Monster Paradise - ตอนที่ 1669 สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าจ้าวเทวะ
ตอนที่ 1669 สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าจ้าวเทวะ
ในอาณาจักรเสมือน เขตแดนเทพของหลินฮวงกระจายออกไปกว้าง ห่อหุ้มหลายเขตดาว
ผนึกเต๋าสีทองลอยเหมื่นอดวงอาทิตย์ด้านบนเขตแดนเทพ มันเปล่งแสงสีทองนับไม่ถ้วนไปไกล และกลิ่นอายท่วมท้นก็กระจายไปทุกทิศทางเหมือนคลื่น
สําหรับสัมผัสของวอยด์ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยโดนผนึกเต๋ในอาณาจักรวัตถุนั้นเหมือน อาหารอันโอชะที่ทําให้พวกมันน้ําลายไหล
ในอาณาจักรเสมือน สิ่งแรกที่สัมผัสกลิ่นอายผนึกเต๋ของหลินฮวงได้คือวอยด์ที่อยู่ในเขตแดนเทพเขาเอง
พวกมันเหมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด เร่งรีบไปหาหลินฮวง
เนื่องจากนี้เกิดขึ้นในเขตแดนเทพเขา เขาจึงสามารถสัมผัสการเคลื่อนไหวของวอยด์ได้ชัด
หลินฮวงไม่ตื่นตระหนก เขากลับรู้สึกตื่นเต้น
เหตุผลเพราะเขาสัมผัสได้ชัดว่าวอยด์นับร้อยเหล่านี้คือจ้าวเทวะขั้นต่า มีส่วนน้อยที่เป็นขั้นกลาง ไม่ใช่แค่นั้น พวกมันยังเป็นแค่จ้าวเทวะขั้นกลางทั่วไป
สําหรับหลินฮวง ไม่ว่าจะมีมากแค่ไหน พวกมันก็ไม่พอจะคุกคามเขา
วินาทีต่อมาหลังผนึกเต๋ก่อตัว วอยด์ตัวแรกก็ปรากฏต่อหน้าหลินฮวง
มันเป็นมอนสเตอร์ร่างมนุษย์ถือดาบ มันมีร่างกายกํายำ และตัวของมันก็บดบังด้วยชุดเกราะเต็มตัว มันมีหน้ากากขาวคลุมหน้า แขนทั้งหกข้างของมันล้วนถืออาวุธ หอก กระบี่ ดาบ ง่าว ดาบตะขอและโล่ อาวุธห้าชิ้นและโล่หนึ่งชิ้นถือได้ว่าเป็นการลงตัวที่สมบูรณ์
คิงคองหน้าขาว.. หลินฮวงจํามันได้แต่แวบแรก
คิงคองหน้าขาวที่กลายเป็นวอยด์ได้พุ่งไปหาหลินฮวง ทันทีที่มันกําลังจะโจมตี ล่าแสงสีแดงก็พุ่งผ่านอากาศ เหมือนสายฟ้า และเจาะทะลุหน้าผากมัน
หลังผสานเข้ากับพลังงานต้นกําเนิดนี้ ผนึกเต๋าของหลินฮวงก็ดูสว่างขึ้น แม้นจะยากจะมองด้วยตาเปล่า
คิงคองหน้าขาวเพิ่งโดนฆ่าไปไม่นาน ตัวที่สองและสามก็ปรากฏ
หนึ่งตัวนั้นเป็นมังกรเลือดบริสุทธิ์ ทั้งตัวมันคลุมด้วยเกราะมังกรทอง และขนาดมันก็ใหญ่เทียบได้กับดาว
อีกตัวคือลิงบาบูนขนหยิก แม้มันจะเล็กกว่ามังกรมาก มันก็ยังใหญ่พอๆกับภูเขาและสูงเป็นหมื่นเมตร
พอทั้งสองปรากฏ พวกมันก็เล่นงานกันแทน ราวกับพวกมันคือศัตรูคู่อาฆาต พวกมันเป็นหลินฮวง
ถ้านี่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ หลินฮวงคงดูพวกมันสู้กัน แล้วรอเก็บเกี่ยว
แต่ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการผสาน ยิ่งยื้อนาน มันยิ่งเกิดเรื่องแย่
ดังนั้น เขาจึงไม่รอให้พวกมันสู้กัน เขาโจมตี และจบการต่อสู้ที่อาจจะน่าสนใจนี้ทันที
สายฟ้าสีแดงเลือดสองสายพรากชีวิตวอยด์สองตัวง่ายๆ
หลังทั้งสองตาย พวกมันก็เปลี่ยนเป็นก้อนพลังงานต้นกําเนิดสองก้อนซึ่งโดนผนึกเต๋าของหลินฮวงดูดไป
หลินฮวงอดเลิกคิ้วไม่ได้ขณะมองผนึกเต่ดูดซับพลังงานต้นกําเนิดสามก้อน
ข้าอยากดูว่าเจ้าจะรับได้มากแค่ไหน
ทันทีที่หลินฮวงพูด มอนสเตอร์ระลอกสามก็ปรากฏ ครั้งนี้มันคือมอนสเตอร์อีกสองตัว
เขาโจมตีและฆ่าพวกมันสองตัวทันทีโดยไม่ลังเล ปล่อยให้ผนึกเต๋าของเขาดูดพลังงานต้นกําเนิดต่อไป
หลังจากนั้น วอยด์ก็เริ่มมาถึงเรื่อยๆ
หลินฮวงฆ่าทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที่ เขาก็ฆ่าวอยด์ไปเป็นร้อยแล้ว
ผนึกเต๋าของเขาเหมือนเหยื่อล่อ ดึงดูดวอยด์มาที่ละตัว
ตอนผนึกเต๋ดูดซับพลังงานต้นกําเนิดของวอยด์ตัวที่ร้อย สุดท้ายมันก็อิ่มตัวและเริ่มหดกลิ่นอายมัน
หลินฮวงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยพอเห็นแบบนี้
ในระดับหนึ่ง ตอนนี้เขาถือได้ว่าประสบความสําเร็จแล้ว
แต่ทว่ ภายในระยะของเขตแดนเทพเขา เขายังสัมผัสได้ว่าวอยด์กําลังมุ่งหน้ามาทางเขาเรื่อยๆ
พอผนึกเต๋าหดกลิ่นอายมัน เขตแดนเทพที่กระจายรอบหลินฮวงก็เริ่มพัง
นี่ไม่ใช่เพราะมันเสียหาย แต่เพราะมันจบสิ้นการสําแดง
แสงสว่างวาบในดวงตาของหลินฮวงตอนเขาเห็นพวกวอยด์ยังคงมุ่งหน้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่ง
สายฟ้าสีแดงเลือดนับสิบยิงออกจากแขนเสื้อเขาประดุจสายฟ้าฟาด จู่โจมมอนสเตอร์ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เดิมเขาคิดว่าจะใช้ผนึกเต๋เป็นเหยื่อเพื่อล่อวอยด์หลายตัว เมื่อเขาฆ่าพวกมัน เขาจะได้รับพลังงานต้นกําเนิดจํานวนมาก
เขาไม่คิดว่าพลังงานต้นกําเนิดของวอยด์ที่เขาฆ่าจะโดนดูดซับโดยผนึกเต๋าเขาอย่าง สมบรณ์ นี่จะทําให้เขาไม่ได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติม
พอเห็นว่าเขตแดนเทพของเขากําลังพัง เขาก็ไม่อยากปล่อยโอกาสล่านี้ให้ผ่านไป เขาโจมตีโดยไม่ลังเล
อย่างน้อย เขาก็สามารถฆ่าวอยด์ 28 ตัวได้ก่อนเขตแดนเทพเขาจะพัง จากนั้นเขาก็ใช้ดาบจิตเทวะไปเก็บสะสมก้อนพลังงานต้นกําเนิด
แต่ทว่า วินาทีก่อนเขตแดนเทพที่หลินฮวงสําแดงจะพังลงอย่างสมบูรณ์ วังวนมิติสีดําพลันปรากฏเหนือผนึกเต๋า
หลินฮวงจับจ้องวังวนมิติ ก่อนมันจะก่อตัวเต็มที่ กลิ่นอายน่ากลัวอย่างมากก็ถูกส่งมาจากอีกด้าน
สัญชาตญาณของหลินฮวงเริ่มร้องเตือน ขนของเขาตั้งชั้น แผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น มันรู้สึกราวกับว่าสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวกําลังจ้องมองเขาจากอีกฝั่ง เขาสัมผัสโดยสัญชาตญาณว่าพลังของอีกฝ่ายนั้นเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ ต่อหน้ามัน เขาเหมือนมด
เหนือกว่าจ้าวเทวะ… ความคิดนั้นผุดขึ้นในหัวของหลินฮวง
มันราวกับมีคนร่ายคาถาห้ามขยับใส่เขา เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย เขาทําได้แค่มองวังวนมิติก่อตัวตรงหน้า
สิ่งเดียวที่เขาทําได้คือหวังให้เขตแดนเทพที่เขาสําแดงรีบหายไปโดยไว เขาอยากทําให้มันพังซะเองเลยถ้าเป็นไปได้
ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้น เขาถึงมีโอกาสรอด
หลินฮวงรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปนับสิบล้านปี ณ ตอนนี้
อย่างไรก็ตาม รังสีแสงสีทองพลันตัดผ่านอากาศจากทิศทางหนึ่ง และยิ่งใส่เขตแดนเทพของหลินฮวง ไม่ใช่แค่นั้น มันยังพุ่งเข้าวังวนมิติดอย่างแม่นยําอีกด้วย
วังวนมิติที่ยังก่อตัวพลันระเบิด ในเวลาเดียวกัน เสียงร้องด้วยความโกรธก็ดังมาจากอีกด้าน
เสียงกรีดร้องนั่นทะลุผ่านวังวนมิติทันทีและพุ่งใส่เขตแดนเทพของหลินฮวง
ทุกที่ที่มันผ่านจะโดนบดขยี้จนไม่หลงเหลืออะไร
ความเร็วของมันยังเกินกว่าความเร็วแสง
ขณะมองคลื่นเสียงที่พุ่งตรงมาทางเขา หลินฮวงก็สามารถจินตนาการได้ว่าตัวของเขาจะระเบิดเละเป็นโจ๊ก
แต่วินาทีต่อมา เสียงดังสนั่นที่เต็มไปด้วยพลังทําลายล้างก็ดังขึ้น!
ไสหัวไป!
เสียงนี้ได้หยุดคลื่นเสียงที่พุ่งมาอย่างฉับพลัน…