Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 142
สตีปี้ได้ขยับขาข้างใหม่ที่งอกออกมาไปรอบๆ และเห็นว่ามันสามารถใช้ได้เหมือนเดิมโดยไม่มีอะไรที่ผิดปกติ
‘ว้าวการฟื้นฟูของฉันสุดยอดมาก’ สตีปี้คิด
สตีปี้ได้ยกโล่ขึ้นแล้วเดินหันข้างเข้าไปในป่าพร้อมกับทุกคน ด้วยร่างที่ใหญ่ของมันทำให้ต้องเจออุปสรรคกีดขวางมากมาย ต้องทำให้มันคอยเอาขาหน้าของมันคอยปัดเศษพวกนั้นในบางครั้ง
ตอนนี้สตีปี้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถกลายเป็นชนชั้นนักรบได้แล้ว ทั้งระดับและเลเวลก็พร้อมแล้ว หากโชคเข้าข้างมันอาจได้เป็นชนชั้นนักรบในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็เป็นได้
และจะทำให้เกาเผิงได้มีสัตว์อสูรชนชั้นนักรบถึง 3ตัว ด้วยชนชั้นนักรบของสตีปี้นี้มันจะมีประโยชน์อย่างมากในเวลาทีมไฟต์
ส่วนบาดแผลของต้าซื่อก็ดีขึ้นมาก ตอนนี้ใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว
“ผู้เข้าสอบแพนเฟิง ได้ออกจากการสอบ ผู้เข้าสอบแพนเฟิง ได้ออกจากการสอบ” เสียงประกาศดังก้องไปในอากาศ
‘อีกคนหนึ่งแล้วสินะ’ เกาเผงิถอนหายใจ นี่เป็นรายที่ 5ของวันนี้แล้ว ซึ่งมันก็ตรงตามที่เกาเผิงคาดกาณ์ไว้ว่าวันนี้ยอดผู้เข้าสอบจะออกมากที่สุด
ตอนนี้มีคนที่ต้องออกจากการสอบถึง 30คน แล้ว
………
บนรายการที่ถ่ายทอดสดการสอบเอนทรานซ์รอบที่สอง ทางโปรดิวเซอร์ได้บอกกับเขาว่าให้เขากล่าวยกย่องผู้เข้าสอบให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรื่องนี้ทำให้พิธีกรรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากเพราะมันพูดง่ายแต่ทำยาก
“ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรรุ่นเยาว์เหล่านี้ ตอนนี้พวกเขาได้พยายามอย่างเต็มที่” พิธีกรกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ “แต่ที่นี่คือป่าในภูเขาดายังที่มีสัตว์อสูรมากมายเต็มไปด้วยความอันตรายแบบนี้ ทำให้พวกที่เป็นเด็กมัธยมปลายหลานคนอาจจะยังปรับตัวไม่ได้”
“หากไม่มีปืนไฟยิงสัญญาณฉุกเฉิน นอกจากออกจากการสอบแล้ว พวกยังต้องเสียชีวิตอีกด้วย” ดวนหวู่กล่าวแทรกขึ้นมาพลางส่ายหัว “ผมคิดว่าเด็กพวกนี้ยังอ่อนซ้อมมากเกินไป ต้องฝึกให้มากกว่านี้”
สีหน้าของพิธีกรไม่ค่อยจะสู้ดี
‘ทำไมผู้ชายคยนั้นยังอยู่ในรายการของเขาต่อ’
ถึงแม้สิ่งที่เขาพูดจะฟังไม่รื่นหูแต่เขาก็พูดได้ตรงจุดมาก
แรกเริ่มเดิมที่จุดมุ่งหมายของการเผยแพร่การถ่ายทอดสดในการสอบรอบที่สองนี้เพื่อต้องการให้สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนต้องการเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรมากขึ้น ทำให้การถ่ายทอดสดนี้ไม่เพียงแค่ฉายแค่ในภูมิภาคหัวเซียเท่านั้นแต่มันได้ฉายไปทั่วโลก
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์รัฐบาลโลกรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
เนื่องจากการที่ผู้เข้าสอบได้ทยอยออกจากการสอบรอบนี้ไปอย่างรวดเร็วมาก แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่ต่ำต้อยของพวกเขา บางคนก็มีความรู้การเอาตัวรอดในป่าแบบผิดๆ และสภาพที่สังเวชของผู้เข้าสอบบางคนก็กลายเป็นมีมและได้เผยแพร่เป็นไวรัลในสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้
ทำให้พวกเขามองว่าการสอบนี้เป็นโชว์ปาหี่ที่ดูไร้ประโยชน์ซะมากกว่า
พวกผู้ชมเขาได้คาดหวังกับการชมการสอบนี้มาก แต่ภาพที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่พวกเขาได้คาดหวัง ด้วยความผิดหวังนี้ทำให้ผู้ชมก่นด่าเสียๆหายๆมากขึ้นทุกวันๆ จนไม่มีใครอยากจะดูการถ่ายทอดสดนี้อีกแล้ว
………
“ในการสอบรอบนี้เป็นความผิดพลาดของพวกเราที่เด็กเหล่านี้มีประสบการณ์เอาตัวรอดในป่าน้อยกว่าที่พวกเราคาดไว้” นายพลระดับสูงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ที่นี่คือห้องประชุมที่มีข้าราชการระดับสูงนั่งประชุมอยู่
“ทุกความเห็นออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าสถานการณ์ของพวกเขาในป่าเลวร้ายมาก เหมือนเราส่งเด็กของพวกเขาไปสู่ความตาย” ผู้เฒ่าสูทขาวที่ตาสีฟ้าได้กล่าว “อย่างไรก็ตามพวกเขาทนต่อการเยาะเย้ยของสังคมออนไลน์ได้ มันจะมีประโยชน์ต่อพวกเขาในระยะยาว”
“ใช่แล้ว มันมีประโยชน์ในระยะยาวอย่างแน่นอนแต่คุณอย่าลืมจุดประสงค์ของการสอบครั้งนี้สิ การสอบมีขึ้นเพื่อแสดงศักยภาพของผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรรุ่นเยาว์ในทุกคนได้เห็น แต่ดูเหมือนว่าศักยภาพของพวกเขาจะต่ำเกินไปและมันจะกระทบกับความเชื่อมั่นของคนทั่วไป นี่สิหายนะของจริง” ผู้เฒ่าสูทดำกล่าว
หลังจากนั้นห้องประชุมได้ตกสู่ความเงียบงัน
“บางทีเราอาจจะเลื่อนการสอบรอบที่สามออกไปก่อนหรือไม่ก็ให้เวลาพวกเขา 3เดือนในการฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อให้พวกเขาได้แข็งแกร่งเหมาะสมกับตำแหน่งที่พวกเขาได้รับ”
“ฉันก็หวังว่า สามเดือนหลังจากนี้พวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของพวกเขา”
ดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่มีข้อเสนออื่นเพิ่มเติมจึงทำให้ห้องประชุมกลับมาเงียบอีกครั้ง
“งั้นก็ดี เราจะให้พวกเด็กๆได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น” ผู้เฒ่าสูทดำกล่าว
ในห้องประชุมมีทั้งหมด 7คน มี4คนเห็นด้วย 2คนไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง 1คน
“ญัตตินี้ผ่าน” ผู้เฒ่าสูทขาวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เราจะให้เวลาพวกเขาเพิ่มอีก 3เดือน”
……..
“เห็นมั้ย หากอยากได้คะแนนสูงสุดก็ทำเพียงแค่เอาตัวรอดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้” เกาเผิงได้พูดสอนกับพวกเด็กๆของเขา ขณะที่ได้ฟังการประกาศตัดสิทธิ์ผู้เข้าสอบที่ประกาศเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้
พวกมันมองเกาเผิงและพยักหน้าแสร้งว่าเข้าใจ แม้พวกมันจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกาเผิงพูดเลยก็ตาม
ในป่าพวกเสาคะแนนอันใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางของป่า แต่ก็ยังมีเสาคะแนนขนาดเล็กจำนวนหนนึ่งกระจายอยู่รอบๆป่า ดังนั้นเกาเผิงจึงมุ่งไปหาเสาคะแนนอันเล็กแทนและทำลายพวกมันเพื่อเอาคะแนน
ถึงแม้ว่าคะแนนจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างหวือหวาแต่มันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากทำเป็นนี้ไปเรื่อยๆจนครบวันที่ 15 คะแนนของเขาต้องติด 1ใน12อย่างแน่นอน
ที่ภูเขาดายังแห่งนี้เรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่ขึ้นเป็นไปหมด เกาเผิงไปตามทางพลางมองทิวทัศน์ที่อยู่รอบข้างพร้อมสูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์
ทิวทัศน์ที่นี่เป็นอะไรที่สุดยอดมากและอากาศก็บริสุทธิ์ดัง ข้อเสียก็คือมีสัตว์อสูรร้ายซ่อนตัวในภูมิทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้
กลุ่มของเกาเผิงได้เดินสำรวจป่าไปเรื่อยๆ จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ฟังดูคล้ายกับเสียงฟ้าร้อง
พวกเขาจึงเดินเข้าไปสำรวจแล้วพบว่าเสียงมาจากตัวอะไรและเขาค้นพบสถานที่แห่งนี้
ที่นี่มีความชื้นสูงมาก ถึงขนาดมองเห็นสายหมอกได้เลย
ที่บริเวณก้อนหินข้างๆลำธาร มีกบสีฟ้าขนาดใหญ่ที่มีลายคล้ายกับแตงโมนั่งอยู่ นอกจากตัวที่นั่งอยู่บนก้อนหินแล้วก็ยังมีกบตัวอื่นแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำขนาดใหญ่
เกาเผิงมองพวกมันอย่างสงสัย
‘พวกมันดูคุ้นๆจัง’
ตรงคอของกบได้ขยายเข้าออกเป็นครั้งคราว สิ่งนี้ทำให้พวกกบส่งเสียงร้องออกมา