Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 160
[ชื่อสัตว์อสูร] แร้งเครานัยน์ตาโลหิต (แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก)
[เลเวล] 41 (ชนชั้นราชวงศ์)
[ระดับ] ปกติ
[สถานะ] สุขภาพดี (สงบ)
[คุณสมบัติ] ธาตุลม
[จุดอ่อน] 1.ธาตุไฟฟ้า 2. ธาตุไฟ 3.ธาตุโลหะ 4.ธาตุความมืด
[ทักษะ] อำนาจแห่งสายลม เลเวล 3, กระเพาะทนทาน เลเวล 2
[ความต้องการในการยกระดับ] 1.วิวัฒนาการมืด 2.วิวัฒนาการศักดิ์สิทธิ์ 3.วิวัฒนาการโลหิต
เกาเผิงรู้ตื่นเต้นเป็นอย่างที่ได้เห็นมันใกล้ๆ เขาสงสัยว่า (แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก) หลังชื่อของมันหมายถึงอะไร เท่าที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอกของมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
แร้งตัวนี้มีไม่ได้มีหัวโล้นน่าเกลียดเหมือนแร้งตัวอื่น ที่ศีรษะของมันมีขนบางสีขาวคลุมเอาไว้ มันดูคล้ายกับหมวกสีขาวและที่ตาของมันก็มีลวดลายสีดำอย่างกับกรีดอายแชโดว์ ส่วนเปลือกตาก็ดูเหมือนถูกปัดด้วยสีแดง ทำให้มันดูเท่และเฟียสมาก
แร้งเครานัยน์ตาโลหิตยังไม่ลงไปกำจัดนางพญาแมงปีศาจสีเทามันทันที มันยืนละเมียดละไม สะบัดขนกำจัดฝุ่นรอบๆตัวมันออกไป
จากนั้นมันก็ได้ประสานปีกไว้ที่กลางลำตัว ก่อนที่จะก้มหน้าลงราวกับมันกำลังไว้ทุกข์หรืออะไรสักอย่าง
“เอ่อ มันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย” เกาเผิงสงสัย เขานึกว่ามันจะโหดร้ายป่าเถื่อนกว่านี้ซะอีก แต่กลับกลายเป็นว่ามันมีท่าทีที่สง่างามราวกับได้รับการดูแลมาอย่างดี
ผิดกับตอนที่ปรากฏตัวเข้ามาอย่างลิบลับเลย
“มันกำลังไว้ทุกข์ให้กับสัตว์อสูรตัวน่ะ” ลุงหลิวกล่าวอย่างเรียบๆ
เกาเผิงหันไปมองลุงหลิวอย่างสงสัย “ทำไมมันต้องไว้ทุกข์น่ะครับ”
“อ่อ.. ก็เพราะว่ามันดูหนังมากเกินไป..”
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ทุกๆคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็จ้องลุงหลิวเป็นตาเดียว หลี่ชิงได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา ก่อนจะกล่าวว่า
“อย่าบอกนะว่าเจ้าของแร้งตัวนี้คือ…”
“หืม นั่นสินะ ฮะฮ่าๆ”
ลุงหลิวเอาแต่หัวเราะเป็นนัยๆ โดยที่ไม่ตอบตรงๆ
ใบหน้าของเฉินซือเหอกระตุก ส่วนหลี่ชิงกับฉินยี่ ทั้งสองต่างกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่
เกาเผิงรู้สึกมึนหัวกับความประหลาดใจที่พุ่งเข้ามานี้ หากลุงหลิวบอกเขาว่าคุณตามีสัตว์อสูรเป็นมังกรเขาคงจะพร้อมเชื่อทันที
“และลุงหลิวเอาภาพยนตร์อะไรให้มันดูล่ะครับ”
“ไม่รู้สิที่โน้นตอนนั้นมีหนังแค่ เพชฌฆาตหน้าพญายม (V for Vendetta) กับเรื่องฮันนิบาล (Hannibal) ล่ะมั้งไม่รู้สิ ก็ตอนที่อยู่บนเกาะนั้น มันมีหนังแค่ไม่กี่เรื่องเองที่ให้ดูวันหยุดพักผ่อน แต่ทุกครั้งที่เปิดหนังพวกนี้ เจ้าแร้งนี่มันก็จะนั่งข้างๆและดูอย่างเงียบๆเลยล่ะ”
“ดูเหมือนว่า มันกำลังคิดว่าตัวเองเป็นนักบวชอยู่แน่ๆ”
ตามที่คุณตาเล่าให้เขาฟัง นอกจากเขาที่ติดเกาะแล้วก็ยังมีลูกน้องของคุณตาจำนวนหนึ่งก็ติดอยู่กับเขา และหนึ่งในนั้นก็คือลุงหลิวนั่นเอง
ดูเหมือนว่าแร้งเครานัยน์ตาโลหิตจะถูกทำให้เชื่องในตอนที่อยู่บนเกาะ
“ไว้ลุงจะเล่าเรื่องของมันให้ฟังวันหลังล่ะกันนะเสี่ยวเผิง” ลุงหลิวกล่าว
หลังจากที่แร้งเครานัยน์ตาโลหิตยืนไว้อาลัยเสร็จ มันก็มองแมงมุมยักษ์ที่อวบอ้วนพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมา
ขณะที่มันกำลังจะพุ่งไปหาอาหาร จู่ๆ มันก็ได้ชะงักอย่างกะทันหัน พร้อมกับสั่นหัวเบาๆ
ดวงตาของลุงหลิวได้กระตุก พร้อมกับถอนหายใจออกมา
“เจ้านั่นมีนิสัยที่เหลือรับจริงๆ”
“หืม นิสัยแบบไหนเหรอครับ” เกาเผิงถาม
ผู้อำนวยการเฉินพยายามเงี่ยหูฟังให้ได้มากที่สุด เขาอยากจะรู้สัตว์อสูรตัวนี้ให้มากขึ้น เนื่องจากสัตว์อสูรชนชั้นราชวงศ์ค่อนข้างหายากเห็นพวกมันแค่ในทางโทรทัศน์เท่านั้น
ลุงแปลกมีท่าแปลกๆเรื่องกับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
“ตามธรรมชาติ นกแร้งเป็นสัตว์ที่ชอบกินซากศพใช่มั้ยล่ะ มันไม่ชอบล่าโดยที่เหยื่อยังเป็นๆแบบนี้ นั่นทำให้มันค่อนข้างใช้งานยาก ต้องปรับทัศนคติเกี่ยวเรื่องนี้ของมันเสียใหม่น่ะ”
‘ปรับทัศนคติ โอ้ มีการฝึกที่ซับซ้อนแบบนี้ด้วยหรือ’ ผู้อำนวยการเฉินแอบฟังอย่างลับๆ ท่าทางของเขาดูราวกับคนโง่เลย
“นางพญาแมงมุมนั่น ไม่ได้มีไว้ในแกกินนะ ตีมันจนให้สู้ไม่ได้และนำมันมาให้ฉัน” ลุงหลิวสั่งแร้งเครานัยน์ตาโลหิตผ่านพันธะสัญญา
แร้งเครานัยน์ตาโลหิตมองเหยื่อที่อยู่ข้างล่างอย่างเงียบๆ
‘เอ๋ นี่ไม่มีไว้ให้ฉันทานเหรอ’
“กุ๊กกรู”
มันส่งเสียงขันด้วยเสียงที่เบื่อหน่าย
จากนั้นมันก็ได้ยกหัวและตีปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันขึ้นไปสูงและเร็วมาก จากนั้นมันก็ได้หันลงสู่พื้น มันได้พับปีกและพุ่งลงมาด้วยความเร็วเหนือเสียง
*ฟิ้ววว*
มันพุ่งลงมาดั่งสายฟ้าฟาด
*ตูม*
นางพญาไม่สามารถหลบการโจมตีที่พุ่งลงมาได้ ทำให้มันบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย
มันส่งเสียงที่ปวดเจ็บและทรมานออกมา มันนอนยกขาที่เหลือ 6ขาขึ้นในอากาศ
แร้งเครานัยน์ตาโลหิตเอียงคอมองแมงมุมที่เลือดสาดอยู่ตรงหน้าและพลางที่ตัวของมัน ตอนนี้มันเปื้อนไปด้วยเลือด มันพยายามเลียเลือดที่เปื้อนตัวมันให้ออกให้หมด
เจ้าแร้งมีขนาดใหญ่มาก ตั้งหัวจรดหางยาว 6เมตร หากมันกางปีก จะกว้างถึง 15เมตร
ส่วนนางพญาแมงมุมปีศาจสีเทา มันดูเหมือนตัวจะใหญ่นั่นเพราะขาของมันทำให้มันดูใหญ่เกินจริง
นางพญาพยายามจะตะเกียกตะกายลุกยืนขึ้น แต่ทุกครั้งที่มันจะลุกขึ้นมา มันก็ถูกแร้งเหยียบหัวมันลงมาให้อยู่บนพื้นทุกครั้ง
หลังจากที่พยายามลุกหลายครั้ง แมงมุมก็ถูกตบให้กลับสู่พื้นทุกๆครั้ง ผ่านไปสักพักมันจึงนอนอยู่เงียบๆและไม่ลุกขึ้นมาอีก
เฉินซือเหอกระพริบตาปริบๆ กับภาพข้างหน้า
‘นี่มันชนะได้ง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย’
กลุ่มของเขาได้เตรียมการเรื่องนี้อย่างเคร่งเครียดเพื่อเผชิญหน้ากับมัน พวกคิดแผนรับมือมาหลากหลายวิธีแต่สุดท้ายก็จบง่ายๆแบบนี้
“เกาเผิง สัตว์อสูรของลุงของเธอแข็งแกร่งจริงๆ”
จู่ๆ แร้งเครานัยน์ตาโลหิตก็เปลี่ยนท่าทีของมันไปราวกับได้รับคำสั่งอะไรบางอย่าง มันก้มลงไปมองนางพญา จากนั้นก็พุ่งไปจิกที่ข้อต่อที่ขาของแมง ทำให้ขาของมันหลุดออกทีละข้าง ทีละข้าง
ใบหน้าของมันอิ่มเอิ่บไปด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก
เพราะของโปรดของมันคือพวกเอ็นจะไขกระดูก มันช่างแตกต่างกับแร้งสายพันธุ์อื่นจริงๆ
ถึงแม้มันจะชอบกินพวกเอ็น พวกกระดูก มันก็ไม่มีปัญหาในการย่อยอาหาร เพราะกรดข้างในกระเพาะของมัน สามารถย่อยได้แม้กระทั่งโลหะ แทบทุกอย่างที่มันกินสามารถย่อยได้หมดทุกอย่าง
เมื่อมันเป็นเอ็นขาแมงมุมจากขาที่มันฉีกมาก มันก็มองอย่างสนใจ มันมองซ้าย มองขวา ว่าไม่มีใครกำลังมองมันอยู่ จากนั้นมันก็หยิบขาและเคี้ยวมันอย่างลับๆ หลังจากที่ชิม มันรู้สึกว่าขานี้รสชาติดีมาก
นางพญาแมงมุมปีศาจสีเทาที่เห็นภาพข้างหน้า มันเริ่มทนไม่ไหว มันกำลังจะร้องไห้และส่งเสียงร้องออกมา
*ป้าบ*
ปีกของแร้งเครานัยน์ตาโลหิตฟาดไปที่ศีรษะของแมงมุม
“เงียบ อย่าร้อง เดี๋ยวเจ้านายของฉันก็มาเห็นสิ”