Monster Paradise - ตอนที่ 1517
Monster Paradise – ตอนที่ 1517
ในความว่างเปล่า นกยักษ์สามหัวร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาขณะหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง
เกล็ดและขนกระจุกใหญ่บนตัวมันไหม้เกรียม ไม่ใช่แค่นั้น แม้กระทั่งหัวหนึ่งของมันยังหายไป
ถ้าหลินฮวงอยู่ที่นี่ เขาอาจระบุได้ว่านกยักษ์ตัวนี้ที่กำลังโดนล่าคือนกฮูกสามตัว มันคือสายพันธ์ผิดปกติจากหุบเหว
นกประเภทนี้สามารถบินได้เร็วมาก ท่าทางและการเคลื่อนไหวของมันเหมือนกับปีศาจ มันเคลื่อนที่ด้วยความเงียบและคาดเดาไม่ได้ สิ่งที่มันถนัดคือเทคนิคลอบสังหาร
นอกจากนี้ แต่ละหัวของมันยังเชี่ยวชาญพลังกฏเกณฑ์แยกกันตั้งแต่เกิด
โดยปกติ พลังกฏเทพเหล่านี้คือประเภทพลัง ลวงตาและพิษ
นกฮูกสามหัวหลายตัวสามารถวิวัฒนาการเป็นเทพสวรรค์และควบแน่นกฏเทพเหล่านี้เป็นห่วงโซ่ลำดับเทพได้
นกฮูกสามหัวตัวนี้ที่โดนล่าคือตัวที่วิวัฒนาการเป็นเทพสวรรค์
เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้นี้เองก็ได้รับความสนใจจากเหล่าเทพสวรรค์ด้านนอกแดนลับ
“ข้าดูเหมือนจะจำได้ว่าตอนแรก นรหลวงเทพได้จัดหานกฮูกสามหัวจำนวนหนึ่งเพื่อจุดประสงค์ในการทดลองด้วยนี่ ใช่ไหม?”ผู้นำของเซโน่ถามขึ้น
“ข้าจำได้เหมือนกัน ตอนแรก เพราะสิ่งนี้ ราคาของนกฮูกสามหัวจึงพุ่งสูงขึ้น หลายคนตรงเข้าเขตลับและมิติบรรพกาลที่เกี่ยวกับหุบเหวเพื่อจับนกฮูกสามหัวเป็นๆ”หัวหน้ากลุ่มของศาลาสมบัติพูดขึ้นมาด้วย”ตอนนั้นเราก็สงสัยว่าทำไมนครหลวงเทพถึงสนใจนกฉูกสามหัว ถึงขนาดตั้งใจเก็บพวกมันนับสิบเพื่อการวิจับ ตอนนี้เรารู้สาเหตุแล้ว”
“จากที่มองดู การทดลองน่าจะล้มเหลว”คนของตาข่ายคลุมสวรรค์ยิ้ม เหลือบมองผู้นำนครหลวงเทพ มันหายากที่จะพบโอกาสขุดเอาความลับของนครหลวงเทพ พวกเขาย่อมไม่คิดปล่อยผ่าน
ผู้นำที่เหลือจากองค์กรอื่นไม่กล้าพูด แต่ส่วนใหญ่ลอบดีใจ
นครหลวงเทพมักมีความภาคภูมิใจในฐานะเลือดบริสุทธิ์มาตลอด ในความเป็นจริง องค์กรในแดนเทพส่วนใหญ่ไม่อนุมัติแนวคิดนี้ สิ่งที่ทำให้คนจากนครหลวงเทพไม่เป็นที่ต้อนรับมากขึ้นคือความจริงที่ว่าสมาชิกของพวกเขามักอวดอ้างความเหนือกว่าในทุกที่ที่ไป
เมื่อเห็นผู้นำของนครหลวงเทพกำลังโดนเผา ส่วนใหญ่ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ
สำหรับเรื่องที่พูดโดยองค์กรระดับเจ็ตด่างๆ ผู้นำเทพสวรรค์ส่วนใหญ่ที่นี่มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง
หมื่นปีก่อน นักวิจัยในนครหลวงเทพได้รับแรงบันดาลใจในการทดลองมอนสเตอร์อย่างนกฮูกสามหัว เหตุผลคือหัวทั้งสามของมันเกิดมาพร้อมความสามารถโดยธรรมชาติเพื่อควบคุมพลังกฏเทพสามอย่าง
นักวิจัยจึงมีแนวคิดว่าหากพวกเขาเพิ่มระดับนกฮูกเป็นเทพสวรรค์ มันเป็นไปได้สำหรับมอนสเตอร์นี้ที่จะใช้ห่วงโซ่ลำดับเทพสามสายได้ทันทีที่เป็นเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง
ถ้าการทดลองนี้ประสบผลสำเร็จ ตามลักษณะทางชีววิทยาของนกฮูกสามหัว พวกเขาสามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงการก้าวข้ามและการทำลายขีดจำกัดพลังของร่างกายและดวงวิญญาณเพื่อควบคุมห่วงโซ่ลำดับเทพให้มากขึ้น
แต่ทว่า การทดลองนี้กลับล้มเหลวตั้งแต่เริ่ม
หลังนกฮูกสามหัวทั้งหมดควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพสำเร็จ พวกมันจะยกระดับเป็นเทพสวรรค์โดยตรงหรือไม่ก็ติดที่ระดับเทพแท้จริง ไม่สามารถทะลวงผ่านได้ บางตัวยังประสบกับการเร่งของการกลายพันธ์ุหลังโดนบังคับให่ควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพที่สองและระเบิดตัวตาย
สำหรับห่วงโซ่ลำดับเทพที่สาม ไม่มีนกฮูกสามหัวสักตัวที่ควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพได้ถึงสองสายที่ระดับเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง
หลังล้มเหลวไปพันรอบ นครหลวงเทพก็ยอมแพ้ต่อการทดลองนี้
สำหรับเป้าหมายทดลองที่เหลือ พวกเขาโยนพวกมันเข้าแดนนักโทษลับ
“เจ้าหญิงน้อยจากเนฟิลิกไม่เลวเลย”ผู้นำนครหลวงเทพเปลี่ยนเรื่อง เพราะมันคือไคลี่ เจ้าหญิงน้อยแห่งเผ่าเนฟิลิกที่เป็นคนล่านกฮูกสามหัว”ข้าได้ยินว่ามีคนหนุ่มมากพรสวรรค์หลายคนไปสู่ขอนาง?”
รอยยิ้มของผู้นำกลุ่มเผ่าเนฟิลิกเบ่งบาน”มันเป็นความจริง”
“ความสามารถของนางไม่เลวเลย นางถือได้ว่าเป็นเทพแท้จริงชั้นนำ”ผู้นำของวิหารเทพนักรบพยักหน้าพึงพอใจ”ข้าได้ยินว่าเด็กนั่น จ้านกวงดูเหมือนจะสนใจในตัวนาง”
“มันไม่ใช่แค่จ้านกวง จากสิ่งที่ข้ารู้ มีอัจฉริยะหลายคนทีท่ชื่นชอบเจ้าหญิงน้อย”ผู้นำตาข่ายคลุมสวรรค์ยิ้ม”แม้จะมีหลายคนยังไม่แสดงออก ข้าก็คาดหวังว่าหลังการเดินทางนี้ พวกเขาจะเคลื่อนไหวกันแน่”
ตามข้อมูลภายในที่ตาข่ายคลุมสวรรค์ได้รับ หลายองค์กรได้หมายตาไคลี่ไว้แล้ว
อัจฉริยะเทพแท้จริงบางคนยังไม่แสดงเจตนา อยากรอดูว่าเจ้าหญิงน้อยคนนี้เป็นของปลอมหรือทรงพลังจริงๆ
แต่ทว่า ระหว่างการเดินทางนี้เข้าแดนลับ ไคลี่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของนางแล้ว
คาดว่าอัจฉริยะหลายคนที่เอาแต่ดูจากด้านข้างคงลงมือในไม่ช้า
เมื่อได้ยินคนอื่นคุยกัน ผู้นำของเผ่าเนฟิลิกก็แค่หัวเราะโดยไม่แสดงความคิดเห็น
พวกเขาตระหนักชัดว่าเจ้าหญิงน้อยไม่มีความตั้งใจจะแต่งงานกับใคร เมื่อมันเป็นเรื่องของเผ่าเนฟลิก นางกลับไม่ใส่ใจเลย
วิธีการโน้มน้าวให้นางแต่งงานยังเป็นปัญหา
ในแดนลับ ไคลี่ผู้สวมชุดเกราะเงินไม่รู้ว่าโลกภายนอกกำลังคุยกันถึงนาง
ตั้งแต่ที่นางเข้าแดนลับ นางก็ระบายอารมณ์ทั้งหมดผ่านการล่า
นกยักษ์สามหัวตรงหน้านางคือเหยื่อที่ทำให้นางอารมณ์เสียมากสุดตั้งแต่เข้าแดนลับ
แม้จะไม่มีการแสดงออกใดบนหน้านาง แต่ทุกครั้งที่นางโจมตีจะเผยความไม่พอใจของนาง
แม้นกฮูกสามหัวจะไม่ถือว่าทรงพลังสุดในหมู่เทพสวรรค์ขั้นหนึ่งในแดนลับ ความสามารถโดยรวมของมันก็ถือว่าอยู่ด้านบนของห่วงโซ่อาหาร
โดยปกติ เมื่อมันเจอกับนักโทษคนอื่นที่ไม่สามารถเข้าชนะได้ มันสามารถซ่อนตัวหรือวิ่งหนี
แต่ทว่า ต่อหน้าไคลี่ มันไม่มีที่ให้ถอย และมันก็ไม่สามารถซ่อนหรือหลบหนีได้
วิธีการหลบหนีทั้งหมดของมันเปล่าประโยชน์ต่อไคลี่ ในแง่ของความเร็ว มันไม่ได้เหนือไปกว่านางเลย
ตั้งแต่เผชิญหน้าครั้งแรก นกฮูกสามหัวก็ถูกสะกดข่มอยู่ตลอด จนถึงจุดที่มันไม่สามารถเงยหัวได้ด้วยซ้ำ
ห่วงโซ๋ลำดับเทพที่มันใช้ได้คือประเภทพิษ แต่ต่อหน้าการลงทัณฑ์สวรรค์ โซ่เทพของไคลี่ มันพลันโดนทำลายด้วยสายฟ้าทันที
ส่วนที่หลงเหลือเล็กน้อยที่ไม่โดนทำลายก็ถูกแยกออกจากตัวมันด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของไคลี่ ซึ่งบรรจุไปด้วยพลังลำดับเทพ
สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือความจริงที่ว่าไคลี่สวมชุดเกราะเทพสวรรค์เต็มตัว
ตั้งแต่มงกุฏบนหัวนางจนถึงต่างหู สร้อยคอ ชุดเกราะ รวมถึงหอกในมือนาง แหวนนาง รองเท้าส้นสูงของนาง ทั้งหมดคือสมบัติเทพสวรรค์
ดังนั้น ต่อหน้าเจ้าหญิงน้อยจากเผ่าเนฟิลิก ตัวเลือกเดียวที่นกฮูกสามหัวเหลือคือแหลกลาญ
โซ่เทพ การลงทัณฑ์สวรรค์เป็นอะไรที่อันตรายมาก และมันยังเป็นพลังลำดับเทพที่ทำให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างมาก
ทุกครั้งที่นกฮูกสามหัวโดนฟาด มันจะไม่แตกต่างกับการโดนเฆี่ยนตี
ทุกครั้งที่มันร้องโหยหวน มันเป็นเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากส่วนลึกของหัวใจมัน
ดังนั้น ก่อนมันจะโดนตีมากกว่าสองครั้ง มันก็รู้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อกรของไคลี่และหนี
แต่ทว่า มันไม่คาดคิดว่าจะไม่สามารถหลบหนีได้
นี่เพราะผู้หญิงนางนี้เร็วกว่ามัน..
ไคลี่ไล่ตามด้วยหอกในมือนาง ทุกการโจมตีแต่ละครั้งจากหอกนาง สายฟ้าสีม่วงจะระเบิดจากปลายหอก เปลี่ยนเป็นประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนที่ฟาดใส่นกฮูกสามหัว
หลังไล่ล่าอยู่กว่ายี่สิบนาที ท่ามกลางเสียงร้องน่าสังเวช หัวสุดท้ายของมันก็ระเบิดเป็นสายฟ้าแลบ มันกลายเป็นศพไหม้เกรียม ไร้หัวและล้มกระแทกพื้น…
เมื่อดูฉากนี้ เทพสวรรค์หลายคนนอกแดนลับก็แอบคิด”ช่างป่าเถื่อนนัก!”