Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 127
ตอนนี้เกาเผิงกำลังค้นคว้าหาวิธีที่จะทำให้ซิลลี่แข็งแกร่งกล้าหาญมากขึ้นโดยที่ไม่ทำให้มันตกใจตายเสียก่อน
หลังจากที่เกาเผิงได้มันซิลลี่ไว้ที่ต้นไม้ มันดูประสาทมาก มันหมุนวนรอบๆต้นไม้เพื่องหัวให้เชือกหลุดแต่ผลที่ได้คือมันกลับเวียนหัวซะเอง มันทำซ้ำไปซ้ำมาจนเกาเผิงเลิกสนใจมัน
พอผ่านไปสักพักเกาเผิงไม่เห็นซิลลี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปดูกลับพบว่ามันได้นอนหลับอยู่ตรงพื้นหญ้า หากสีของมันไม่แสบตา ตัวมันคงจะกลมกลืนเข้าไปกับพื้นหญ้า
เกาเผิงอดชมมันไม่ได้ที่มันสามรถหลับได้ในสภาพเช่นนี้
ตั้งแต่ที่เกาเผิงได้เริ่มสอบ เขาได้ตัดสินใจลดเวลาทำงานที่สำนักงานนกร็อคทะยานฟ้าของตัวเองลง และรับสมัครผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเข้ามา สองพนักงานใหม่ก็มีลูกค้าประปรายเนื่องจากค่าบริการถูกกว่าของเกาเผิง
ส่วนเกาเผิงได้เปลี่ยนการลูกค้า เขารับเฉพาะลูกค้าที่สำคัญและเงินถึงเท่านั้น ไม่รับลูกค้าแบบเมื่อก่อนแล้ว
และตอนนี้เขาไม่ต้องกัวลเรื่องแบบเมื่อก่อนแล้ว เพราะคุณตาของเขาได้มอบเงินมาให้ผ่านลุงหลิว เป็นเงินจำนวนมากที่เขาไม่จำเป็นต้องไปทำงานพิเศษแบบเมื่อก่อนเลย เพราะฉะนั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าที่เขาไปทำงานที่สำนักงานนั้น เพื่อไปหาอะไรทำแก้เบื่อทำเท่านั้น
……..
ผ่านไป 8วัน ผลสอบเอนทรานซ์รอบแรกก็ได้ประกาศออกมา
มีผู้คนตื่นแต่เช้าตื่นแต่เช้าเพื่อตรวจสอบคะแนนของพวกเขา
ลุงหลิวก็ตื่นแต่เช้าเช่นกัน เขาตื่นขึ้นเอื้อมมือไปหยิบแว่นตาและเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์คะแนนของเกาเผิง
แม้ว่าเขาจะสามารถรู้ได้ก่อนใครผ่านเส้นสายของตัวเองแต่เขาอยากลุ้นกับผลคะแนนแบบคนอื่น
….
เมืองหยูโจว ตึกของกลุ่มบริษัทเซ้าท์เทิร์นสกาย ชั้นที่ 99
“ท่านประธานครับ” เลขาชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องท่านประธานพร้อมกับวางเอกสารสัญญาหลายฉบับไว้ที่ต๊ะที่จีฮันอู
หลังจากที่จีฮันอูกลับมาจากเมืองฉางอาน เขาก็เปลี่ยนเลขาทันที และไม่มีใครรู้ว่าเลขาหลิวนั้นหายไปไหน
“ขอบใจมาก ไปได้แล้ว” จีฮันอูพยักหน้า
เลขาหนุ่มโค้งด้วยความนอบน้อม เขาไม่กล้าสบตาท่านประธาน เขาไม่รู้ว่าเหตุใดเลขาคนเก่าถึงถูกปลดออกแล้วจู่ๆ เขาถึงได้รับเลือกมาแทน ทำให้เขารู้สึกกดดันมาก
เมื่อท่านประธานไม่มีอะไรให้เขารับใช้ เขาจึงรีบออกจากห้องทันที
พอเลขานุการออกจากห้องไป จีฮันอูไปแอบเปิดคอมเข้าไปที่เว็บไซด์อย่างงกๆเงิ่นๆ
เขาค่อยๆพิมพ์ตัวอักษรทีละตัวถูกบ้างผิดบ้างตามประสาคนแก่ ทำให้ภาพที่ออกดูแปลกมากขัดกับภาพลักษณ์ที่หยิ่งทรงและทรงพลังของจีฮันอู
ไม่รู้ด้วยเหตุใดหลังจากเปิดเว็บไซด์จีฮันอูอารมณ์ดีมาก เขาได้เซ็นอนุมัติโครงการต่างๆผ่านอย่างรวดเร็วหลายฉบับ
……
ลุงหลิวได้รีบเดินไปหาเกาเผิงที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
เขาเดินผ่านสวนหน้าบ้านและกำลังเดินไปที่ประตู เขามองไปที่หน้าต่างเห็นเกาเผิงนอนหลับอยู่ที่โซฟา
“อะแฮ่ม” ลุงหลิวส่งเสียงเรียกเกาเผิงผ่านหน้าต่าง
เกาเผิงได้พลิกตัวเปลี่ยนท่านอนและกลับไปหลับต่อ
‘เด็นคนนี้จะขี้เกียจไปถึงไหนเนี่ย’ ลุงหลิวคิด เขาได้ส่งสัญญาณให้สัตว์อสูรทั้งสองปลุกเกาเผิง
สตีปี้ที่หลับอยู่ใกล้ๆโซฟาได้ตื่นขึ้นมา มันมองเกาเผิงกับลุงหลิวอย่างงงๆ มันใช้เท้าขยี้ตาของมัน
ส่วนต้าซื่อที่นอนอยู่บนพื้น มันเห็นลุงหลิวแล้วแต่มันก็กลับไปนอนต่อ
ลุงหลิวไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าทั้งเจ้าของและสัตว์อสูรจะขี้เกียจแบบนี้
เขาตั้งใจจะมาบอกข่าวดีกับเกาเผิงแท้ๆแต่เขากับพบว่าเกาเผิงได้นอนหลับอุตุแบบนี้
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
ลุงหลิวได้ตัดสินใจเคาะหน้าต่างเบาๆเรียกเกาเผิง
เกาเผิงตื่นขึ้นมา ค่อยๆลุกขึ้นมองไปที่หน้าต่าง เมื่อเห็นคนมายืนตรงหน้าต่างเขาก็ตกใจในตอนแรก หลังจากที่มองดีๆแล้วพบว่าเป็นลุงหลิว เขาก็รู้สึกโล่งอก
“ลุงหลิวมีเรื่องเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เกาเผิงถามพลางขยี้ตา
“นี่เสี่ยวเผิงรีบๆดูผลสอบของหลานสิ” ลุงหลิวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
”…” เกาเผิงหันไปมองนาฬิกาในห้องนั่งเล่นและพูดว่า “ลุงหลิวนี่เพิ่งจะ ตี4ครึ่งเองนะครับ”
“ก็คะแนนมันออกมาน่ะสิรีบๆเปิดดูได้แล้ว” ลุงหลิวพูดด้วยน้ำเสียงเร่งเร้า
‘นี่ลุงหลิวเขาตื่นเพื่อมาดูคะแนนด้วยกันงั้นหรือ?’ เกาเผิงลุกจากโซฟาอย่างไม่เต็มใจ เขาเดินไปเปิดโน้ตบุ๊ค ระหว่างรอเครื่องเปิดเขาก็เดินไปเปิดประตูให้ลุงหลิวเข้ามา
ลุงหลิวรีบโบกมือปฏิเสธทันที “ไม่ต้องหรอกเกาเผิง ฉันมาที่นี่เพื่อมาบอกให้เสี่ยวเผิงมาตรวจคะแนนแค่นั้นแหละ ก็เลยปลุกเสี่ยวเผิงให้ตื่นขึ้นมาดูน่ะ” หลังจากเขาพูดเสร็จ เขาก็รีบเดินออกไปทันที
‘ฉันควรจะขอบคุณตาแก่นี่ดีมั้ยเนี่ย’
เกาเผิงเดินไปที่เว็บไซด์เพื่อดูคะแนนแต่เขาได้รับการแจ้งเตือนว่า ‘บัญชีนี้ได้ถูกล็อคอินเข้าสู่ระบบจากที่อื่น’
เกาเผิงขมวดคิ้ว เขาคลิกไปตำเหน่งที่ตั้งของคนที่ล็อคอินแทนเขา ‘เมืองหยูโจว ตึกของกลุ่มบริษัทเซ้าท์เทิร์นสกาย’
เกาเผิงตกตะลึง เขารู้ได้ในทันทีว่าใครเป็นคนที่ทำอย่างนั้น
ในขณะเดียวกันก็มีชายชราจามขึ้นมาทันที
เกาเผิงกดเลือกที่เมิงฉางอานและกรอกรหัสประจำตัวผู้เข้าสอบของเขา
เขารอสักพัก จากนั้นข้อมูลก็ได้ปรากฏขึ้นมา
[ชื่อ] เกาเผิง
[อายุ] 18
[คะแนน] 710
[อับดับ] ที่ 1ในเมืองฉางอาน
‘ไม่น่าเชื่อ นี่ชั้นได้ที่1’ เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก การได้ที่ 1แบบนี้ไม่ต่างกับการได้เป็นแชมป์เลย
โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงดูให้สัตว์อสูรตัวเดียวให้ถึงชนชั้นนักรบซะส่วนใหญ่ เพราะแค่ตัวเดียวก็ได้คะแนนมากสัตว์อสูรชนชั้นขุนนาง 5ตัวรวมกันซะอีก
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่เลี้ยงสัตว์อสูรหลายๆตัวในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มของสัตว์อสูร ผู้ฝึกสอนอาจจจะเลือกให้สัตว์อสูรธาตุไฟให้เป็นชนชั้นนักรบ ส่วนตัวที่สองหรือที่สามก็จะเอาพวกธาตุลมหรือไม้มาอัพเลเวลตามลำดับ สาเหตุที่เลือกธาตุตามนี้เพื่อที่จะใช้ธาตุลมกับไม้เสริมความแข็งแกร่งของธาตุไฟและทำให้กลุ่มของสัตว์อสูรแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
……..
ขณะเดียวกัน ในวิลล่าอีกแห่งหนึ่งในชานเมืองของฉางอาน มีชายหนุ่มพูดด้วยความโกรธว่า
“ทำไมฉันถึงได้ที่สอง ทั้งฉันและเขาต่างมีสัตว์อสูร 3ตัวเท่ากัน ชนชั้นนักรบ 1ตัว ชนชั้นขุนนาง 2ตัว แล้วทำไมฉันถึงไม่ได้ที่หนึ่ง!!”
“ท่านคะ ดิฉันได้ตรวจสอบมาแล้วพบว่า หนึ่งในสัตว์อสูรที่ประอลงในวันสอบนั้น มีตัวหนึ่งที่เป็นธาตุดินที่ต่อสู้กับธาตุไม้ เลยทำให้เขาได้คะแนนเพิ่มขึ้นอีก 10% ค่ะ” มีเสียงของผู้หญิงดังมาจากด้านข้าง
หลังจากนั้นวิลล่าก็เงียบสักพักจากนั้นก็มีเสียงคนทำลายข้าวของด้วยความโมโห