Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 109
กระจกกันกระสุนได้ถูกเจาะออกมาด้วยเข็มเหล็กของสัตว์อสูรยุงตัวนั้น
ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆก่อนะส่งสัญญาณให้ชายอีกคนตามเขามา
พวกเขาในตอนนี้มาไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับแล้ว
เขาหยิบค้อนกับสว่านออกมา เขาวางปลายสว่านไปที่กระจกกันกระสุนจากก็เอาค้อนทุบเบาๆตรงที่ยุงเจาะไว้ เกิดรอยแตกร้าวไปทั่วกระจก จากนั้นก็แตกและร่วงลงมา
เกาเผิงที่นอนอยู่บนโซฟา เขาต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงดังจากทางประตูสำนักงาน
เขาเดินไปตรวจสอบที่กล้องวงจรปิด แต่เขากลับไม่เห็นอะไรเลยทั้งๆที่กล้องก็ทำงานปกติ
‘คงมีคนเอาอะไรไปครอบกล้องไว้สินะ’
เรื่องที่มีคนพยายามหลอกล่อเขาไปที่คฤหาสน์เพิ่งผ่านได้ไม่นานนี่เอง ยังจะมีคนคิดจะบุกเข้ามาปล้นในสำนักงานของเขาเนี่ยนะ เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นติดๆกันแบบนี้ มันจะเกินไปแล้วนะ
เขาขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มากดโทรไปแจ้งตำรวจ
“สวัสดีครับคุณตำรวจ ผมมีเรื่องจะแจ้งครับ มีคนบุกเข้ามาในสำนักงานของผมนะครับ” เกาเผิงพูดอย่างใจเย็น
ทางตำรวจก็ได้ซักถามที่อยู่และสภาพของเกาเผิงทันที
“ผมอยู่ที่ถนนเหลียนหู ตำบลดาหยาน..” เกาเผิงให้ที่อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “มีคนพยายามทำลายประตูเข้ามา ส่วนผมปลอดภัยดีครับ อืม.. ผมขอถามอะไรหน่อยนะครับ หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ผมสามารถป้องกันตัวได้มั้ยครับ”
ทางตำรวจรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสำนักงานโดยทันที เขาขอให้เกาเผิงอยู่ในที่ปลอดภัย หากจะตอบโต้ก็ขอให้ทำตอนจวนตัวจริงๆ
เกาเผิงวางโทรศัพท์มองออกไปข้างนอก จากนั้นเขาก็ค่อยๆหายเข้าไปในความมืด
…….
ในที่สุดพวกเขาก็พังประตูสำเร็จ ชายสองคนเดินเข้ามาอย่างระมัดระวังเพราะที่มืดสนิทไม่ได้เป็นไฟสักดวง
พวกเขามีท่าทีผ่อนคลายเล็กน้อย ชายคนหนึ่งมองไปที่กล้องวงจรปิด กำลังจะเดินไปหมายมั่นจะทำลายกล้อง
“เสียเวลาน่า รีบขโมยของออกมาและก็ออกไปกันเถอะ” ชายอีกคนปามและดึงแขนของเขา
เขาเดินไปเปิดไฟแต่เปิดไม่ติด ‘ที่นี่ไม่ได้จ่ายค่าไฟรึไง’
“ลูกพี่ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ”
“ฉันเปิดไม่ได้ สงสัยพนักงานที่นี่จะสับคัทเอ้าท์หลังเลิกงาน” เขากล่าวด้วยเสียงเย็นแสดงถึงความไม่พอใจ
พวกเขาพยายามควานหาห้องแล็บ เขาผลักไปที่ห้องๆหนึ่งที่มีเสียงน้ำไหลจากข้างใน
“นั่นอะไรน่ะ มีอุปกรณ์ที่พวกเขาลืมปิดอย่างงั้นหรือ”
อุปกรณ์ทดลองที่อยู่ในสำนักงานแห่งนี้ได้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าสำรองเพื่อป้องกันเหตุขัดข้องจากไฟฟ้า
มีสัญญาณไฟสีเขียวกระพริบอยู่ช้า พวกเขาเห็นเงาดำสีขนาดใหญ่ถูกแช่กระบอกทดลองขนาดใหญ่ สีไฟที่ริบหรี่ทำให้เห็นเพียงแค่บางส่วนของมันเท่านั้น
สิ่งที่มีชีวิตที่อยู่ข้างในส่งเสียงอู้อี้และขยับตัวเล็กน้อย
“ละ ลูกพี่ นี่มันตัวอะไรกัน” เขาสั่นและพูดติดอ่าง
“มันอาจจะเป็นการทดลองบางอย่างของสำนักงงานแห่งนี้ก็เป็นได้” เขารู้ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาย่างก้าวมาที่สำนักงานเถื่อนรึไงกัน
“รีบไปหาของมีค่ากันเถอะ หากเราไม่ไปกวนมัน มันก็คงไม่ทำอะไรเราหรอกมั้ง”
พวกเขาหาบางอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่พบอะไรมาก เพราะของส่วนใหญ๋เกาเผิงใช้ไปหมดแล้ว
พวกเขาไม่รู้ว่าของพวกนี้มีค่ารึเปล่า เขาจับยัดทุกอย่างลงในกระเป๋าและเตรียมตัวออกไป
ส่วนเกาเผิง เขาซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดๆของสำนักงาน เขาได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจน
เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะพวกเขาประสงค์แค่ทรัพย์เท่านั้นไม่ต้องการเอาชีวิต เขาควรจะอยู่ที่นี่รอให้พวกเขาออกไป หรือขวางพวกเขาและถ่วงเวลาให้มากที่สุดก่อนที่ตำรวจจะมา
ขณะที่เขากำลังจะตัดสินใจอยู่นั้น จู่ๆข้อมูลบางอย่างก็ถูกส่งมาให้เกาเผิง
“–วิวัฒนาดการมืดสำเร็จ— แมงมุมเกราะภูต”
มุมปากของเกาเผิงได้ยกตัวขึ้นทันที
ชายทั้งสองคนกำลังออกจากสำนักงานอย่างใจเย็น พวกเขามองรอบๆก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้อง ชายที่อยู่ตรงมุมห้องได้โบกมือทักทายชายทั้งสอง
“พวกคุณหาของมาสักพักแล้ว พวกคุณคงเหนื่อยมาก มาพักดื่มชากันสักหน่อยมั้ยครับ”
พวกเขาสะดุ้งตกใจทันที พวกเขามองหน้ากันและกันสักพัก จากนั้นก็พุ่งไปหาเกาเผิงอย่างรวดเร็ว
คนซ้ายคว้าออกมาอย่างรวดเร็ว ส่วนขวาก็ง้างค้อนของเขาที่ขนของเขาที่ตะขาบตัวเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา มันพันไปที่แขนของชายที่ถือค้อน
เขาส่งเสียงคำรามก่อนที่จะฟาดค้อนไปที่เกาเผิง “จะให้ดื่มชาหรอ งั้นฉันจะให้แกชิมรสชาติของค้อนของฉันแทนล่ะกัน”
เขาฟาดไปที่ศีรษะของเกาเผิงอย่างเต็มแรง แต่เขาก็แปลกๆเพราะหัวที่เขาฟาดมันนุ่มมากราวนุ่นเลย
ขณะที่เขากำลังสงสัยมองเกาเผิงที่นั่งอยู่บนพื้น
เกาเผิงที่นั่งอยู่บนพื้นจับไปศีรษะของเขา มันเหมือนที่อะไรบางที่นุ่มๆขว้างหัวของเขากับค้อนไว้
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะทักษะลับ เคลื่อนดารา ที่ความเสียหายถูกส่งไปยังสัตว์อสูรที่ทำสัญญาที่อยู่ใกล้ๆ การโจมตีเมื่อกี้ได้ถูกส่งไปที่สตีปี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รู้สึกคันๆเหมือนยุงกัดก็เท่านั้นเอง
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังงงๆอยู่ ก็มีใยแมงมุมพุ่งมาพันร่างของทั้งคู่ไว้ พวกเขาติดอยู่ในใยไม่สามารถขยับตัวได้
ในขณะที่พวกเขาพยายามดิ้นออกจากใย ก็มีเสียงขาแมงมุมขนาดยักษ์ค่อยเดินมาหาพวกเขา
สตีปี้เดินไปหาพวกเขาอย่างช้า มันมองโจรทั้งสองด้วยดวงตาสีแดงเลือดที่ฉายแววของความดุร้ายออกมา
‘พวกแกกล้าทำร้ายเจ้านายของฉัน พวกแกรนหาที่ตาย!!!’
ชายทั้งสองมองสตีปี้ด้วยสายตาที่หวาดกลัว มันได้ยกขาก่อนจะพุ่งลงไปแทงชายที่อยู่ข้างล่าง
*ฉึก*
เกาเผิงได้แต่ถอนหายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคน ถึงจะไม่ได้ฆ่าด้วยมือตัวเองก็เถอะ แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่ดีเกี่ยวเรื่องนี้
เขาไม่รู้ว่าทำไมเรื่องถึงจบแบบนี้
หากพวกเขาเจอเกาเผิงแล้ววิ่งหนีไป เขาก็แค่ไปจับตัวพวกเขาและส่งให้ตำรวจ
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาเลือกที่จะสู้
‘โทษที่นะ ก็เพราะพวกคุณอยากจะฆ่าฉัน ฉันเลยจำเป็นต้องฆ่าคุณแทน หวังว่าจะไม่ถือสากันนะ’ เกาเผิงคิด