Monster Paradise - ตอนที่ 1576 เพื่อแสดงความขอบคุณ ข้าจะกินเจ้า
Monster Paradise – ตอนที่ 1576 เพื่อแสดงความขอบคุณ ข้าจะกินเจ้า
นอกจากหน้าปกติที่สามารถใช้ได้ระยะยาว หน้าที่เหลืออีกสามของสี่หน้ามีเวลาจำกัดตอนใช้
มีคนแค่หยิบมือเดียวที่รู้ว่าหน้าทั้งสี่ของเขามีอะไรแบบนี้ แต่ทว่า พวกเขาคิดว่าเหตุผลที่โดนจำกัดเช่นนี้เพราะการสลับหน้าต่างๆจะสร้างภาระแก่ร่างกายและจิตวิญญาณของสี่หน้า
ในขณะเดียวกัน สี่หน้าคือคนเดียวที่รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น
ในความเป็นจตริง แต่ละหน้าของเขามีบุคลิกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
บุคลิกครอบงำคือหน้าปกติ ซึ่งรักษาสมดุลระหว่างอีกสามบุคลิก
ปัจุบัน บุคลิกที่สี่ของเขาสามารถรักษาสภาวะสมดุลได้เนื่องจากนิสัยครอบงำปกติ
แต่ทว่า ทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนหน้า เขาต้องปล่อยบุคลิกนั้นไป
แม้จิตสำนึกของบุคลิกครอบงำจะยังอยู่ในการควบคุมสั้น ๆ หลังเปลี่ยนหน้า แต่ยิ่งเวลาผ่านไป บุคลิกที่สองก็จะเริ่มตื่น จากนั้นมันก็จะเริ่มสู้แย่งตำหนักหลักกับบุคลิกครอบงำ
หลังเกินระยะเวลาหนึ่ง บุคลิกที่สองจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ มีโอกาสสูงที่มันจะระงับบุคลิกครอบงำและยึดร่าง
บางคนอาจคิดว่านี่คือการผสานบุคลิก และไม่สำคัญพเราะมันสามารถเปลี่ยนใหม่ได้อีกในอนาคต
ปัญหาก็คือทันทีที่บุคลิกครอบงำของสี่หน้าเสียการควบคุมร่างกาย สมดุลปัจจุบันระหว่างบุคลิกต่างๆจะโดนทำลาย บุคลิกที่สองที่แย่งตำแหน่งของบุคลิกแรกจะกลืนบุคลิกอื่นและควบคุมร่างกายอย่างถาวร
นี่เพราะมีเพียงการควบคุมร่างกายของสี่หน้าอย่างสมบูรณ์เท่านั้นที่ร่างกายและจิตวิญญาณของสี่หน้าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้ากับบุคลิกใหม่ได้ พวกเขาจะเปลี่ยนเป็นจิตสำนึกอิสระ ซึ่งรวมเข้ากับร่างกายอย่างสมบูรณ์เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ขึ้นมา
พูดง่ายๆ สี่หน้าจะหายไป เขาจะถูกแทนด้วยสัตว์ประหลาด
สี่หน้าไม่เคยบอกใครถึงความเสี่ยงนี้
เขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้แม้กระทั่งกับคนที่เขาสนิทสนมด้วยมากสุด คนที่ร่วมเตียงเดียวกับเขา
เหนือสิ่งอื่นใด ความลับดังกล่าวเชื่อมโยงกับความเป็นความตายของเขา มันสามารถใช้ต่อต้านเขาได้ง่ายๆถ้าเขาบอกใคร
กลยุทธ์ถ่วงเวลาของเนื้อเยื่อยักษ์บนสนามรบทำให้สี่หน้ากระวนกระวาย
เขาใช้เพลิงมังกรซึ่งเป็นวิชาที่ผลาญพลังเทวะอย่างมาก ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็โดนชั้นโคลนของเนื้อเยื่อยักษ์หยุดไว้ การต่อสู้กลายเป็นทางตัน
ภายในครึ่งชั่วโมง เขาเปลี่ยนเป็นหน้าที่สอง บุคลิกครอบงำหมดแรงแล้ว ทำให้ระยะเวลาที่มันสามารถสะกดบุคลิกที่สองได้ลดลง
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากรีบยุติการต่อสู้นี้ ไม่งั้นผลที่ตามมาคงร้ายแรง
หลังพ่นเพลิงมังกรไปนานกว่าสิบนาที เขาก็ยังไม่คืบหน้า นี่ทำให้เขากังวลใจมากขึ้น
‘ถ้านี่ไม่ได้ผล ข้าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้กระบวนท่านั้น!”
หลังลังเลสักพัก สี่หน้าก็ตัดสินใจได้
เขาพ่นเพลิงมังกรออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่มือสองข้างเริ่มประสานกันอย่างรวดเร็ว
อึดใจต่อมา ร่างแปลก ๆ หลายร่างก็โผล่จากด้านหลังเขาและพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระ นี่ดำเนินไปจนกระทั่งร่างที่เก้าโผล่ออกมา จากนั้นก็หยุด
เมื่อร่างทั้งเก้ายืนอยู่ด้านหลังสี่หน้า พวกมันก็ดูน่าเกรงขามเหมือนร่างตาเดียวของสี่หน้าไม่มีผิด มันราวกับพวกมันคือร่างโคลนจากแบบพิมพ์เดียวกัน
ตอนนี้ สี่หน้าหยุดพ่นเพลิงมังกรแล้ว
จากระยะไกล เนื้อเยื่อยักษ์เฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของสี่หน้า ตอนเห็นอีกฝ่ายปลดปล่อย’ร่างแยก’ เขาก็รู้ว่าสี่หน้ากำลังควักไพ่ตายออกมา
แม้เนื้อเยื่อยักษ์จะรู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็มั่นใจมากขึ้นกับการคาดเดาครั้งก่อน
‘เจ้าหมอนี่รีบควักเอาไพ่ตายออกมาเร็วขนาดนี้-ดูเหมือนการคาดเดาของข้าจะถูก เขาต้องรักษาสภาวะนี้ไม่ได้นาน!’
‘ตราบเท่าที่ข้ายื้อเวลาไปได้อีก ข้าจะสามารถล้มเขาได้!’
เห็นได้ชัดว่าเนื้อเยื่อยักษ์วางแผนใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาจนจบ
แม้เขาจะมีกลยุทธ์ตอบโต แต่เขาไม่กล้าดูแคลนสี่หน้า
ในอากาศ ร่างทั้งสิบของสี่หน้ายืนอย่างภาคภูมิและจ้องมองเนื้อเยื่อยักษ์อย่างดูถูกเหยียดหยาม
วินาทีต่อมา ร่างทั้งหลายเหล่านั้นก็กางนิ้วออก และรัศมีสีทองคล้ายแส้ก็พุ่งออกจากปลายนิ้ว
แส้สีทองนับไม่ถ้วนตัดกัน เปลี่ยนเป็นตาข่ายขนาดมหึมาที่พุ่งเข้าหาเนื้อเยื่อยักษ์
เนื้อเยื่อยักษ์สะดุ้งเฮือก และหนวดนับไม่ถ้วนก็ระเบิดออกไปเพื่อป้องกันตัวเขา
แส้ททองแต่ละเส้นอัดแน่นไปด้วยลักษณะแปลกๆของเพลิงมังกร หนวดของเนื้อเยื่อยักษ์ถึงกับสลายเป็นเถ้าถ่านทันทีที่สัมผัสกับพวกมัน
หลังทนความเจ็บปวดไปหลายรอบ ในไม่ช้าเนื้อเยื่อยักษ์ก็ยกเลิกใช้หนวดต่อต้าน เขากลับอัญเชิญมือโคลนยักษ์จากความว่างเปล่าซึ่งฟาดใส่ตาข่ายยักษ์ของแส้ทอง
ทันทีทที่การต่อสู้เข้าสู่ทางตัน ร่างหลายร่างข้างสี่หน้าตัวจริงก็เข้าร่วมสนามรบ
ร่างทั้งสี่ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีด้านนอกตาข่ายยักษ์ พวกมันพ่นเพลิงมังกรคล้ายคลื่นยักษ์ใส่เนื้อเยื่อยักษ์จากทั้งสี่ทิศ..
แทบทุกลมหายใจของเพลิงมีพลังพอๆกับเพลิงมังกรที่สี่หน้าตัวจริงพ่นออกมา
เนื้อเยื่อยักษ์ตกใจมาก
การโจมตีระลอกนี้มาจากทุกทิศทาง ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้เลย
ถ้าเขาต้องใช้การป้องกันซึ่งๆหน้า การผลาญพลังเทวะของเขาจะมากกว่าเดิมนับไม่ถ้วน
ตอนเขาเห็นคลื่นเพลิงมังกรจากสี่ทิศทางกำลังจะกลืนกินเขา เนื้อเยื่อยักษ์ก็กัดกระสุนและพุ่งใส่ตาข่ายทองเหนือหัว
ตอนก้อนเนื้อขนาดใหญ่ของเขากำลังจะชนกับตาข่าย ตัวของเขากลับเปลี่ยนเป็นบ่อไขมันเหลว เขาเล็ดลอดผ่านรูในตาข่ายและหลบหนีไปง่ายๆ
สี่หน้ากับเก้าเถาวัลย์ที่อยู่ไกลออกไปตกตะลึงตอนเห็น
เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ไม่คิดว่าร่างกายที่ดูแข็งมากของเนื้อเยื่อยักษ์จะสามารถเปลี่ยนเป็นของเหลวได้ในชั่วพริบตา
แม้สี่หน้าจะไม่รู้ว่าเนื้อเยื่อยักษ์จะหลบหนีได้ไง แต่เขาก็เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วสำหรับความเป็นไปได้นี้
ร่างจริงของเขาไหววูบและพลันปรากฏขึ้นในอากาศเหนือหัวเนื้อเยื่อยักษ์โดยตรง
ก่อนเนื้อเยื่อยักษ์จะได้หายใจโล่งอกที่รอดพ้นเพลิงมังกร เขาก็ได้ยินเสียงของสี่หน้าเหนือหัว
“ข้าเดาไว้แล้วว่าเจ้าต้องหลบหนีได้!’
ทันทีที่สี่หน้าพูดจบ เนื้อเยื่อยักษ์ก็เห็นเขาสะบัดฝ่ามือสองข้างมาข้างหน้าและคลื่นกระแทกสีทองก็ระเบิด
“กลับเข้าไปซะ!’
เนื้อเยื่อยักษ์ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้เลย เขาโดนคลื่นกระแทกอัดโดยตรงและร่างของเขาก็ถูกส่งลอยกลับหลัง
ตอนนั้นเอง ร่างแยกทั้งหลายก็ร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อลบตาข่ายที่ทำจากแส้ ปล่อยให้เนื้อเยื่อยักษ์ตกลงไปในทะเลเพลิง
วินาทีที่ร่างของเนื้อเยื่อยักษ์โดนทะเลเพลิงสีทองกลืนกินจนหมด ร่างจริงของสี่หน้ากับร่างแยกที่เหลือก็สูดหายใจแทบพร้อมกัน จากนั้นก็พ่นเพลิงมังกรทองใส่ด้านล่าง…
เพลิงมังกรนี้แผดเผาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง
ตอนสี่หน้าสัมผัสได้คลุมเครือว่าเขาไม่สามารถควบคุมบุคลิกที่สองได้อีก เขาจึงกลับสู่ร่างปกติอย่างโล่งใจ
ท่ามกลางทะเลเพลิง พลังชีวิตของเนื้อเยื่อยักษ์สลายไปจนหมดตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว
สี่หน้ายังคงฝืนพ่นเพลิงมังกรอีกกว่าสิบนาทีเพราะเขากลัวว่าเนื้อเยื่อยักษ์อาจไม่ตายสนิท
แต่ทว่า ตอนนี้เขาเริ่มมั่นใจแล้ว
ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถหยุดตัวเองจากการร้องโหยหวนและดิ้นรนขณะโดนเพลิงมังกรแผดเผาได้
หลังร่างแยกของเขาสลายไป สี่หน้าก็อดทนรอให้ไฟกับควันสลาย
ไม่นาน เปลวไฟที่หลงเหลือก็มอดดับและควันก็เริ่มสลายตัวเช่นกัน
ภายในหลุมลึกที่ถูกไฟแผดเผา สี่หน้าเห็นก้อนกลมดำไหม้เกรียม
เขาเดินเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง เขาสามารถได้กลิ่นเนื้อไหม้ รวมถึงกลิ่นเหม็นน่าเปื่อยที่รุนแรงจนทำให้ต้องปิดปาก
สี่หน้าหยุดเดินตอนอยู่ห่างจากก้อนเนื้อไหม้สิบเมตร เขาไม่เข้าไปใกล้กว่านี้
เขากลับกางนิ้วทั้งห้าและยื่นด้ายพลังเทวะออกไปแตะกับก้อนเนื้อไหม้
เมื่อพลังเทวะสัมผัสกับก้อนเนื้อไหม้ สี่หน้าก็สามารถเห็นโครงสร้างมันได้ มันเป็นโครงสร้างชั้นๆเหมือนหัวหอม
เขาลอกชั้น’หัวหอม’ออกด้วยพลังเทวะ เขาอยากดูว่าเนื้อเยื่อยักษ์โดนไฟทำลายจริงๆไหม
พอเขาลอกชั้นไหม้ออก เขาก็เห็นว่าโครงสร้างภายในโดนเผาเป็นผุยผงจนหมด
เห็นได้ชัดว่าเนื้อเยื่อยักษ์ตายไปแล้ว เขาไม่สามารถตายได้มากกว่านี้
สี่หน้าถอนพลังเทวะหลังตรวจสอบและถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
แต่ทว่า สิ่งแปลกประหลาดกลับเกิดขึ้น
จู่ๆหนวดสีเลือดก็ทะลุผ่านพื้นใต้เท้าของสี่หน้า ปลายหนวดแตกออกเหมือนรากไม้ ยืดเหมือนสายฟ้าแลบ ชอนไชเข้าปาก ตา และจมูกของสี่หน้า
สี่หน้าสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแปลกๆที่ครอบครองร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว
“ออกไป!’
สี่หน้าควบคุมพลังเทวะทั้งหมดภายในตัวเพื่อพยายามปลดปล่อยตัวเองจากเนื้อเยื่อยักษ์ แต่ทว่า เขาสามารถหยุดเนื้อเยื่อยักษ์ได้แค่หนึ่งถึงสองวินาที และการยึดครองร่างกายก็ยังดำเนินต่อไป
เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าด้วยอัตรานี้ มันจะใช้เวลาห้านาทีเพื่อทำให้เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายไป
เมื่อเขาตระหนักอย่างนี้ เขาก็มุ่งมั่น
“เจ้าบังคับข้าเอง!”
วินาทีต่อมา หัวของสี่หน้าก็พลันเปลี่ยน หน้าที่ทเดิมอยู่ด้านหลังค่อยๆหมุน 180 องศาจนมาอยู่ด้านหน้า
มันคือหน้าชั่วร้ายเกินเปรียบเทียบ ดวงตาทั้งสามของมันดำสนิท ไม่มีร่องรอยของสีขาว มีเขาสีแดงเลือดขนาดใหญ่สองเขาบนหน้าผากมัน
วินาทีที่ลืมตา กล้ามเนื้อทั้งตัวเขาก็เริ่มบวมขึ้น เปลี่ยนเป็นสีแดง หมอกดำเริ่มซึมออกจากรูขุมขนเช่นกัน
เขาลดหัวเพื่อดูสภาพร่างกายปัจจุบัน สี่หน้าร่างเขายาวยื่นมือที่มีกรงเล็บแหลมไปจับหนวดที่เชื่อมต่อกับตา จมูกและปากเขา จากนั้นก็กระชากอย่างแรง
มือข้างหนึ่งดึงขึ้น ขณะที่อีกข้างดันหนวดเข้าปาด เขาเริ่มเคี้ยว
“สี่หน้า เจ้ามันบ้า!”เสียงโหยหวนดังจากใต้ดิน
ชายเขายาวพลันแสยะยิ้ม”สี่หน้า?เขาไม่อยู่อีกแล้ว ข้าควรขอบคุณเจ้าที่ช่วยให้ข้าได้รับการควบคุมร่างกายนี้”
‘ถ้ามันไม่ใช่เพราะการผลักดันครั้งสุดท้ายของเจ้า สี่หน้าคงไม่ยอมปล่อยข้าออกมา ถ้าเจ้าไม่สู้กับเขาและทำให้จิตสำนึกของเขาอ่อนแรง ข้าคงไม่สามารถยึดร่างกายได้ง่ายๆ”
‘เพื่อแสดงความขอบคุณ ข้าจะกินเจ้า!’
ขณะพูด เขาก็ยังคงกินเนื้อเยื่อยักษ์ต่อไป
ไม่ช้า เสียงโหยหวนของเนื้อเยื่อยักษ์ก็อ่อนลงเรื่อยๆ สุดท้าย เสียงก็หายไปอย่างสมบูรณ์