Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 139
ณ ห้องปฏิบัติการพิเศษ ห้องมีจอหลายจอไว้คอยตรวจสอบเหล่าผู้เข้าสอบและในจอเหล่านี้ พวกเขาได้ล็อคจอของเกาเผิงพวกดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา
เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าเกาเผิงมีทักษะอะไรบ้างและเกาเผิงก็ยังไม่ได้แสดงทักษะทั่วไปอย่าง บาเรียธาตุ ให้พวกเขาเห็นดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่า เกาเผิงคงไม่มีทักษะอะไรไว้ป้องกันตัวแน่ๆ
“กัปตันครับ ผมรู้สึกว่าชายคนนี้เขาทำตัวขี้ขลาดเกินไปรีเปล่าครับ?” เจ้าหน้าที่ได้ถามชายหัวโล้นที่อยู่ในห้อง
“โจวเลย์นี่ไม่ใช่ความขี้ขลาดแต่มันคือกลยุทธ์ต่างหาก” กัปตัวกล่าวอย่างจริงจัง “เราควรรู้ตัวว่าเวลาไหนควรบุก เวลาไหนควรถอย นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำเป็นออกล่าประสบผลสำเร็จ คนที่บุกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังสุดท้ายก็จะพ่ายแพ้และตายชีวิตได้เข้าใจมั้ย”
เจ้าหน้าที่ได้แปลกที่เป็นกัปตันของเขาดูเคร่งเครียดมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ ดูเหมือนเขาคงจะมีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ…
……….
พวกเกาเผิงได้วิ่งหนีเดินเข้าในป่าลึกขึ้นไปเรื่องยๆ เกาเผิงได้สั่งให้ดัมมี่นำทางพวกเขา
แต่จู่ๆ ดัมมี่ได้ถอยหนีตัวอะไรบางอย่าง ที่พุ่งออกมาจากต้นไม้มาหาดัมมี่อย่างรวดเร็ว
มันเป็นตั๊กแตนกิ่งไม้ขนาดยักษ์ที่ขนาดตัวของมันใหญ่มาก
ย้อนกลับไปก่อนจะเกิดมหาภัยพิบัติ ได้มีแมลงชนิดหนึ่งที่ครองสถิติ แมลงที่ยาวที่สุดในโลกมีชื่อวาตั๊กแตนกิ่งไม้หัวเซีย ที่มีขนาดยาวถึง1เมตร ยาวพอๆกับแขนของผู้ชายวัยผู้ใหญ่เลย จากแมลงกว่า 80,000สายพันธุ์ ที่มนุษย์ได้ค้นพบ แมลงตัวนี้มีขนาดยาวที่สุด
ถึงจะมีตั๊กแตนกิ่งไม้หลากสายพันธุ์ที่ภูมิภาคหัวเซีย แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าตั๊กแตนกิ่งไม้ตัวมานี้อาจจะวิวัฒนาการมาจากตั๊กแตนกิ่งไม้หัวเซีย
[ชื่อสัตว์อสูร] ตั๊กแตนกิ่งไม้มายา (กลายเป็นสัตว์อสูรประเภทผี)
[เลเวล] 35
[ระดับ] สูง
[คุณสมบัติ] ธาตุไม้ / อันเดท
[จุดอ่อน] 1.ธาตุไฟ 2.ธาตุโลหะ 3.ในตรงบริช่องท้องของมัน จะมีจุดๆหนึ่งที่มีสีขาวขนาดเท่าเม็ดข้าว หากโจมตีตรงนั้นจะสร้างความเสียร้ายแรงให้กับตั๊กแตนกิ่งไม้มายา
[ทักษะ] กายาคงกระพัน เลเวล 2
หลังจากที่ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาได้ออกมาจากที่ซ่อน เกาเผิงก็ได้เห็นมันเต็มตา ตัวของมันยาวถึง 12เมตร ขาแต่ข้างของมันยาว 6เมตร
เมื่อได้เห็นเลเวลและระดับของมัน เกาเผิงก็อยากจะรีบหนีจากที่นี่ไปให้ไกลที่สุด
ถึงแม้เขาจะรู้ถึงจุดอ่อนของมัน แต่ไม่รู้จะหามันได้ตรงไหน จุดสีขาวขนาดเท่าเม็ดข้าว มันคงไม่โง่เผยให้เขามันได้ง่ายๆหรอก
เมื่อเหยื่อตั้งท่าจะหนีไปตั๊กแตนกิ่งไม้มายา มันก็ส่งคำรามทันที่ มันได้พุ่งเข้ามาหาเกาเผิง มันยกขาขึ้นมาแทงลงราวกับหอกที่แหลมคม
เมื่อสตีปี้เห็นท่าไม่ดี มันรีบพุ่งเข้ารับการโจมมีแทนเกาเผิง มันใช้ขาหน้าที่เหมือนโล่รับการโจมตี แต่การโจมตีครั้งแรกเป็นตัวล่อ มีการโจมตีอีกทางพุ่งมาโจมเข้าที่ขาของสตีปี้ ทำให้ขาของมันหลุดออกมา
มันส่งเสียงร้องด้วยความเป็นปวด ด้วยการโจมตีที่ตั้งตัวไม่ทันนี้ ทำให้สตีปี้กลิ้งไปไกลหลายเมตรกระแทกต้นไม้เข้าเต็ม
สตีปี้ที่ค่อยๆฝืนลุกขึ้นมันส่งบอกเกาเผิงว่า
“เจ้านายหนีไป”
ถึงแม้สตีปี้จะเสียขาไปที่มันก็ฝีนลุกขึ้น พร้องกับจ้องตั๊กแตนกิ่งไม้มายาด้วยแววตาที่หวาดกลัวแต่มันก็ยังแยกเขี้ยวและยกขาหน้าของมันขึ้น เตรียมพร้อมที่จะสู้กับตั๊กแตนกิ่งไม้มายา
ดวงตาของเกาเผิงกระตุกเล็กน้อย เขาได้หันไปหาดัมมี่และพูดกับมันว่า
“พวกเราจะไม่หนีและทิ้งพวกพ้องของเราไป พวกเราจะสู้ให้ถึงที่สุด” เกาเผิงตะโกน
หลังจากที่เกาเผิงพูดเสร็จ ดัมมี่ได้ส่งเสียงคำรามออกมา มันเร่งการทำงานของหัวใจและพุ่งไปหาตั๊กแตนกิ่งไม้มายา
“ที่ท้องของมันที่จุดอ่อนอยู่ ให้มองหาจุดสีขาวขนาดเม็ดข้าวเข้าไว้ และโจมตีไปที่จุดนั้นซะ”
ถึงเกาเผิงจะรู้ว่าจุดอ่อนของตั๊กแตนกิ่งไม้มายาจะหายาก แต่ก็ได้บอกให้พวกสัตว์อสูรของเขาให้รับรู้ไว้ก่อน
หัวใจของดัมมี่ได้เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง มันได้วิ่งไปหาตั๊กแตนกิ่งไม้มายา จากก็ได้กระโดดพุ่งไปในอากาศ ก่อนที่จะดีดตัวลงมาพร้อมกับหมัดที่ประเคนเข้าใส่ตั๊กแตนกิ่งไม้มายา
เมื่อตั๊กแตนกิ่งไม้มายาเห็นอย่างนั้น มันจึงยกขาของมันขึ้นมาแล้วแทงสวนกลับไปด้านบน
*พี่บ*
ขาแทงเข้าไปที่ดัมมี่แต่ว่า ดัมมี่มันไม่มีเนื้อหนัง ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาได้แทงผ่านไปที่ช่องของโครงกระดูกของดัมมี่
ขณะที่ตั๊กแตนกิ่งไม้มายากำลังมึนงงอยู่ดัมมี่ก็ได้พุ่งลงมาบดขยี้ร่างของมันอย่างเต็มแรง
*ตูม*
ด้วยแรงหมัดที่มหาศาลเกือบจะทำให้ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาหมดสติด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ตั๊กแตนกิ่งไม้มายามองดัมมี่อย่างงงงวย
‘ขาของฉันก็เสียบทะลุร่างกายของมันนี่ ทำไมมันไม่เป็นอะไรเลย’
เมื่อมันเห็นว่าขาของมันเสียบค้างอยู่ที่ตัวของดัมมี่อยู่ มันจึงตั้งใจจะเหวี่ยงดัมมี่ออกไป
แต่มันประน้ำหนักของดัมมี่ต่ำไป แรงแค่นั้นทำอะไรดัมมี่ไม่ได้หรอก
จากนั้นดัมมี่ก็ใช้หมัดซ้ายอัปเปอร์คัตไปที่คางของมันเต็มๆ
*ปัง*
ตอนนี้ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาที่ได้รับบาดเจ็บหนัก มันกำลังบ้าคลั่ง มันส่งเสียงคำรามใหญ่ของขาของมันระดมแทงไปที่ดัมมี่และต้นไม้รอบๆอย่างบ้าคลั่ง ต้นไม้พวกนั้นค่อยๆโค่นล้มทีละต้น เศษไม้ปลิวว่อนไปในอากาศ
เกาเผิงไม่คิดว่าการต่อสู้จะไปได้ไกลขนาดนี้ ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขารู้สึกทึ่งมาก
ราวกับว่าดัมมี่เป็นศัตรูโดยธรรมชาติของตั๊กแตนกิ่งไม้มายา โดยที่ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาจะใช้การโจมตีจากขาที่เหมือนหอกแทงเข้าไปที่เหยื่อ แต่ดัมมี่ไม่มีเนื้อหนังมันมีแต่กระดูก จึงทำให้ตั๊กแตนกิ่งไม้มายารับมือกับดัมมี่ได้ยากมาก
“ไปเลยดัมมี่ โต้กลับมาเลย เอาชนะมันให้ได้” เกาเผิงส่งเสียงเชียร์ดัมมี่อย่างเต็มที่
ก่อนที่ดัมมี่จะสวนการโจมตี ดัมมี่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี กระดูกของมันส่งเสียง ‘แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก’ ดังขึ้นมา
ถึงแม้ตั๊กแตนกิ่งไม้มายาจะเพิ่งเคยเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่มีร่างเนื้อเป็นครั้งแรก แต่มันก็เรียกคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเปลี่ยนจากโจมตีที่ส่วนอื่นๆมาระดมโจมตีที่ศีรษะของดัมมี่แทน เพราะมันรู้ตัวแล้วว่าแทงตรงส่วนอื่นไม่เข้าจึงเปลี่ยนมาที่ศีรษะแทน
ดัมมี่พยายามปัดป้องศีรษะอย่างเต็มที่ แต่ด้วยการที่มาจากทุกทิศทางจึงไม่สามารถปกป้องได้ทั้งหมด ที่กะโหลกของดัมมี่ในตอนนี้เริ่มแตกร้าว รอยแตกที่กะโหลกของมันเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงเวลาที่วิกฤตินี้ต้าซื่อที่แอบซุ่มใกล้ๆ ได้พุ่งไปช่องท้องของตั๊กแตนกิ่งไม้มายาเพื่อมองหาจุดอ่อนที่เกาเผิงได้บอกพวกมันไว้