Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 145
คริสตัลสัตว์อสูรชนชั้นนักรบของสัตว์อสูรประเภทปรสิตนั้นค่อนข้างหายาก มันจะสร้างกำไรให้เขาได้อย่างมหาศาลแน่ๆ
เกาเผิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงแต่ก่อนที่เขาต้องกินไข่ทุกมื้อ ไม่ได้กินเนื้อเลย เรื่องนั้นก็ผ่านมาได้สักพักแล้วสินะ
เกาเผิงปล่อยให้ดัมมี่ทุบทำลายเสาคะแนน เขาเหลือบไปมองพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วมตะไคร่หนาๆ พวกมันคงเป็นต้นอ่อนของเฟิร์นแน่ๆ เขาได้พยายามเผาทำลายมัน แต่เผาไปได้สักพักไฟก็ได้มอดลง
เขาได้ถอนหายใจ พวกมันต้านทานไฟสูงจริงๆ
ครั้นจะให้ต้าซื่อปล่อยสายฟ้าใส่พวกมันก็ทำไม่ได้เพราะตะไคร่พวกนี้กระจายเป็นบริเวณกว้างมาก
แต่หากปล่อยไว้สักวันหนึ่งพวกมันได้เติบโตเป็น เฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าอย่างแน่นอน
เฟิร์นคือว่าเป็นพืชที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล อาจเรียกพวกมันได้ว่าซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ การปรับตัวของพวกมันช่างน่าอัศจรรย์ใจมาก
ตะไคร่พวกนี้ค่อยดูดน้ำสารอาหารในดินอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันค่อยๆหนาขึ้นเรื่อยๆ เกาเผิงได้ลองไปเหยียบมันก็รู้สึกว่ามันยืนอยู่บนพรมหนาๆเลย เขามองพวกมันด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
‘โอ้ว มันนุ่มมาก’
…..
“คะแนนของผู้เข้าสอบอันดับหนึ่งได้แก่ เย่ฮาน 778คะแนน ส่วนอันดับ 2 ห่างเพียงแค่ 10คะแนน เท่านั้นนั่นคือจุนเหมย โอ้จุนเหมยได้ทำคะแนนเพิ่มอีก 4คะแนนแล้วครับ เธอตามผู้นำอย่างติดๆเลยครับ” พิธีการกล่าวรายงานขณะที่ด้านหลังตัวเลชได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างต่อเนื่อง
บนท้องฟ้าโดรนไร้คนขับได้จับภาพอนาคอนด้าสีดำขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
มันได้บินลงต่ำเพื่อเข้าไปดูใกล้ๆ กับพบว่าที่นี่มีการต่อสู้อันดุเดือดมาก ต้นไม้หักโค่น มีสัตว์อสูรนอนตายเป็นมาก พื้นดินย้อมไปด้วยสีเลือด สภาพขอพวกมันแทบจะออกอากาศไม่ได้เลย
“ที่1ที่2ในตอนนี้ทั้งสองแข่งกันทำคะแนนอย่างดุเดือดมาก ดูอย่างอนาคอนด้าทมิฬสิมันไม่ยอมกินสัตว์อสูรเลย มันเลือกที่จะฆ่าเพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ”
“มีอีกเรื่องหนึ่งครับ คุณจำผู้เข้าสอบที่ย่างปลาที่ตอนนี้เขากำลังได้รับความนิยมจากสังคมออนไลน์ได้มั้ยครับ” พิธีกรได้ถามแขกรับเชิญ
ชายที่อยู่ตรงข้ามเป็นคนใหม่ชื่อ หยินหวู่ เขาได้มาแทนที่ดวนหวู่ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ตอนแรกหยินหวู่ไม่พอใจอย่างมาก เขาคัดค้านอย่างเต็มที่ แต่หลังจากที่เขารู้ว่าเบื้องบนได้สั่งมาที่เขาโดยตรง ทำให้รู้สึกกดดันอย่างมาก เขาทำใจอยู่นานก่อนที่จะตอบรับในที่สุด ถึงเขาจะถูกบังคับแต่เขาก็ทำงานได้อย่างมืออาชีพ
“แน่นอนครับผมจำได้ ที่เขาย่างปลาด้วยท่าทางที่เหม่อลอยใช่มั้ยครับ” หยินหวู่รับส่งกับพิธีกรอย่างดี
“เราได้ตรวจสอบพบว่า ตอนนี้เขายังอยู่ในการสอบและคุณสงสัยมั้ยครับว่าตอนนี้เขาได้อันดับที่เท่าไหร่” พิธีกรได้ยิ้มอย่างมีเลศนัย
จากนั้นหน้าจอด้านหลังได้เปลี่ยนอย่างฉับพลัน แสดงให้เห็นข้อมูลของเกาเผิง
ชื่อ: เกาเผิง
อันดับ: 15
สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมที่อยู่หน้าจอได้เบิกตาด้วยความตกใจทันที พวกไม่อยากจะเชื่อว่าเกาเผิงได้ถึงอันดับที่ 15
“ถึงแม้เขาจะได้อันดับที่ 15 แต่การจะผ่านไปรอบต่อไปนั้นจำเป็นจำต้องอยู่ในอันดับที่ 12 และการยังมีผู้เข้าสอบเหลืออยู่ 121คนในป่าภูเขาดายังในตอนนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจะเข้าไปอยู่ในอันดับที่12 ได้ไม่ยากในเวลาที่เหลือ”
“ฮัดชิ่ววว”
เกาเผิงจาม เขาลูบจมูกด้วยความงุนงง มีใครบ่นถึงเขารึไง
*หึ่ง หึ่ง*
เกาเผิงเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนก็ได้พบกับโดรนไร้คนขับลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา
พอรู้ตัวเองกำลังจับอยู่ เกาเผิงก็รีบเก๊กท่าทันที เขาตัวทำให้ภาพออกมาดูดีที่สุด เขาต้องสร้างภาพให้ดูดีให้ผู้ชมชื่นชมในตัวเขา
โดรนไร้คนขับแช่ภาพเพียงสั้นๆจากนั้นก็บินออกไป
‘เฮ้อไปแล้วสินะ’
หลังจากที่โดรนออกไปเกาเผิงก็ทำตัวเหมือนเดิมทันที จากนั้นเขก็เขาสำรวจในป่าต่อเพื่อทำคะแนน
ถึงแม้ว่าเกาเผิงจะอยู่บริเวณรอบนอกแต่คะแนนของเขาก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเหล่าผู้เข้าที่อยู่ในส่วนในกลางป่าเลย
ที่ในใจกลางป่านั้นมีสัตว์อสูรชนชั้นนักรบเป็นจำนวนมากและพวกมันแข็งแกร่งกว่าที่ใครหลายคนคิด
สาเหตุส่วนใหญ่ที่พวกเขาไม่ยอมหนีเมื่อเจอสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งก็คือการถ่ายทอดสดนี่เอง การที่เลือกจะหนีต่อหน้าคนนับล้านเป็นสถานการณ์ที่น่าลำบากใจมาก พวกเขาห่วงหน้ามากกว่าที่คิด ผลสุดท้ายจึงทำให้อัตราการออกจากการสอบสูงมากกว่าที่ควรจะเป็น
จริงอยู่ว่าการถ่ายทอดสดนั้นไม่ผิดแต่การที่คนทั่วไปมาเห็นเหล่าตัวแทนของเมืองตัวเองต่างวิ่งหนีอย่างน่าสมเพชแบบนี้ มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างมาก ก็หวังว่าการสอบเอนทรานซ์รอบที่สามที่เหล่าผู้เข้าสอบมีความสามารถมากกว่าคนทั่วไปจะช่วยให้เรียกศรัทธากลับมาอีกครั้ง
หากเกาเผิงปละผู้เข้าสอบคนอื่นๆรู้ว่าที่พวกเขาสอบในตอนนี้มีกระแสลบมากกว่าที่พวกเขาคิด พวกเขาคงรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ
ย้อนกลับมาที่เกาเผิง ที่ตอนนี้เขายังเน้นฟาร์มคะแนนบริเวณรอบนอกอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากทำลายเสาคะแนนแล้ว การสังหารสัตว์อสูรก็ได้คะแนนเช่นกัน
เกาเผิงทำคะแนนไม่สูงมากแต่ก็ทำอย่างต่อเนื่องและเขาก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งละทรงพลังจนทำให้ตัวเองต้องออกจากการสอบนี้ด้วย
หลายวันผ่านมา มีผู้เข้าสอบ 5คน ที่มีคะแนนสูงกว่าเขาได้ออกจากการสอบและหนึ่งในนั้นต้องจากไปอย่างถาวรด้วย
ในส่วนลึกของป่าที่ยิ่งความเสี่ยงสูงก็จะได้รับผลที่มากขึ้นตามมา ด้วยความที่มันอันตรายขนาดนี้คุณเตรียมใจให้พร้อมว่าคุณอาจถูกฆ่าได้ตลอดเวลา
“การสอบเอนทรานซ์รอบที่สองได้สิ้นสุดแล้ว คะแนนของพวกคุณจะหยุดสะสมตั้งแต่บัดนี้ ขอให้พวกคุณเดินทางไปยังเขตปลอดภัยเพื่อให้พวกเราเข้าไปรับพวกคุณกลับ” มีเสียงดังขึ้นมาจากนาฬิกาข้อมือซ้ายของเกาเผิง
เกาเผิงได้อ้าปากหาวอย่างเกียจคร้านที่ด้านหลังของเขาที่สัตว์อสูรที่ดูเหนื่อยล้า สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะรอบนอกแทบไม่เหลือเสาคะแนนอีกแล้ว เกาเผิงจึงสั่งให้พวกมันออกล่าสัตว์อสูรอย่างมากมาย รวมทั้งสัตว์อสูรชนชั้นนักรบด้วย ต้องขอบคุณสตีปี้ที่กลายเป็นชนชั้นนักรบแล้วทำให้พวกเขามีตัวแท้งค์ออกล่าได้สบายขึ้น นอกจากนี้ใยแมงมุมของสตีปี้ ที่คอยสนับสนุนให้พวกเขาต่อสู้ได้ง่ายขึ้น
เขาทำดีที่สุดแล้ว เขาไม่เสียใจว่าผลที่ออกจะเป็นอย่างไรก็ตาม
2ชั่วโมงต่อเกาเผิงได้นั่งเครื่องบินกลับสู่เมืองเจียงหนาน เขาอยู่ในที่ๆห่างไกลความเจริญมานาน ตอนนี้เขาคิดถึงความวุ่นวายของเมืองใหญ่เป็นอย่างมาก
เหล่าผู้เข้าสอบได้เข้าพักโรงแรมที่ทางสำนักงานการสอบจัดไว้ให้ พวกมาถึงโรมแรมในสภาพอ่อนล้าพร้อมที่จะหลับได้ทุกเมื่อ
ส่วนผลการสอบนั้น ได้ปรากฏทันทีหลังที่การสอบสิ้นสุดลง
เกาเผิงนั้นได้อันดับที่ 11