Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 159
ดังคำกล่าวที่ว่า เมื่อเทพจุติลงมาสู้ ครานั้นมนุษย์อาจต้องทนทุกข์ทรมาน
คลื่นกระแทกจากการต่อสู้ที่ประทะกันอย่างรุนแรง ได้แพร่กระจายไปรอบ ส่งผลให้สัตว์อสูรที่อยู่รอบๆต่างหนีตายเจ้าละหวั่น
เฉินซือเหอรู้สึกกระวกระวายใจ เหตุไส้เดือนยังสนใจเป้าหมายเล็กน้อยอย่างนางพญาแมงมุมตัวนี้ มันไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับมัน สู้เอาเวลาไปเตรียมตัวชิงดินแดนของมันคืนจากผู้ปกครองแห่งผืนทะเลทรายดีกว่า
ถึงอย่างอย่างนั้นผู้อำนวยการเฉินก็เฝ้าดูอย่างเงียบๆ เพื่อรอดูว่าการต่อสู้จะลงเอยแบบไหน
ไส้เดือนที่เพิ่งจะเลื่อนชนชั้นเป็นราชวงศ์ ทำให้ร่างกายของมันยังไม่คงที่ เมื่อมันรู้ว่าการโจมตีของมันเมื่อกี้ ไม่สามารถสร้างความได้เปรียบให้มันมากนัก ทำให้มันมุดลงดินเพื่อหลบหนีทันที
นางพญาแมงมุมแทงไปที่พื้นที่ไส้เดือนหลบหนีด้วยความโกรธ มันพยายามขุดตามมันไปแต่ก็ตามไม่ทันแล้ว
นางพญาแมงมุมตอนนี้ที่ร่างกายของมันเต็มไปด้วยรอยแผลจำนวนมาก จากนั้นมันก็อยู่นิ่งๆสักพัก ผิวสีเทาของมันค่อยๆปกคลุมรอยแผล ให้อาการบาดเจ็บของมันค่อยๆทุเลาลง
เกาเผิงสังเกตเห็นว่าตอนที่จ่าฝูงไส้เดือนเผ่ามนุษย์กินคนกัดไปขาของนางพญาแมงมุมปีศาจสีเทาในตอนนั้น เขาได้สังเกตถึงชั้นผิวหนังที่หนาของมันตรงรอยแผลที่แมงมุมได้ถูกกัด ด้วยเปลือกด้านนอกของแมงมุมนี้ทำให้ส่วนอื่นในร่างกายของแมงมุมไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
“นางพญาแมงมุมมันได้ใช้พลังงานอย่างมากในการต่อสู้เมื่อกี้ ดังนั้นตอนนี้มันต้องหิวมากแน่ๆ” ลุงหลิวกล่าวพลางหรี่ตามองมัน
แมงมุมขนาด 15เมตร ค่อยๆนอนแผ่ราบลงบนพื้น มองหันไปรอบอย่างระมัดระวัง ที่นี่มีอุโมงค์ถูกเจาะรอบตัวมัน มันไม่รู้ว่าไส้เดือนตัวนั้นจะมาหามันตอนไหน
หลังจากที่มันรอไปสักพักแล้วพบว่าจ่าฝูงไส้เดือนได้หนีไปแล้ว มันรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่พลาดโอกาสนี้ไป
อย่างไรก็ตามถึงตัวจ่าฝูงจะหนีไปแต่ก็ยังมีไส้เดือนลูกน้องอยู่เต็มที่นี่ เนื่องจากจ่าฝูงของมันหนีไปอย่างกะทันหัน พวกมันจึงไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี
นางพญาได้มองไส้เดือนเหล่านั้นอย่างเย็นชา ก่อนที่จะเปิดปากของมันอย่างดุร้าย
มันพ่นใยแมงมุมใส่เหล่าไส้เดือนพวกนั้น ใยแมงมุมที่หนาและเหนียวทำให้พวกมันหลายตัวติดกับใยแมงมุมไม่สามารถหนีไปได้
นางพญาค่อยดึงไส้เดือนที่ติดใยแมงมุมเข้าใกล้ๆ ปากของมัน
เกาเผิงเบิกตากว้างที่ได้เห็นว่านางพญามีวิธีการกินแบบนี้
‘หยั่งกำลังกินบะหมี่อยู่เลย’
เกาเผิงและคนอื่นมาซ่อนตัวในพุ่มหญ้าใกล้ๆกับที่ๆนางพญาแมงมุมปีศาจสีเทาอยู่
นางพญาแมงมุมปีศาจสีเทาที่กำลังกินไส้เดือนอยู่นั้น มันมีท่าทีเศร้าสอยเนื่องจากมันได้สูญเสียขาไปอีกข้างแล้ว จุดที่ไส้เดือนมันกัดเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด ทำให้มันสามารถฉีกกระชากได้ง่ายๆ
มันเสียขาเป็นเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ทำให้มันรู้สึกลำบากและยังปรับตัวกับการเดิน 7ขาไม่ได้เลย และนี่มันต้องเสียอีกข้างไปแล้ว
ขณะที่นางพญาแมงมุมปีศาจสีเทากำลังจะเดินกะเผลกๆไปหาทางออก กิ้งก่าเงาที่อยู่ใกล้ๆมัน ได้ปรากฏตัวออกมา
เจ้ากิ้งก่าได้เปิดปากกัดไปขาของแมงมุม และกระชากไปสุดแรง
“ก๊าซซซ”
แรงกัดของกิ้งก่าเงามันเกือบจะให้ขาของแมงมุมขาดอีกข้าง
นางพญาแมงมุมปีศาจสีเทากรีดร้องมันความโมโห มันได้เตะกิ้งก่าเงาให้ไปให้จากขาของมัน
‘เจ้าพวกนี้ทำไม พวกมันจ้องจะเล่นแต่ขาของฉันนักนะ’
แม้ว่าขาข้างนี้จะไม่ขาดแต่ก็บาดเจ็บหนักมาก ทำให้ตอนนี้มันเดินลำบากมากขึ้นกว่าเดิม
ทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มพลันขึ้นมาที่ใบหน้าของลุงหลิว
“หึ มันไม่รอดแน่” เขาพูดพลางมองไปบนท้องฟ้า
สายลมที่ผ่านอย่างรุนแรงมีเงาสีดำขนาดใหญ่ บดบังแสงอาทิตย์ที่อยู่บนศีรษะของพวกเกาเผิง สัตว์อสูรตัวนี้มันบินตรงมาที่พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้
มันได้ร่อนลงมาที่พื้น พร้อมกับออร่าที่ทรงพลัง
‘นี่มัน ออร่าของชนชั้นราชวงศ์นี่’
ทุกคนแทบจะกลั้นใจที่ได้เห็นสัตว์อสูรตัวนี้ทันทีและเส้นผมของพวกเขาตั้งขึ้นด้วยความตกใจ
ออร่าของมันเทียบไม่ได้กับสัตว์อสูรทั้ง 2ตัวเมื่อก่อนหน้านี้เลย
ผู้มาใหม่เป็นนกแร้ง แต่หากเทียบกับแร้งตัวอื่นๆ มันมีคอที่ดูหนากว่า มีดวงตาสีดำและขอบสีเลือดรอบตาดำของมัน ขนจากคอลงไปเป็นสีขาวล้วนทั้งหมด
แต่สิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับตัวมันก็คือกล้ามเนื้อของมัน ที่แน่นและดูแข็งแรงทั่วทั้งร่างกาย เวลามันสยายปีกปีกขึ้นก็ยิ่งมันให้รูปร่างของมันดูสวยงาม
ที่เท้าของมัน มีกรงเล็กสีเทาขนาดใหญ่ ที่ดูคล้ายกับตะขอที่แหลมคม
การปรากฏตัวของมันทำให้สถานการณ์ของนางพญาแมงมุมปีศาจสีเทาแย่ลงมากขึ้นไปอีก