที่จะทําหน้าที่ของพวกเขาได้อีกต่อไปแล้วพวกเขาจะสามารถสู้ต่อได้ยังไงกัน?
โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคําหนึ่ง ผู้กุมอํานาจที่ไร้ที่ติก็วิ่งหนีออกมา บอสโชคลาภก็ไม่ได้ไล่ตามแต่มันยืนจ้องไปที่รอบข้างมันอย่างเยือกเย็นผิวหนังสีแทนของมันปลดปล่อยออร่าที่แข็งแกร่งออกมา
นักธนูของกิลด์โดมิเนเตอร์ต่างยิงลูกธนูเข้าช่วยเขา เมื่อเห็นผู้นําของพวกเขาตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับห่าลูกธนูแล้วบอสโชคลาภก็ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิดเดียวและลูกธนูทั้งหมดต่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยแม้แต่ลูกธนูของเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทที่โจมตีลงไปที่บอสก็ลงบนพื้นด้านข้างบอสโชคลา)
ในเวลานั้นเองทุกคนต่างตกใจ เชี่ยเอ้ย ไม่ใช่เพียงแค่พลังโจมตีของบอสโชคลาภที่เพิ่มขึ้นสูงมากเพียงเท่านั้นมันยังสามารถหลบการโจมตีของนักธนูได้อีกด้วย มันจะมีบอสที่น่ารังเกียจกว่านี้อีกเหรอ?
“ทําไงดี? ทําไงดี? ระบบแม่งหน้าด้านชิบหายเลยรอบนี้..”ผู้เล่นของสี่กิลด์ใหญ่ต่างหงุดหงิดกันอย่างมากอย่างไรก็ตามไม่มีใครในพวกเขาที่ต้องการที่จะยอมแพ้เลยสักคน หลังจากที่ต่อสู้กับบอสมาถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงจ้องหน้ากันและกัน ก่อนที่จะหันกลับไปมองบอสโชคลาภที่อยู่ภายใต้วงล้อมของพวกเขา โดยไม่รู้ว่า จะทําอะไรดี
ในเวลานั้นเองมันก็มีเสียงดังขึ้นออกมาจากความโกลาหล “เฮ้ ไอ้พวกโง่ พวกนายไม่สังเกตเหรอว่าบอสมันไม่ได้ขยับตัวหน่ะ?”
“เอ่อ นายพูดถูก…บอสโชคลาภมันเหมือนกับว่ามันไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนนี่นา”ผู้เล่นทุกคนต่างพื้นสติได้หลังจากได้ยินการแจ้งเตือนนั้น
ก่อนหน้านี้พวกเขาส่วนใหญ่ต่างตกตะลึงอย่างมากกับการโจมตีของบอสโชคลาภและก็ไม่ได้สนใจกับความเป็นจริงที่บอสนั้นไม่ได้ไล่ตามผู้เล่นต่อไป โชคดีที่มีใครบางคนสังเกตเห็นมันมิฉะนั้นแล้วละก็พวกเขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกอย่างแน่นอน เมื่อข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกไป
“ใครกัน? ใครกันที่เป็นคนพูดเมื่อกี้?”ผู้เล่นก็มองกันไปรอบๆ เพื่อที่จะหาว่าใครเป็นคนพูดขึ้นมาแต่มันก็ไม่มีใครสักคนแสดงตัวออกมา
“ไม่ใช่ว่านายเป็นคนพูดงั้นเหรอ?”
“ไม่ ฉันคิดว่ามันเป็นนายที่พูดเสียอีก…”
“ถ้าคนที่พูดเป็นฉันแล้วจะได้รางวัลไหม?”
“ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่ฉัน..”
เจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทถามอย่างสับสน “มันประหลาดมาก..มันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักหน่อยทําไมมันไม่มีใครที่ต้องการแสดงตัวกัน?”
สตอร์มบังเกอร์อันนองเลือดเกาหัวของเขาด้วยเช่นกัน “เสี่ยงมะกี้นี้มันคุ้นๆแหะ ฉันต้องเคยได้ยินมาก่อนสักที่แน่ๆ..”
เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่สังเกตเห็นนั่นหมายความว่าคนๆนั้นมีความสามารถ แต่เขาต้องการที่จะทําตัวอย่างเงียบเชียบและไม่ต้องการที่จะเปิดเผยตัวเองต่อคนอื่น พวกเขาก็ไม่ได้เสาะหาว่าใครเป็นคนพูดขึ้นมาด้วยเหตุนี้นี่เองพวกเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อและช็อาวุธของพวกเขาไปยังบอสโชคลาภอีกครั้งหนึ่ง
มันก็ยังคงยืนอยู่อย่างนิ่งเฉยตรงที่เดิมและไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่ก้าวเดียว ในขณะที่ดวงตาของมันยังคงจดจ้องไปที่ผู้เล่นและใบหน้าของมันก็ไร้อารมณ์อย่างมาก
“เอาละ แล้วพวกเราควรที่จะสู้กับมันยังไงดี?”ผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้นมา
“เอิ่ม…”
บรรยากาศก็กลับมาอึดอัดอีกครั้งหนึ่ง บอสโชคลาภเป็นบอสที่ต้านทานเวทย์และในตอนนี้มันก็สามารถหาลบหลีกการโจมตีกายภาพได้อีกด้วย ดังนั้นแม้ว่ามันจะยืนอยู่ตรงนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สําหรับพวกเขาในการทําความเสียหายกับมัน มันจะมีนักเวทย์ที่ทําให้พลังชีวิตของมันลดลงจนหมดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไหม?
เพียงแค่ทุกคนกําลังจะตกลงไปสู่ความสิ้นหวังนั้นเอง เสียงลึกลับก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง “ไอ้พวกโง่บอสมันไม่สามารถหลบได้ เมื่อมันติดสถานะผิดปกติได้ พวกเราก็แค่โจมตีมันในตอนที่หมอผียังมันไว้ที่เดิมสิ”
“นายพูดถูก!”คําแนะนํานี้ทําให้ดวงตาของพวกเขามีประกายขึ้นมา ด้วยเหตุนี้นี่เองเจ้าพ่อแห่งการกวนประสาทจึงออกคําสั่งอย่างรวดเร็ว
“หมอผี ใช้ [บาเรียแห่งความมืด] ควบคุมให้มันอยู่กับที่ซะและคนที่เหลือ โจมตี!”
เมื่อได้ยินคําสั่ง หมอผีก็ต่างใช้ บาเรียแห่งความมืด] ในทันทีเพื่อที่ทําให้บอสโชคลาภยืนอยู่ที่เดิมหลังจากนั้นลูกธนูก็โจมตีลงไปที่ร่างกายของบอสโชคลา
มันเป็นเรื่องที่เห็นได้เด่นชัดเลยว่าบอสโชคลาภตกอยู่ภายใต้สกิลทําให้เกิดสถานะผิดปกติและมันก็เสียความสามารถในการหลบหลีกไปและพลังชีวิตของมันส่วนใหญ่ก็ถูกแย่งไปโดยห่าลูกธนู
เมื่อมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ สกิล [บาเรียแห่งความมืด] ของหมอผีก็ถูกเล็งจุดปล่อยของมันไว้และมันก็ไม่ปกคลุมทั่วทั้งสี่ทิศอีกแล้ว หมอผีทั้งสี่ต่างใช้ [บาเรียแห่งความมืด] อย่างต่อเนื่องและทําให้บอสโชคลาภโดยสกิลควบคุมสถานะผิดปกติจนตาย
นอกจากลูกธนูที่ถูกยิงโดยนักธนูแล้ว ผู้กุมอํานาจที่ไร้ที่ติที่เกือบตายภายใต้คมดาบของบอสโชคลาภก็หยิบดาบสองมือขึ้นมาและเริ่มฟันเข้าใส่บอสด้วยเช่นกัน
ภายใต้บาเรียลึกลับ ไร้ความกลัวก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขา “ไอ้พวกโง่นี่มัน! พวกเขายังกล้าที่จะสู้กับบอสโดยที่มีสมองแค่นี้นี่นะ? ฉันเกือบจะต้องจับมือสอนพวกมันว่าฆ่าบอสยังไงแล้ว!”