Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 136
“อ้า การได้นอนหลังกินอิ่มแบบนี้ช่างดีจริงๆ” เกาเผิงพูดพลางถอนหายใจ จริงๆเขายังไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่
“ชี่ชี่” สตีปี้ที่กินอิ่มนอนหลับผิดกับเกาเผิง มันพยักหน้าเห็นด้วยกับเจ้านายพร้อมเรอออกมา
เกาเผิงจ้องไปที่แมงมุมที่ซื่อบื้อตัวนี้
“ฉันว่าคืนนี้พวกเราอาจจะได้กินแมงมุงย่างบาบีคิวใช่มั้ยต้าซื่อ”
ต้าซื่อพยักหน้าตกลงในทันที
สตีปี้รู้สึกไม่ดีเริ่มค่อยๆถอยห่างจากเกาเผิงและมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
…….
“ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะเข้าวิถีแห่งเซนน่ะครับ ฮะๆ” พิธีกรกล่าวหัวเราะ “ไม่แข่งขัน ไม่ต่อสู้ มุ่งเน้นชีวิตที่มีแต่ความสงบ เขาดูเหมือนวัยรุ่นเท่าไปที่ก่อนจะเกิดมหาภัยพิบัตือีกนะครับ”
“หรืออาจจะแค่ขี้เกียจเฉยๆก็ได้ครับ” ดวนหวู่ไม่รู้จะพูดอะไรดี
พิธีกรเกือบจะสำลักอากาศด้วยความตกใจ เขาฝืนยิ้ม หากเขายังพูดไปเรื่อยแบบนี้ต่อไป เห็นทีเทปหน้าคงไม่ต้องเห็นหน้าเขาอีกแล้วสินะ
…….
ที่บ้านลุงหลิว
ลุงหลิวพยายามกระตุ้นให้เฟลมมี่ไปข้างนอกเพื่อไปออกกำลังกาย
“หากยังขี้เกียจแบบนี้ต่อไปแกได้อ้วนเป็นแน่ๆ เร็วเข้าออกไปข้างนอก เดี๋ยวเสี่ยวเผิงต้องโทษฉันแน่ๆ ที่ปล่อยให้สัตว์อสูรของเขาอ้วนแบบนี้”
เฟลมมี่กรอกตาทำเป็นหูทวนลม
“ออกไปออกกำลังกายเดี๋ยวนี้!!” ลุงหลิวตะหลิวตะโกนสั่งเฟลมมี่จนเส้นเอ็นขึ้น
ทันใดนั้นภาพของเกาเผิงก็โผล่ออกมาที่จอโทรทัศน์
เฟลมมี่ที่กำลังเดินออกจากบ้าน ได้หันมาเห็นพอดี มันได้เห็นหน้าเจ้านายมันจึงปรี่ไปหาด้วยความคิดถึง มันจับหน้าจอทีวีด้วยปีกของมันจากนั้นยื่นจงอยปากเข้าไปเพื่อที่จะจูบ…
*เปรี๊ยะ*
แต่ดูเหมือนเฟลมลี่จะจูบแรงไปหน่อย มันได้เจาะทะลุจอทีวี ไฟฟ้าได้ช็อตมัน ทำให้มันงุนงงออกที่จะสลบลงไป
ซอฟตี้ที่เดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะมองเฟลมมที่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
‘ยี้ เจ้านกอ้วน’
ลุงหลิวเห็นสภาพของมันก็อดสงสารไม่ได้ ที่มันแสดงพฤติกรรมแบบนี้ คงเป็นเพราะว่ามันอยู่ห่างจากเจ้านายของมันแน่ๆ
เขาหวังว่าเสี่ยวเผิงจะกลับมาเร็วๆนี้
…….
“พื้นที่ป่ารอบนอกจากแทบจะไม่มีอันตรายเลย” เกาเผิงพูดพลางลูบท้องที่หิวของเขา “งั้นเข้าไปในใจกลางของป่ากันเถอะ”
ที่ภูเขายังแห่งนี้เคยเป็นอุทยานแห่งชาติมาก่อน พื้นที่นี้ที่เคยเห็นป่ารกอยู่แล้ว พอหลังเกิดมหาภัยพิบัติก็ยิ่งทำให้รกมากขึ้นไปอีก ยิ่งเดินเข้าไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเดินลำบากมากขึ้น
ต้าซื่อที่คลานไปพร้อมกับตัดพวกเถาวัลย์ไปตามทาง มันตัดจนขากรรไกรมันเริ่มระบมแล้ว มันจึงเปลี่ยนเป็นพยายามปืนป่ายข้ามสิ่งกีดกว้าง แต่สรีระของมันก็ไม่เอื้ออำนวยอีก ทำให้มันเดินทางอย่างยากลำบากมาก
ดัมมี่ที่ทนไม่ไหวจึงก้มลงไปหยิบต้าซื่อขึ้นมาอุ้ม ทำให้ต้าซื่อดีใจส่ายหนวดไปมาอย่างมีความสุข
สตีปี้ที่เป็นอย่างนั้นมันก็อยากถูกอุ้มบ้าง มันจึงส่งสายวิ๊งๆใส่ดัมมี่ ตาดัมมี่ได้สนใจเดินผ่านมันไป
สตีปี้มันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเดินป่าเลยแต่มันอยากขี่หลังดัมมี่เพราะดูน่าสนุกดี อยากจะลองบ้าง
พวกเขาได้เดินมาถึงส่วนที่ลึกของป่าแล้ว ที่ตรงนั้นมีเสาหินสีขาวสูง 7เมตรที่โดดเด่นในใจกลางของป่า
“นั่นคือเสาหินที่ชายหัวโล้นบอกสินะ” เกาเผิงกล่าว
[วัตถุดิบ] หินทรายปฐพีขาว
[วิธีใช้] สามารถใช้กับสัตว์อสูรธาตุดินกับธาตุทราย ใช้ในปริมาณที่เล็กน้อยเพื่อบำรุงกระเพาะอาหารของสัตว์อสูรธาตุดินกับธาตุทราย
[วิธีใช้ด้านอื่น] สามารถดึงดูดเหล่าสัตว์อสูรได้
บนเสาหินมีคำขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนด้วยหมึกสีดำ เขียนไว้ว่า ‘เสาคะแนน’
ถึงจะเสาคะแนนจะอยู่ตรงหน้าเกาเผิงแต่เขาไม่สามารถทำลายมันได้ในตอนนี้ เนื่องจากได้มีเถาวัลย์มาพันรอบๆเสานี้ไว้
[ชื่อสัตว์อสูร] เถาวัลย์ไม้ผี
[เลเวล] 22 (ชนชั้นนักรบ)
[ระดับ] ปกติ
[คุณสมบัติ] ธาตุพิษ / ไม้
[จุดอ่อน] ธาตุไฟ
ตอนนี้มันได้พรางราวกับเถาวัลย์ที่พบตามป่าทั่วไป
‘โอ้ เจ้านี่คิดว่าจะหลอกฉันได้อย่างงั้นเหรอ’
ริมฝีปากของเกาเผิงโค้งเป็นรอยยิ้ม
‘แกแสดงเก่งมาก งั้นฉันจะให้แกได้มีโอกาสรับรางวัลตุ๊กตาทอง’
เกาเผิงหันหลังและไปรวบรวมกิ่งไม้กับใบไม้แหล้งมากกองรวมกัน
“ต้าซื่อมานี่สิ” เกาเผิงพูด
ต้าซื่อรีบวิ่งไปหาเกาเผิงทันที จากนั้นเกาเผิงได้สั่งให้มันจุดไฟด้วยกระแสไฟฟ้า
หลังจากนั้นต้าซื่อเริ่มชาร์จไฟฟ้ารอบตัวมัน
ถึงตอนนี้ต้าซื่อจะเป็นชนชั้นนักรบและปล่อยไฟฟ้าได้แล้ว แต่มันยังไม่แรงพอที่จะช็อตให้ตายด้วยไฟฟ้า เพราะธาตุไฟฟ้าเป็นคุณสมบัติรองของต้าซื่อ แค่เอามาจุดไฟได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ประกายไฟลั่นเปรี๊ยะๆ จากนั้นกองใบไม้ก็ได้ติดไฟ จากไฟกองเล็กๆ ได้ลุกลามใหญ่ขึ้น
เกาเผิงลอบสังเกตเถาวัลย์ไม้ผีอยู่ตลอดเวลาพบว่ามันกระตุกอยู่แปปนึงก่อนที่จะนิ่งเหมือนเดิม
มันคิดเกาเผิงคงยังไม่รู้ถึงตัวตนของมันอย่างแน่นอน ตอนนี้มันเลยตีเนียนไว้ก่อน
เมื่อเกาเผิงได้เห็นอย่างนั้น เขาก็ยิ่งสุมไฟให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก
เถาวัลย์ไม้ผีเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ
‘ทำไมไฟถึงได้มาทางนี้’
ตอนนี้มันทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเพราะมันยังคิดว่าเกาเผิงยังไม่รู้ตัวและมันจะหาช่องว่างนั้นโจมตีเกาเผิง
แต่ไฟก็ได้ลามมาล้อมรอบมันใกล้ๆเรื่อยๆ
‘นี่มัน จะร้อนเกินไปแล้วนะ’
ตรงบริเวณปลายเถาวัลย์ของมันเริ่มที่จะถูกไหม้แล้ว
ตัวของมันเริ่มบิดเล็กน้อยและมันต้องฝืนอยู่นิ่ง ‘นักล่าที่ดีต้องใจเย็นๆดั่งสายน้ำ’ เถาวัลย์ไม้ผีคิด
ตอนนี้ไฟได้ล้อมเถาวัลย์ไม้ผีได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ไฟที่ลุกลามมาขนาดนี้จนทำให้มันไม่สามารถอยู่เฉยๆได้ต่อไปอีกแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะกลายพันธุ์มาแต่ใช้ว่าจะสามารถรับแรงไฟที่รุนแรงขนาดนี้ได้ ถ้ามันอยู่ต่อคงไหม้เป็นตอตะโกไปแล้ว
ขณะที่มันจะหนีออกไป ดัมมี่ที่ยืนรออยู่เงียบๆมาพุ่งไปเอื้อมจับเถาวัลย์ไม้ผีแล้วดึงมันมา
*ตูม*
เถาวัลย์ไม้ผีถูกดัมมี่จับและทุ่มลงมาที่พื้น ใบไม้ของมันปลิวว่อนไปในอากาศ